โฆษณา TikTok Ads เรียกได้ว่าเป็นรูปแบบโฆษณาที่มาแรงในยุคนี้ หลายแบรนด์ก็เริ่มมองหาโอกาสที่จะทำการตลาดผ่าน TikTok แน่นอนว่าเมื่อทำ Organic ไปสักระยะแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น ก็จะเริ่มมองหาการทำโฆษณา TikTok Ads ขึ้นมาด้วย
เลยเป็นเหตุผลที่ว่าการทำโฆษณา TikTok Ads นั้นก็ไม่ต่างจากการทำโฆษณารูปแบบอื่น ๆ ที่จะต้องวางแผนให้เหมาะสม และทาง Digital Break Time เลยนำเทคนิคที่เราได้ใช้งานจริง มาเผยว่าจะทำโฆษณา TikTok Ads อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ซึ่งเป็นเทคนิคที่ทำตามได้ไม่ยาก
โฆษณา TikTok Ads อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
- รูปแบบโฆษณาต้องเป็นแบบ เกิดมาเพื่อ TikTok นั่นคือวิดีโอที่เป็นแนวตั้ง (TikTok First)
- Objective จุดประสงค์ของการโฆษณาก็ต้องไปกับ Creative เพราะบางโฆษณาทำได้ดีในบาง Objective
- Objective บางอย่างอาจจะไม่เหมาะกับทุกธุรกิจ ต้องเลือกให้ดี
- ระวังเรื่องของการใช้เสียงเอาไว้ให้ดี เพราะบางอย่างไม่สามารถนำมาใช้ ทำ TikTok Ads
- ลองทำหลายกลุ่มเป้าหมาย และมีหลาย Creative อันไหนผลลัพธ์ได้ดีก็ย้ายงบไปอันที่ดีกว่า
- สรุป โฆษณา TikTok Ads อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
รูปแบบโฆษณาต้องเป็นแบบ เกิดมาเพื่อ TikTok นั่นคือวิดีโอที่เป็นแนวตั้ง (TikTok First)

จริง ๆ แล้วรูปแบบ Creative ของ TikTok นั้นทำได้หลายรูปแบบมาก แต่จากประสบการณ์ที่มักจะทำแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดี นั่นคือการทำโฆษณา TikTok ที่เกิดมาเพื่อติ๊กต่อกโดยเฉพาะ นั่นคือรูปแบบวิดีโอที่ถ่ายมาแนวตั้ง ส่วนระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับที่เราสะดวกว่าจะเล่าเรื่องอะไร (แต่แนะนำไม่ทำให้ยาวมาก เป็นวิดีโอขนาดสั้น) ซึ่งรูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ TikTok นำเสนอให้ทำมาก และทำเป็น Spark Ads ได้ ซึ่งพื้นที่การแสดงโชว์จะเป็น 100% ของหน้าจอทั้งหมด
ส่วนรูปแบบต่อมาคือ TikTok Friendly หรือที่เรามักจะเห็นว่าจริง ๆ แล้วเป็นวิดีโอที่เป็นขนาดอื่น ๆ เช่นแนวนอน หรือ 1:1 แต่ถูกนำมาจัด ปรับใหม่ โดยเติมแถบด้านบนและล่างเข้าไป เพื่อให้วิดีโอกลายเป็นแนวตั้ง ซึ่งทำได้ไหม ก็ต้องตอบว่าได้ แต่ทว่าอาจจะทำให้ประสบการณ์การเสพคอนเทนต์ได้ไม่ดีเท่าแบบ TikTok First ซึ่งอาจทำให้มีผล ได้ผลลัพธ์ที่ลดลงด้วย
Objective จุดประสงค์ของการโฆษณาก็ต้องไปกับ Creative เพราะบางโฆษณาทำได้ดีในบาง Objective
Objective หรือที่เรียกว่าจุดประสงค์ของการทำโฆษณา ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกมากใน TikTok Ads แต่ต้องบอกเลยว่า Creative ในแต่ละแบบ อาจไม่ได้เหมาะกับการใช้งานในทุก Objective เสมอไป เช่นถ้าเราต้องการใช้ Objective Follower เพื่อเพิ่มคนติดตามนั้น รูปแบบโฆษณาที่เน้นขายอย่างเดียวอาจจะทำได้ไม่ดี ทำให้ Cost per Paid Follower สูงได้ อาจจะแนะนำโฆษณาที่เน้นความสนุกสนานและขายของเล็กน้อยบ้างก็เพียงพอ เพราะเราต้องการคนที่ติดตาม ยิ่ง Cost per Paid Follower ถูก นั่นหมายความว่าเราจะได้ผู้ติดตามมากขึ้นถึงแม้ว่าเราจะใช้เงินเท่าเดิมนั่นเอง
