Daily Budget กับ Lifetime Budget คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร สำหรับใครที่ทำ Digital Marketing และเป็นคนที่ตั้งค่าโฆษณาเองเป็นประจำ จะสังเกตเห็นว่า การใช้งบประมาณทำแคมเปญจะมีอยู่ 2 แบบ หลัก ๆ นั่นคือ Daily Budget กับ Lifetime Budget ซึ่งมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ Digital Marketing ไหน ๆ มักจะแบ่งการใช้งบเป็น 2 แบบดังที่กล่าวมาไว้ (แต่ในบางเครื่องมือ บาง Objective ก็จะมีให้เลือกอย่างเดียว) ในแต่ละแบบจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป มาดูกันว่าแต่ละอย่างแตกต่างกันแค่ไหน
Daily Budget กับ Lifetime Budget คืออะไร แตกต่างกันแค่ไหน
งบแบบ Daily Budget คืออะไร ใช้งานแบบไหน

อันนี้ก็ตรงตัวเลยนั่นคือการใช้งบประมาณต่อวัน เรากำหนดได้เลยว่าต่อวันจะใช้งบรวมกันไม่เกินเท่าที่เรากำหนดไว้ ซึ่งโดยปกติแล้วก็มักจะไม่เกินจริง ๆ นั่นแหละ แต่ว่าอาจจะมีเกินแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ หน่วยหลักสิบก็เป็นไปได้
ข้อดีของการใช้งบแบบ Daily Budget
- เหมาะกับแคมเปญทำโปรโมชัน ที่มีระยะสั้น ๆ
เช่นพวกแคมเปญ Double Day ของทางฝั่ง eCommerce Platform เช่น 4.4, 5.5 เพราะว่ามักจะมีระยะการใช้งานที่สั้น มักจะมีจำนวนวันโปรโมชั่นที่ชัดเจน และเราสามารถปรับเงินให้เพิ่มเฉพาะวันที่เราต้องการได้ ต่างจาก Lifetime Budget ที่คิดเฉลี่ยต่อวันมาแล้ว จึงเหมาะมาก ๆ กับการทำโปรโมชันระยะสั้น
- เพิ่มเงินในวันที่ต้องการเน้นได้
แต่ละสินค้าและบริการ ต่างมีช่วงพีคในการขายที่ไม่เหมือนกัน หลายคนอาจจะเน้นช่วงปลายเดือน ให้ช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนใช้เงินเยอะขึ้นก็ได้ ซึ่งเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับสินค้าและบริการของเราได้
ข้อเสียการใช้งบแบบ Daily Budget
- คุมงบยาก อาจใช้งบเกิน หรือขาดได้
พอเป็นการใช้ในรูปแบบของ Daily หรือต่อวัน จะทำให้เงินที่เราต้องการจะใช้คลาดเคลื่อนได้ ซึ่งปกติแล้วการวางงบการตลาดมักจะวางเป็นรายเดือน ว่าแต่ละเดือนจะใช้เท่าไร กับช่องทางอะไรบ้าง ถ้าเราไม่ปรับเลย เอาจำนวนเงิน หารด้วยจำนวนวันที่ต้องใช้ แล้วตั้งค่าตามปกติ ก็คุมงบได้ แต่ในความเป็นจริงคนที่ใช้งาน Daily Budget ก็มักจะมีการปรับจำนวนเงินบ่อย ๆ ทำให้เราสับสนไปแล้วว่า ช่วงเวลปัจจุบันใช้เงินไปเท่าไรแล้ว ต้องมาลบกับเงินที่เหลือ หารด้วยจำนวนวันใหม่ แล้วปรับอีกที ก็จะช่วยได้ แต่อย่าลืมว่าเราไม่ได้ทำแค่แคมเปญเดียวกับแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้น ทำหลายแคมเปญมีงงหรือสับสนแน่นอน จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ใช้เงินเกิน หรือเงินขาดได้
งบแบบ Lifetime Budget คืออะไร เหมาะกับใคร ใช้งานอย่างไร

