วิธีเขียนบทความ SEO ทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่จะแนะนำต่อไปนี้ เป็นวิธีการเขียน Title, Meta Description และปรับแต่ง URLs จะช่วยให้ CTR (Click Through Rate) อัตราการคลิกสูงขึ้น เป็นอย่างมาก และยังส่งผลต่อการจัดลำดับของ SEO อีกด้วย
วิธีเขียนบทความ SEO ด้วยการปรับแต่งส่วน Title และ Meta Description
- มีคีย์เวิร์ดที่เราวางเอาไว้ทั้งใน Title และ Meta Description
สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรก นั่นคือจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีคีย์เวิร์ดที่เราเลือกไว้ เพราะเป็นหนึ่งในองค์ประกอบลำดับต้น ๆ ของการทำ SEO ซึ่งวิธีการคัดเลือกคีย์เวิร์ดสามารถอ่านแบบละเอียดได้ที่นี่ - ใช้ตัวเลขหรืออันดับเข้าช่วย เป็นคำโปรยใน Title
อย่างในบทความนี้ เป็นคำว่า “3 วิธีเขียนบทความ SEO” จะช่วยให้ผู้อ่านส่วนที่เป็นไตเติล รับทราบได้ทันทีว่า มี 3 วิธี และช่วยคำนวณเวลาในการอ่านว่าสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่น่าจะใช้เวลานานนัก ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น - ใช้คำที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความ และให้เกิดความสงสัย
คำที่ใช้ควรเป็นคำสั้น ๆ ที่สามารถช่วยบอกโดยย่อได้ว่า เนื้อหาในบทความกล่าวถึงอะไร อ่านแล้วเข้าใจได้ในทันที ไม่จำเป็นต้องตีความมาก หรือการเขียนให้เกิดความสงสัย จะช่วยให้กระตุ้นให้เกิดความอยากรู้ มีส่วนเป็นอย่างมากที่จะช่วยให้อัตราการคลิกสูงขึ้น - พยายามอย่าใช้คำเกินจำนวนตัวอักษรที่กำหนด
ทั้ง Title และ Description ต่างมีจำนวนจำกัด จำเป็นที่ไม่ควรเขียนเกินตามที่กำหนดเอาไว้ มิฉะนั้นเวลาโชว์จะกลายเป้นต่อด้วย “…” คำบางคำอาจโดนตัดหายไปได้ โดย Meta Description ควรอยู่ที่ระหว่าง 50-160 ตัวอักษร ส่วน Title ควรอยู่ที่ 50-60 ตัวอักษร
วิธีปรับแต่ง URLs
La La Land (2016)
- ควรมี Keywords ใน URLs ด้วย
อันนี้คล้ายกับ Title และ Meta Description ซึ่งไม่มีปัญหาถ้าคุณใช้คีย์เวิร์ดเป็นภาษาอังกฤษ แต่ถ้าคุณใช้คีย์เวิร์ดภาษาไทย อาจไม่แนะนำให้ใส่คีย์เวิร์ดภาษาไทยใน URLs เนื่องจาก ถ้าเราก๊อปปี้ลิงก์ไปวางจะกลายเป็นภาษาต่างดาว และทำให้การจดจำได้ยากขึ้น แนะนำให้ใช้ภาษาอังกฤษจะดีกว่า - ใช้ URLs แบบ Descriptive (แบบบรรยาย) ดีกว่าแบบ Generic (แบบทั่วไป)
เช่นในบทความนี้จะใช้ URLs แบบบรรยาย “digitalbreaktime.com/write-seo-article-increase-ctr” เป็นการกำหนด URLs รูปแบบบรรยาย ให้เกิดรายละเอียด และทำให้รู้ได้โดยเบื้องต้นว่าเป็นคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับอะไร
แต่ถ้าเป็น URLs แบบทั่วไปหรือ Generic ตัวอย่างคือ “digitalbreaktime.com/page/id=12345”มักจะเป็นการรันตัวเลขไปเรื่อย ก็ง่ายต่อการจัด แต่อาจไม่ดีต่อ SEO เท่า URLs แบบบรรยาย
นี่คือสิ่งที่เราต้องทำสำหรับ SEO on page ในเบื้องต้น เป็นปัจจัยที่เราควบคุมได้ และทำได้ง่ายด้วยสำหรับนักเขียนที่ต้องการพัฒนาให้คอนเทนต์ติดอันดับหน้าแรกของ Search Engine และยังช่วยเพิ่มอัตราการคลิก หรือที่เรียกกันว่า CTR ได้สูงมากขึ้น เนื่องจาก Title และ Meta Description เป็นหน้าด่านแรกที่จะช่วยให้ผู้อ่านเห็นข้อความหรือคำโปรยก่อน ถ้าคำโปรยดี เชิญชวนให้คลิก ก็จะช่วยให้เว็บไซต์เกิดทราฟิกมากขึ้นด้วย
ที่มา
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time
