Influencer KOL สร้างรายได้ ด้วยวิธีอะไรบ้าง สำหรับอินฟลูเอนเซอร์ และ KOL ในแต่ละแบบต่างมีวิธีหาเงินที่แตกต่างกันออกไป แต่ว่าเราสามารถแบ่งประเภทของการหารายได้หลายแบบด้วยกัน
5 วิธีหารายได้แบบฉบับ Influencer และ KOL มือใหม่ หาเงินแบบไหนได้บ้าง
Influencer KOL สร้างรายได้จริง แต่เฉพาะคนที่มีชื่อเสียง แต่คนที่ชื่อเสียงน้อย รายได้ก็น้อยตามและไม่มั่นคง

ในมุมของคนทั่วไปแน่นอนมักจะมองว่า Influencer และ KOL ต่างมีรายได้สูง ซึ่งก็จริงบางส่วน โดยเฉพาะ Influencer ดังและมีชื่อเสียง ก็จะมีงานตามเข้ามามากมาย แน่นอนว่ารายได้มากจะแปรผันกับความมีชื่อเสียงก็จริง ยิ่งมีชื่อเสียงมาก รายได้หรือค่าจ้างแต่ละครั้งก็สูงตาม แต่กับ Influencer และ KOL ที่ยังไม่ดังนั้น ค่าจ้างจะต่างกันลิบ เลยยังไม่ต้องแปลกใจว่า Influencer แบบ Micro และ Nano ต่างยังทำงานประจำอยู่
จริง ๆ แล้วเหล่า Influencer หรือ KOL ต่างมี Pain Point ในการหารายได้อยู่หนึ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคนที่มีชื่อเสียงแล้วหรือยังไม่ชื่อเสียงไม่มาก นั้นคือความสม่ำเสมอของรายได้ เพราะงานแต่ละอย่างมักจะเป็นการจ้างเป็นรายครั้ง ในบางเดือนหรือบางจังหวะของชีวิตก็มีงานเยอะมาก แทบจะทำไม่ทัน แต่ในบางเดือนก็อาจเหงา ๆ นั่งตบยุงกันเลยทีเดียว
วิธีการหารายได้ของ Influencer KOL มีอะไรบ้าง
ซึ่งวิธีต่อไปนี้เป็นวิธีที่ทาง Digital Break Time ได้เก็บข้อมูลจากการทำงานเอเจนซี และเคยได้ทำงานร่วมกับ Influencer บางท่านร่วมกันมา ซึ่งจะเป็นวิธีที่ใช้ทักษะของ Influencer นั้น ๆ โดยเฉพาะการผลิตคอนเทนต์ เป็นหลัก ยังไม่รวมไปถึงพวกการผลิตขายสินค้า ซึ่งอาจจะทำให้เนื้อหายาวเกินไป
1. รับจ้างทำคอนเทนต์รายครั้ง ในช่องทางของตัวเอง
เป็นวิธีที่เป็นพื้นฐานสุด และง่ายสุดต่อทั้งคนจ้าง และฝ่าย Influencer เช่นการจ้างให้ผลิตคอนเทนต์เพื่อโปรโมทสินค้าหรือบริการอย่างหนึ่ง เมื่อทำคอนเทนต์เสร็จก็ลงในช่องทางของ Influencer เอง และทางคนจ้างก็จ่ายเงินเป็นครั้ง ๆ ไป ซึ่งในรูปแบบนี้ถ้าคิดราคาต่อจำนวนคอนเทนต์ ราคามักจะสูงที่สุด เพราะเป็นการจ้างแบบครั้งเดียวไปเลย นั่นเอง ตัวอย่างก็มักจะมีหลายรูปแบบมากมาย ส่วนมากเราก็จะเห็นได้กับ Influencer ทั่วไปอยู่แล้ว
2. รับจ้างทำคอนเทนต์เหมา หรือเป็นรายเดือน ในช่องทางของตัวเอง
ซึ่งแบบนี้มักจะช่วยสร้างความมั่นคงทางด้านรายได้ให้กับ Influencer ในระดับหนึ่ง เนื่องจากมักจะเป็นสัญญาระยะที่ยาวขึ้น เช่นรายเดือน, 3 เดือน, 6 เดือน, รายปี Influencer ก็สามารถวางแผนทางด้านการเงินของตัวเองได้ดีขึ้น และยังเป็นผลดีต่อทางฝั่งลูกค้าหรือฝั่งผู้จ้างด้วย เนื่องจากว่าการจ้างแบบเหมาในระยะยาว ก็มักจะมีกำหนดชิ้นงานต่อเดือน หรือต่อปีชัดเจน และราคาเมื่อหารต่อเป็นรายคอนเทนต์แล้ว ก็มักจะมีรายต่ำกว่าแบบการจ้างรายครั้งมาก
