ลูกค้าแชทไม่ตรงโฆษณา ถามหาสินค้าไม่ตรงตามที่เราโฆษณาในรูปแบบ Message ข้อความใน Facebook แก้ไขยังไงดี จากที่เราได้เริ่มเขียนการโฆษณาการแก้แชทผี เรียกได้ว่าผลตอบรับดีมาก ๆ มีคนเข้ามาปรึกษาปัญหานี้หลายคน และวิธีที่เราแนะนำไปก็สามารถแก้ไขได้จริง แต่ก็นั่นแหละ การทำโฆษณาแบบ Message ใน Meta นั้นก็มีความท้าทายมากมาย
ต้องบอกเลยว่าปัญหานี้เริ่มมีมาใหม่อีกแล้ว เพราะเพิ่งได้รับ Feedback จากลูกค้าว่า ทำไมถึงมีการแชทสอบถามสินค้าที่เราไม่ได้ขาย หรือที่เราไม่ได้ทำโฆษณา เช่นเราขายสินค้ารถยี่ห้อ A แต่ลูกค้ากดทักมาสอบถามรถยี่ห้อ B มือสอง ซึ่งตอนแรกเราก็คิดว่าถ้ามีลูกค้าที่ทักผิดไม่มากนั้น ก็คงไม่ได้เป็นอะไร หรือคิดไปด้วยซ้ำอว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพ ถ้าคนจำนวนส่วนใหญ่ยังสอบถามได้ถูกต้อง เลยยังไม่ได้เอะใจอะไร แต่เริ่มจะมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงเดือนกันยายน 2025 ที่ผ่านมานี้เอง และพบแพทเทิร์นเดิม ๆ เลยทำให้เราต้องมาหาวิธีการแก้ไข และสาเหตุ ซึ่งแน่นอนว่าเราก็เจอและแก้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็คิดว่าต้องมีคนเจอปัญหาแบบเราเหมือนกันแน่ ๆ เลยมาเขียนเป็นคอนเทนต์ที่จะช่วยแก้ปัญหาในวงกว้างจะดีกว่า
ลูกค้าแชทไม่ตรงโฆษณา ถามหาสินค้าไม่ตรงตามที่เราบูสต์ Message ใน Facebook แก้ไขยังไงดี
- ก่อนที่จะไปวิธีแก้ไข ลองตรวจสอบดูว่า มีแชทที่สอบถามแปลก ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเราเยอะแค่ไหน
- สืบต่อในขั้นตอน Ads Manager เช็คว่า ใน Placement ไหนได้ Cost per Message ต่ำกว่าปกติ
- Placement ไหนที่ได้ Cost per Message ต่ำ และได้ Message เยอะ นั่นคือสิ่งที่น่าสงสัย
- หลังจากปิดการแสดงผล Ads on Facebook Reels ออกไปแล้ว ก็มาบันทึกผลว่า การทักผิดลดลงไหม
- สรุป Placement “ Ads on Facebook Reels” เป็นช่องทางที่ทำ Message ได้ดี แต่ทำให้คนสับสน
ก่อนที่จะไปวิธีแก้ไข ลองตรวจสอบดูว่า มีแชทที่สอบถามแปลก ที่ไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าของเราเยอะแค่ไหน
เป็นวิธีเช็ค ลูกค้าแชทไม่ตรงโฆษณา ในเบื้องต้นก่อนว่ามีคนทักแชทผิดแบบสอบถามสินค้าที่เราไม่ได้ทำโฆษณาเลย หรือสินค้าที่เราไม่ได้ขายเลยหรือไม่ แล้วลองเช็คดูว่าโฆษณาไหนที่ลูกค้ากดคลิกเข้ามา (ซึ่งจะมีบอกว่าทักแชทมาจากโฆษณาไหนก่อนในเบื้องต้น) เราสามารถแจ้งตรง ๆ กับลูกค้าได้เลยว่า ว่าเราไม่ได้มีขายสินค้านี้ ซึ่งลูกค้าที่ทักเข้ามาก็จะบอกคล้ายกันว่าที่คลิกเข้ามา ไม่ใช่โฆษณาอันนี้ตั้งแต่แรก แน่นอนว่าทำให้เราเริ่มจับทางได้ว่าโฆษณาของเราต้องไปแสดงอยู่ในคลิปอื่นแน่ๆ ทำให้ลูกค้าเข้าใจผิด
ซึ่งถ้าพบความผิดปกติของหลายแชท ก็ต้องมาดูว่าจำนวนคนทักผิดเยอะขนาดไหน เช่น สมมติว่ามีคนทักเข้ามา 10 แชท ผิดไปแล้ว 2-3 แชท เราคิดว่าจะต้องมีการแก้ไข เพราะจะทำให้โฆษณาของเราไม่มีประสิทธิภาพ แล้วไม่ใช่อะไร ระบบโฆษณาของ Meta นั้นมักจะหาคนที่มีความคล้ายกัน ทำพฤติกรรมคล้ายกัน ทำให้เราอาจได้คนที่ทักผิดเพิ่มขึ้นได้ ถ้าปล่อยไว้โดยไม่แก้ไข
ซึ่งในกรณีของเรานั้น ส่วนมากลูกค้าทักผิดมา มักจะเกิดจากรูปภาพ รูปเดี่ยวเสียส่วนใหญ่ เราก็เลยมาสืบสวนกันต่อว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
สืบต่อในขั้นตอน Ads Manager เช็คว่า ใน Placement ไหนได้ Cost per Message ต่ำกว่าปกติ

