Lead คุณภาพ จากการทำโฆษณา Facebook Ads แบบ Message การทำโฆษณาเพื่อให้ได้ Lead นั้นมีมากมายหลายวิธี ซึ่งวิธีที่หลายคนใช้กันมาก โดยเฉพาะในประเทศไทย คือโฆษณาแบบ Message เพื่อให้ได้ Lead ใช้กันมากมายและแพร่หลาย
แต่สิ่งที่เกิดปัญหาเมื่อทำโฆษณาแบบ Message จาก Facebook Ads นั่นคือ มักจะได้ Lead ที่ด้อยคุณภาพ คุณภาพน้อย และกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงตามต้องการ เช่นคนที่ทักเข้ามาใช้ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาไทยหรืออังกฤษ หรือเมื่อคลิกเข้าไปดูที่โปรไฟล์คนที่ทักแชทเข้ามาแล้วไม่น่าจะใช่ลูกค้าเราอย่างแน่นอน รวมไปถึงเมื่อเราตอบกลับแล้ว ขอข้อมูลเบื้องต้น แต่ว่าไม่มีการตอบกลับ รวมถึงการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าทำให้เราใช้เงินกับ Facebook Ads แบบ Message มากแต่ได้ จำนวน Lead คุณภาพน้อย และ CPA/CPL ที่สูงเกินไปมาก ดังนั้น บทความนี้เลยจะมาช่วยคัดกรอง และทำอย่างไรให้ได้ Lead คุณภาพ
ทำอย่างไรให้ได้ Lead คุณภาพ จากการทำโฆษณา Facebook Ads แบบ Message
- ลองใช้กลุ่มเป้าหมาย Lookalike จากรายชื่อลูกค้าที่เราเคยติดต่อได้จริง แทนที่กลุ่ม Mass
- ปรับภาษา ลองใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย แทนที่ All Language
- ตอบ Message หรือ Inbox อย่างว่องไว แบบรวดเร็ว เพื่อให้ Lead คุณภาพ และมากขึ้น
- มีคำถามคัดกรองเบื้องต้น เพื่อให้รู้ว่าลูกค้าสนใจเราจริง ๆ
- ถ้ามี Lead คุณภาพ สนใจจริง หรือปิดไม่ได้ในตอนนั้น ค่อยทำ Remarketing กลับไปเมื่อมีโปรโมชันใหม่
- สรุป การได้ Lead คุณภาพ จากการทำโฆษณา Facebook Ads แบบ Message ต้องทำอย่างไรบ้าง
ลองใช้กลุ่มเป้าหมาย Lookalike จากรายชื่อลูกค้าที่เราเคยติดต่อได้จริง แทนที่กลุ่ม Mass
อันนี้เกิดจากประสบการณ์ส่วนตัว เวลาเลือกใช้กลุ่มเป้าหมาย Mass โดยเลือก Detail Targeting จากบน Facebook เอง มักจะได้กลุ่มเป้าหมายที่ไม่ค่อยตรงเท่าไร แต่เมื่อใช้กลุ่มเป้าหมายอย่าง Lookalike ที่มาจากลูกค้าของเราจริง ๆ แล้ว (ทำให้ถูกต้องเรื่องของ PDPA ให้เรียบร้อย) ไม่ว่าจำนวน % ของ Lookalike จะเท่าไรก็ตาม แม่นยำกว่ากลุ่มเป้าหมายแบบ Mass เลยแนะนำว่าถ้าลองใช้กลุ่มเป้าหมายจาก Lookalike จากกลุ่มลูกค้าเราจริง ๆ ก็จะช่วยได้
ปรับภาษา ลองใช้ภาษาอังกฤษหรือภาษาไทย แทนที่ All Language
อันนี้เป็นจุดที่หลายคนอาจจะหลงลืมกันไป หรือมองข้ามไปเลยว่าการเลือกภาษาของกลุ่มเป้าหมาย เพราะการที่เราเลือก All Language จะเป็นการรวมคนที่ใช้งานทุกภาษาในกลุ่มเป้าหมายที่เราได้ระบุไว้ ทั้งที่จริงเราอาจจะแค่ต้องการกลุ่มลูกค้าคนไทย หรือต่างชาติบางกลุ่มเท่านั้น อย่างน้อยการใส่ชื่อภาษาก็สามารถช่วยกรองได้ในระดับหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการทำโฆษณาสินค้าบางอย่างที่ขายคนญี่ปุ่นที่อยู่ในไทยโดยเฉพาะ ก็เลือกกลุ่มเป้าหมายโดยใช้ภาษาญี่ปุ่น หรืออาจะรวมภาษาอังกฤษเข้าไปด้วย และทำการโฆษณา Creative และแคปชันที่ใช้ภาษาญี่ปุ่น ก็จะช่วยกรองคนได้มากแล้ว
ตอบ Message หรือ Inbox อย่างว่องไว แบบรวดเร็ว เพื่อให้ Lead คุณภาพ และมากขึ้น
อันนี้จากประสบการณ์ที่ทำมา คนที่ทักข้อความหลายคนไม่ค่อยรอ ยิ่งทิ้งไว้นานข้ามวันเมื่อเราตอบกลับไป ลูกค้าโอกาสที่จะตอบกลับก็น้อยลงไปอีก อุตส่าห์ทำโฆษณา Facebook Ads จ่ายเงินไปเยอะแล้ว ก็ควรจะโฟกัสเรื่องจรงนี้ให้มากขึ้น