ข้อดีต่อมาก็ยังอยู่ที่ฝั่งผู้จ้าง เพราะการจ้างเหมา Influencer มักจะมีการทำสัญญาอยู่แล้ว และเป็นเงินก้อนใหญ่พอสมควร ซึ่งบางรายก็มักจะมีเงื่อนไขในสัญญาเพิ่มว่าทาง Influencer ในระยะเวลาสัญญาจะไม่สามารถรับงานจาก Competitor หรือคู่แข่งแบบโดยตรงซึ่งเป็นสินค้าแบบเดียวกันของผู้จ้างได้ ก็จะทำให้ Influencer โปรโมทได้แต่แบรนด์สินค้าของทางผู้จ้างเอง ไม่สามารถโปรโมตแบรนด์อื่นได้ (แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับ Influencer และแต่ละธุรกิจด้วยว่าเป็นอย่างไร ถ้าเป็น Influencer ด้านการแต่งหน้า จะไม่ให้ใช้สินค้าแบรนด์อื่นก็อาจจะไม่ใช่)
3. รับจ้างทำคอนเทนต์รายครั้ง ในช่องทางของลูกค้า

หลายครั้งที่เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ได้กาวข้ามการทำคอนเทนตืในช่องตัวเอง ออกไปช่องของลูกค้า หรือที่หลายคนเรียกว่า Collab กันนั่นเอง ทั้งนี้มีผลดีต่อทั้งสองฝ่าย โดยทางฝั่ง Influencer เอง ก็ได้รับค่าจ้างรายครั้ง รวมไปถึงการที่เป็นที่รู้จักมากขึ้นกับคนที่ติดตามแบรนด์นั้น ๆ อีกด้วย
ส่วนทางแบรนด์ก็ได้ผระโยชน์จากการใช้ชื่อเสียงของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ให้เกิด Awareness กับทางแบรนด์มากขึ้น และเมื่อเกิดทำมาลงในช่องทางของแบรนด์เอง ก็มักจะได้รับสิทธิ์ในการลงโฆษณาได้อย่างอิสระมากกว่าลงทางช่องของ Influencer เอง และยังช่วยเพิ่มผู้ติดตามขึ้นได้มากอีกด้วย ซึ่งคุณมักจะเห็นได้ในแบรนด์ที่จับแนวทางไลฟ์สไตล์ หรือคอนเทนต์ที่เหมาะกับของแบรนด์เอง ไม่ว่าจะเป็น Netflix Thailand, Central, The Mall
4. โปรโมทผ่าน Affiliate Marketing
หลายคนน่าจะเห็นว่าเหล่า Influencer มักจะทำคอนเทนต์รีวิวสินค้าต่าง ๆ และพร้อมแปะลิงก์ให้สั่งซื้อสินค้า นั่นคือรายได้บางส่วนของเหล่า Influencer เพราะถ้ามีคนซื้อสินค้าจากลิงก์ที่ติดไว้ Influencer คนนั้นก็จะได้รับส่วนแบ่งเป็นเงินไป ตามจำนวนที่ตกลงกันไว้
โดย Affiliate Marketing มีหลักการง่าย ๆ อยู่ 3 ขั้นตอน
- เจ้าของแบรนด์หรือสินค้า ให้ค่าคอมมิชชันถ้าสินค้านี้ขายได้จะให้ส่วนแบ่งเท่าไร มักจะกำหนดเป็น %
- ตัวกลางช่วยจัดการระบบ เพื่อคำนวณรายได้จาก Affiliate Marketing เช่น Shopee, Lazada
- อินฟลูเอนเซอร์หรือบุคคลทั่วไป รับลิงก์ไปโปรโมท เมื่อขายสินค้าได้ก็รับส่วนแบ่งค่าคอมมิชชัน
และการทำ Affiliate Marketing ไม่ได้ถูกจำกัดไว้ที่สินค้าแบบ eCommerce เท่านั้น แต่ยังมีมากในส่วนของ ประกัน การเงิน สินเชื่อ บัตรเครดิต และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำ Affiliate Marketing ได้ทั้งหมด
ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเอง ก็เขียนรีวิวและทำ Affiliate Marketing ไว้เช่นเดียวกัน ในเว็บไซต์ rabbitor.net ซึ่งแนวโน้มคนอ่านเยอะขึ้นเรื่อย ๆ และมีรายได้บางส่วนจากคนซื้อหรือสมัครบริการบางอย่างจากการรีวิวด้วย (กระซิบบอกก่อนว่าได้มาแล้วหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว) ซึ่งส่วนตัวสมัครไว้กับ Accesstrade เป็นเว็บไซต์ Affiliate Marketing ที่ใหญ่มากในไทย ครอบคลุมหลายสินค้าและบริการ ใช้งานง่ายด้วย สมัครเป็นสมาชิกง่าย ๆ >>> คลิกที่นี่เลย (และแน่นอนว่าเป็นลิงก์ Affiliate Marketing บอกกันโต้ง ๆ)
แน่นอนว่าวิธีการโปรโมทของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์สำหรับ Affiliate Marketing นั้นทำได้หลายทาง หลายรูปแบบ ก็ขึ้นอยู่กับ Influencer เป็นหลัก ซึ่งก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อการโปรโมทด้วยเช่นกัน
5. หาสังกัด หรือเอเจนซี เพื่อรับงานได้อย่างต่อเนื่อง
จริง ๆ เหล่า Influencer ไม่ได้มีสังกัดอย่างเหมือนดาราที่สังกัดช่อง แต่มักจะมีการใช้สัญญาใจเสียมากกว่า เช่นใน ซึ่งในบางสื่อที่มีมีเดียในมือเป็นจำนวนมาก และอย่างยิ่งเป็นสื่อเฉพาะทาง ก็มักจะมีเสนอเรตการ์ดว่าสามารทจ้าง Influencer ผ่านมีเดียนี้ได้เลย ซึ่งตรงนี้แหละที่เรียกว่าเป็นสังกัด มีเดียวขนาดใหญ่ก็มักจะมีสปอนเซอร์หรือผู้จ้างติดต่อมาอยู่เรื่อย ๆ พอเราได้อยู่สังกัดแบบนี้ก็จะมีการส่งงานมาอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง
ไม่เพียงแค่นั้น ถ้าเหล่า Influencer ได้เคยร่วมงานกับเอเจนซีมาบ้างแล้ว และเกิดความประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น Engagement สูง เกิด Conversion ดี ทำงานด้วยง่าย ติดต่อได้สะดวก แก้ไขได้อย่างเหมาะสม งานมีคุณภาพ บอกเลยว่าเหล่าเอเจนซีจะรักคุณมาก ๆ และจะพยายามเสนอรายชื่อ Influencer ที่เหมาะกับลูกค้าแล้ว และยังทำงานง่าย คุณจะมีรายชื่ออยู่ในลิสต์เสมอ ก็เหมือนกับการอยู่สังกัดอย่างหนึ่งเช่นกัน ทำให้ได้งานจากเอจเนซีนี้บ่อย ๆ ก็เป็นไปได้
สรุป Influencer KOL สร้างรายได้ ด้วยวิธีอะไรบ้าง ทำอย่างไรให้หาเงินได้อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีที่ Influencer สามารถหารายได้ และการที่จะทำให้เกิดรายได้อย่างสม่ำเสมอที่เหลือแล้วก็ที่จะทำให้ Influencer อยู่ได้นาน และมีรายได้อย่างต่อเนื่อง สุดท้ายก็คือความซื่อสัตย์ที่มีต่อแฟนคลับ เพราะว่าการที่ Influencer มาถึงได้จนถึงทุกวันนั้น ก็เป็นเพราะแฟนคลับ ให้รีวิวสินค้าและบริการตามจริง ก็จะช่วยให้เราอยู่ในวงการนี้ได้นาน
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time