จากนั้น ให้เราเข้าไปที่ Ads Manager ของ Meta แล้วเข้าไปดูแคมเปญที่เราทำโฆษณาข้อความ แล้วเลือก Breakdown แล้วเลือกที่ Placement เพราะเราจะมาดูกันว่า Placement หรือโฆษณาของเราไปโชว์ที่ไหนแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดบ้าง
แล้วทำไมถึงต้อง Breakdown by Placement กันล่ะ อันนี้บอกไว้ก่อนว่าเป็นสมมติฐานของเราตั้งแต่แรก เพราะว่าการที่ลูกค้ากดผิด และสอบถามเกี่ยวกับสินค้าที่ยังไม่มีขาย แต่ยังเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน (นั่นคือรถยนต์) ทำให้เราตั้งข้อสังเกตว่า โฆษณาของเรานั้นน่าจะไปแสดงผลอยู่บนคลิปต่าง ๆ โดยเฉพาะ Reels ที่ทำแบบรถยนต์เป็นหลัก (แน่นอนว่ากลุ่มเป้าหมายเรามีหลายกลุ่มและหนึ่งในนั้นก็มีกลุ่มที่สนใจรถยนต์ด้วย) เลยมุ่งเป้าหมายที่ Placement เป็นหลักเลย
Placement ไหนที่ได้ Cost per Message ต่ำ และได้ Message เยอะ นั่นคือสิ่งที่น่าสงสัย

อันนี้เป็นภาพเหตุการณ์จริง จะเห็นได้ว่า Cost per Message ที่ต่ำที่สุดมาจาก “Ads on Facebook Reels”เมื่อเทียบ Cost per Message แล้วจะได้อยู่ที่หลักสิบเท่านั้น แต่เมื่อเทียบกับโฆษณาใน Placement อื่นๆ นั้นอยู่ที่หลักร้อยทั้งหมด และได้ข้อความไปมากระกับหนึ่ง แน่นอนว่าถึงไม่มากที่สุด แต่ก็ถือว่ามากพอที่จะทำให้คนทักเข้ามาผิดได้
โดยที่ “Ads on Facebook Reels” คือการที่โฆษณาของเราจะอยู่ด้านล่างของ Reels ที่คนกำลังรับชมอยู่ เลยทำให้คนสามารถเข้าใจผิด และกดเข้ามาได้เพื่อทักสอบถาม คิดว่าเป็นสิ่งที่ตัวเองสนใจอยู่ในคลิป Reels แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย และแน่นอนว่าภาพเดียวที่จะโชว์บน “Ads on Facebook Reels” ได้ เราก็เลยคิดว่าน่าจะได้ผู้ต้องสงสัยนั่นคือ การที่เราเลือกใช้ Advantage+ Placement และมีการเลือก “Ads on Facebook Reels” ไว้ทำให้เกิดการทักแชทแบบเข้าใจผิดกัน เราเลยปิดการแสดงผลโฆษณาบน Ads on Facebook Reels ออกไป ทำให้ลด ลูกค้าแชทไม่ตรงโฆษณา
หลังจากปิดการแสดงผล Ads on Facebook Reels ออกไปแล้ว ก็มาบันทึกผลว่า การทักผิดลดลงไหม
หลังจากปรับเอา “Ads on Facebook Reels” ออกไป ก็มาลองดูกันว่าคนทักผิดลดลงแค่ไหน แน่นอนว่าการที่เราตั้งสมมติฐานไว้ก็เป็นจริง เพราะคนทักผิดลดลงมาก เรียกได้ว่าแทบจะหมดไปเลยทีเดียว เราอาจจะสรุปได้เลยว่าการที่คนทักโฆษณาข้อความเข้ามา แล้วถามหาสินค้าที่ไม่ได้ตรงกับที่เราทำโฆษณาเลย เป็นเพราะโฆษณา Ads on Facebook Reels นี่เอง เรียกว่า เหมือนตัวเองก็เป็นนักสืบอยู่ไม่น้อย กับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
สรุป Placement “Ads on Facebook Reels” เป็นช่องทางที่ทำ Message ได้ดี แต่ทำให้คนสับสน
สรุป คือถ้าใครเจอว่า ลูกค้าแชทไม่ตรงโฆษณา ที่เราทำโฆษณาแบบ Message ไว้ใน Facebook สามารถสรุปได้ง่ายอย่างรวดเร็วเลยคือนั่นคือปิดการแสดงผลบน Placement ส่วน “Ads on Facebook Reels” ได้ (แต่แนะนำว่าควรจะเช็คด้วยตัวเองก่อน เพราะว่าโฆษณาแต่ละแบบก็ไม่เหมือนกัน) ซึ่ง “Ads on Facebook Reels” นี้สามารถทำ Cost per Message ได้ต่ำ แต่ทว่าอาจจะเป็นเรื่องใหม่ หรือการที่คนคลิกโฆษณายังไม่เข้าใจ หรืออาจจะเป็น User Experience ที่ไม่ดีพอ ทำให้คนที่ทักเข้ามานั้นเข้าใจผิด สั่งซื้อสินค้าที่เราไม่ได้ขาย ทำให้เราอาจต้องเสียเงินค่าโฆษณาไปกับสิ่งที่ไม่ใช่ ดังนั้นแล้วถ้าพบเหตุการณ์เช่นนี้แนะนำว่าเราควรเริ่มต้นจากการสังเกตและค่อยมองหาคำตอบที่น่าจะเป็น แล้วค่อยแก้ไขปัญหานั้นได้อย่างตรงจุด
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time