สำหรับงบประมาณแบบ Lifetime Budget คือการใช้งบแบบภาพรวมว่าทั้งแคมเปญนี้ ไม่เกินตามที่เรากำหนดไว้ การที่เราตั้งค่างบโดยรวมของ Budget ไว้เลย แล้วมาตั้งวันที่ต้องการให้ใช้เงิน เช่นเราตั้งค่า Lifetime Budget ด้วยเงิน 10,000 บาท ระยะเวลาวันที่ 1-10 พฤษภาคม รวมเป็นระยะเวลา 10 วัน โดยเฉลี่ยจะใช้เงินวันละ 1,000 บาทนั่นเอง
ข้อดีของการใช้งบแบบ Lifetime Budget
- คุมงบง่าย โอกาสใช้เงินเกินหรือไม่ถึง น้อยมาก
นับว่าเป็นจุดเด่นของการใช้งานแบบ Lifetime Budget เลยก็ว่าได้ เพราะการทำงบแบบ Lifetime Budget นั้น เพียงแค่เราระบุจำนวนเงินโดยรวมลงไป แล้วก็แค่กำหนดวันเท่านั้น ซึ่งเรามักจะกำหนดวันเป็นรายเดือน รันไปเลยทั้งเดือน หรือที่เรียกว่าแบบ Always on ต่อให้เรามีหลายแคมเปญ เราก็จะไม่สับสน เพียงแค่เราเอาเงินของแต่ละแคมเปญมารวมกัน ให้ไม่เกินงบที่ตั้งเอาไว้ - เหมาะกับแคมเปญ Always on ที่เปิดไว้ทั้งเดือน
สำหรับใครที่เน้นการทำแคมเปญแบบที่รันยาวทั้งเดือนต่อเนื่อง หรือที่เราเรียกว่า Always On การใช้งบแบบ Lifetime Budget ถือว่าเหมาะมาก ๆ แคมเปญที่ต้องรันไว้ตลอดเวลา มักจะเหมาะกับธุรกิจที่เกี่ยวกับ Lead เป็นหลัก ไม่ได้มีโปรโมชันหวือหวามากนัก ไม่ได้เปลี่ยนโปรโมชันบ่อย เดือนนึงอาจจะเปลี่ยนโปรสักทีนึง เช่นพวกธุรกิจการศึกษา คลินิก บ้าน อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ และธุรกิจ B2B
ข้อเสียของการใช้งบแบบ Lifetime Budget
- ไม่เหมาะกับการทำแคมเปญระยะสั้น
เนื่องจากการทำแคมเปญระยะสั้น มักจะมาแบบสายฟ้าแลบ หรือมี Budget แยกต่างหาก รวมไปถึงโปรโมชันแบบเป็นรายวัน ระยะสั้น ๆ มาก การทำแคมเปญใช้งบแบบ Lifetime Budget เป็นแบบเฉลี่ยใช้ต่อวันเท่า ๆ กัน จะเพิ่มเงินต่อวันก็ทำได้ยาก ถ้าจะทำจริง ๆ ก็ต้องสร้างแคมเปญใหม่แยกออกไปต่างหาก ต่างจากการทำแบบ Daily Budget ที่สามารถเพิ่มงบต่อวันได้ทันที
สรุป Daily Budget หรือ Lifetime Budget ดีกว่ากัน
ทั้ง Daily Budget และ Lifetime Budget ต่างมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ไม่เหมือนกัน ซึ่งเราสามารถใช้ผสมผสานกันได้ เช่น Daily Budget มีข้อดีที่ตรงที่มีความยืนหยุ่นในการปรับงบประมาณต่อวัน ซึ่งทำให้เหมาะกับการทำแคมเปญโปรโมชั่นในระยะสั้น แต่คุมงบประมาณโดยรวมยากกว่า ส่วน Lifetime Budget นั้นมีความเสถียรในการใช้งบดีกว่า คุมงบประมาณโดยรวมง่ายกว่ามาก เหมาะกับการทำแคมเปญที่เป็นระยะยาว หรือเปลี่ยนโปรโมชันไม่ได้ถี่มากนัก
ส่วนตัวแล้วใช้แบบผสมกัน เช่นถ้าเป็นธุรกิจ eCommerce บนแพลตฟอร์ม Shopee Ads, Lazada Ads จะใช้แบบ Daily Budget เพราะว่ามีแคมเปญ Double Day เลยเพิ่มงบรายวันได้ ส่วนถ้าเป็นบน Facebook Ads ก็นิยมใช้แบบ Lifetime Budget แต่ตั้งค่าประยะเวลาเฉพาะที่เป็นช่วงเวลาโปรโมชันเท่านั้น แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่เน้น Lead จะใช้ Lifetime Budget เกือบทั้งหมด ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ ขึ้นอยู่กับแคมเปญของแต่ละคน
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time