ในเมื่อโอกาสมาถึงแล้ว ต้องตอบข้อความให้เร็วที่เท่าที่จะเป็นไปได้ โดยเฉพาะในเวลาทำการ แน่นอนว่าอาจจะให้น้องแอดมินที่ทำหน้าที่ตรงนี้เลย เพื่อให้ได้รายชื่อลูกค้ามาเร็วที่สุด เพราะถ้าเราตอบเร็วเท่าไร นั่นหมายความว่าลูกค้าจะมีตัวเลือกอย่างอื่นน้อยลง ลดโอกาสไปสอบถามที่อื่นในระหว่างรอข้อมูลสินค้าหรือบริการจากเราได้อีก เมื่อน้องแอดมินได้รายชื่อมาแล้ว ก็สามารถทำ Google Sheets หรือ Excel ที่สามารถส่งต่อให้ทีมอื่นได้เลยทันที ถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นไปอีก อาจจะมี ข้อมูลหรือคำถามที่ต้องเจอบ่อย ๆ เป็น Template ให้น้องแอดมินไว้เลย จะช่วยให้การตอบมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
จริง ๆ ลองวัดเลยก็ได้ว่าการตอบแบบทั่วไป ไม่รีบมาก ได้ Lead มาจำนวนกี่คน และเมื่อตอบแบบรวดเร็ว จะได้ Lead เพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ แต่จากประสบการณ์ส่วนตัว ได้ Lead เพิ่มขึ้นมากจริง ๆ อย่างเห็นได้ชัด
มีคำถามคัดกรองเบื้องต้น เพื่อให้รู้ว่าลูกค้าสนใจเราจริง ๆ
ในส่วนของคำถามที่ต้องการคัดกรองเบื้องต้น ก็สามารถทำได้ทั้ง 2 รูปแบบก็คือจาก Automated Chat ที่เราสร้างไว้ก่อนในการทำโฆษณา และอีกแบบคือการให้น้องแอดมินถามโดยตรง ก็คำถามคัดกรองนี้สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามรูปแบบธุรกิจ เช่นถ้าเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก็อาจจะมีเป็นคำถามทางด้านราคา ว่าลูกค้ามีงบประมาณในใจอยู่ที่เท่าไร เพราะการขายบ้านหรือคอนโด มักจะมีเรตราคาที่ค่อนข้างตายตัวอยู่แล้ว อาจะมีปรับเปลี่ยนบ้างขึ้นอยู่กับขนาดที่ดิน ขนาดห้อง อีกตัวอย่างหนึ่งคือการขายรถ ก็จะเป็นสอบถามรุ่นรถที่ลูกค้าต้องการ หรือสี เพราะลูกค้าต้องผ่านกระบวนการการคิด และไตร่ตรองมาพอสมควร ถ้าลูกค้าไม่ตอบ ก็จะทำให้รู้ว่าคนที่มาสอบถามรายนี้อาจจะไม่ใช่ Lead ที่มีคุณภาพมากนัก จริง ๆ คำถามพวกนี้สามารถดัดแปลงได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรา แต่อย่าลืม ถ้าถามมากเกินไป อาจทำให้ลูกค้ารำคาญได้ แนะนำว่าเอาแต่พอดีก็พอ
ถ้ามี Lead คุณภาพ สนใจจริง หรือปิดไม่ได้ในตอนนั้น ค่อยทำ Remarketing กลับไปเมื่อมีโปรโมชันใหม่
เมื่อได้ Lead ที่มีคุณภาพมาแล้ว แต่ลูกค้ายังไม่ได้จบที่เรา ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือบริการจากทางเราในตอนนั้น ก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ง่าย ๆ เพราะลูกค้าเหล่านี้อาจจะสนใจเราได้อีกในช่วงเวลาอื่น ๆ แนะนำว่าให้ทำกลุ่มเป้าหมาย Lead ที่มีคุณภาพ เพื่อทำการ Retargeting หรือ Remarketing ส่งโฆษณากลับไปในช่องทางอื่น ๆ ที่กลุ่มลูกค้าเหล่านี้อยู่ เพื่อไม่ให้ลูกค้าลืมเรา จะช่วยให้ Lead คุณภาพเหล่านี้ยังนึกถึงเรา และอาจเป็นลูกค้าได้ในอนาคต
สรุป การได้ Lead คุณภาพ จากการทำโฆษณา Facebook Ads แบบ Message ต้องทำอย่างไรบ้าง
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่จะช่วยให้ได้ Lead คุณภาพ และได้จำนวนมากขึ้น อย่าลืมว่าเราจ่ายเงินค่าโฆษณา Facebook Ads แบบ Message ไปแล้ว จำเป็นที่ต้องรีดประสิทธิภาพให้ได้ออกมามากที่สุด อย่าปล่อยให้คนที่เข้ามาสอบถามอย่างเดียวแล้วก็ไป เปลี่ยนจากคนรู้จักให้กลายเป็น Lead คุณภาพ และเป็นลูกค้าของเราเป็นเรื่องยาก แต่ไม่ใช่ว่าทำไม่ได้
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time