หรือยกตัวอย่างอีกหนึ่งตัวอย่างเน้นคือการตัดคลิปไลฟ์มาทำโฆษณา ถ้ากลับกันเราจะมาใช้กับ Objective Follower ก็อาจจะไม่เหมาะ แต่จะให้ผลลัพธ์ที่มากกว่าเมื่อเราคลิปไลฟ์ไปโปรโมทใน Objective Product sales ที่ TikTok Shop โดยเฉพาะ เพราะเป็นวิดีโอที่เน้นขายสินค้าอยู่แล้ว เพียงแค่เราติดตะกร้าให้เรียบร้อยก็จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากกว่านั่นเอง
Objective บางอย่างอาจจะไม่เหมาะกับทุกธุรกิจ ต้องเลือกให้ดี
อันนี้เรียกได้ว่ามีความคล้ายกับเครื่องมือทำโฆษณาอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราทำธุรกิจอะไร และต้องการอะไรเป็นหลัก ซึ่งขึ้นอยู่กับเวลา งบประมาณ และในแต่ละ Objective นั้น ก็ยังมีแยกย่อยหลายแบบมาก และสามารถทำร่วมกันไปพร้อม ๆ กันได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราวางแผนไว้อย่างไร เพื่อให้ตรงตามความต้องการนั่นเอง
ยกตัวอย่างเช่น เราเป็นธุรกิจรถยนต์ การทำโฆษณาแบบ Objective ที่เป็น Product Sales อาจจะไม่ตอบโจทย์ (ยกเว้นมี TikTok Shop เพื่อขายสินค้าอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์) แน่นอนว่าการทำ Objective ที่เป็น Leads ให้กรอกแบบฟอร์มอาจจะเหมาะกว่า
ระวังเรื่องของการใช้เสียงเอาไว้ให้ดี เพราะบางอย่างไม่สามารถนำมาใช้ ทำ TikTok Ads

สำหรับใครที่เป็นสาย Organic มาโดยตลอด การเลือกใช้เพลง แผ่นเสียงต่าง ๆ ก็อาจจะเป็นเรื่องปกติที่ทำได้ทั่วไป แต่ทว่าการการทำโฆษณานั้นต้องเข้าใจไว้ก่อนเลยว่า เสียงใน TikTok ไม่ใช่ทุกเสียงที่จะมาทำโฆษณา TikTok Ads ได้ พูดง่าย ๆ คือเราอาจจะทำคลิป TikTok พร้อมใส่เสียงลงบนหน้าฟีดได้ตามปกติ แต่พอจะใช้คลิปนั้นเพื่อทำการยิงแอด TikTok อาจจะทำโฆษณาทั้งได้ และไม่ได้ เนื่องจากหลายเพลง หลายเสียง สามารถใช้งานได้แบบเฉพาะ Organic เท่านั้น แต่สำหรับการทำโฆษณาอาจจะทำไม่ได้
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ดังนั้นคลิป TikTok ที่จะนำมาใช้ทำโฆษณา ให้ใช้เสียงที่ถูกลิขสิทธิ์ สามารถใช้งานในแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ หรือใช้เสียงของตัวเองไปเลยจะดีกว่า แบบนี้คอนเฟิร์มว่าสามารถทำโฆษณาได้แน่นอน
ลองทำหลายกลุ่มเป้าหมาย และมีหลาย Creative อันไหนผลลัพธ์ได้ดีก็ย้ายงบไปอันที่ดีกว่า
สิ่งที่ทำง่ายที่สุดคือเริ่มจากกลุ่มเป้าหมาย Target Audience ที่เหมาะสมตามที่เราวางแผนไว้ สร้างแล้วลองใช้งานจริง จากนั้นลองใช้งาน Creative ที่มีความหลากหลาย เพื่อให้รู้ว่าโฆษณาแบบไหนที่ตอบโจทย์ ได้ผลลัพธ์ที่ดี การทำ A/B Testing เป็นสิ่งที่สำคัญ เมื่อทำโฆษณาได้สักพัก ให้โฆษณาได้เรียนรู้อย่างน้อย 7 วันขึ้นไป จากนั้นค่อยมาดูกันว่ากลุ่มเป้าหมายไหนได้ผลลัพธ์ที่ดี หรือ Creative ไหนที่ตอบโจทย์ จากนั้นค่อยย้ายงบประมาณไปยังกลุ่มเป้าหมายหรือ Creative ที่ดีกว่า อันไหนที่ไม่ดีจะลดจำนวนเงินลง หรืออาจจะพิจารณาปิดไปเลยก็ได้ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด
สรุป โฆษณา TikTok Ads อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี
การ Optimize Ads เริ่มจากการสังเกต เรียนรู้ และทดลองทำ เป็นอีกหนึ่งกระบวนการของการทำ Digital Marketing ซึ่งเครื่องมือออย่าง TikTok Ads ก็เป็นเครื่องมือยอดนิยม ที่จะช่วยเราให้ตอบโจทย์ของธุรกิจในการทำการตลาดได้อย่างราบรื่นและไปถึงจุดหมายเช่นกัน
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time