หนุ่มซีวิคหัวร้อน นับว่าเป็นประเด็นใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทาง Digital Break Time ไม่ได้ต้องการจะซ้ำเติมหรือจะเล่าเรื่องเหตุการ์ณนั้นแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการให้เกิดการคิดว่า เหตุการณ์แบบนี้สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ และเราได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
Digital Footprint คือร่องรอยชั้นดีที่สามารถนำมาขุดคุ้ยได้
Digital Footprint ก็เปรียบได้กับเศษขนมปังเหมือนนิทานในเรื่องฮันเซล-เกรเทล แต่เป็นเศษขนมปังที่ชี้เป้าได้อย่างแม่นยำว่าเราเคยทิ้งร่องรอยอะไรไว้บนโลกไซเบอร์บ้าง คุณเลยลองเอาชื่อจริงนามสกุลจริงของตัวเองค้นหาใน Google บ้างหรือไม่ล่ะ ผลการค้นหาอาจเป็น Social Media ที่คุณใช้งานอยู่ คุณไปเช็กอินที่ไหนไว้บ้าง หรืออาจเป็นบทความ บทคัดย่อของสารนิพนธ์หรือวิทยานิพนธ์ที่คุณเขียน รูปของคุณที่ไปรับรางวัลอะไรสักอย่าง หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์ขายของเอาชื่อคุณไปลงในเว็บไซต์เพื่อบอกเลขที่จัดส่ง แล้วไม่เคยลบสักที
นี่แหละทั้งหมดนี้คือ Digital Footprint แน่นอนว่าสำหรับคนที่ทำเรื่องดี ๆ หรือมีชื่อเสียงอยู่แล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไรนัก แต่แน่นอนว่าเราควรตระหนักให้มากในเรื่อง Digital Footprint บางอย่างอยู่ในอินเทอร์เน็ตแล้วก็ไม่สามารถลบออกไปได้ ปรากฏทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี ดังหนุ่มซีวิคหัวร้อนที่ปรากฏในคลิปก็ได้มีการเริ่มหา Social Media ถึงขนาดขุดคุ้ยว่าทำงานที่ไหน เคยเรียนที่ใด และลุกลามไปยังคนที่ใช้นามสกุลเดียวกันอีกด้วย
ระวังเรื่องข่าวปลอมเอาไว้ให้ดี
เพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมง หลังจากเกิดการเผยแพร่คลิปของหนุ่มหัวร้อน ก็มีโปรไฟล์บน Facebook ชื่อเดียวกันของหนุ่มซีวิคหัวร้อนเกิดขึ้นมากมาย ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการอัปเดตสเตตัส ทำให้เกิดความเข้าใจผิดแก่ผู้ที่เข้ามาพบเห็น และเกิดการแชร์ต่อมากมาย แน่นอนว่าก็เปรียบได้กับข่าวปลอมที่เห็นกัน ทางที่ดีคือควรอ่านรายละเอียดให้ดี ก่อนที่จะแชร์ไม่ควรอ่านเพียงแค่หัวเรื่อง ควรมีวิจารณญาณไตร่ตรองให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจแชร์ออกไป
การตั้งค่า Privacy ของ Social Media ต้องรู้เท่าทันให้มากขึ้น
ในปัจจุบันนี้การตั้งค่า Privacy สามารถทำได้อย่างง่ายดายมากขึ้น โดยเฉพาะใน Facebook มีให้เลือกมากมายว่าต้องการให้เห็นแบบสาธารณะ เพื่อน เฉพาะเพื่อบางคน หรือเห็นแค่ตัวเองเท่านั้น โดยเฉพาะการโพสต์แบบสาธารณะแต่เป็นเรื่องที่อ่อนไหวง่าย อย่าลืมไปว่าการโพสต์ให้เห็นเฉพาะเพื่อน ก็สามารถมีคนแคปหน้าจอ หรือข้อความนั้น ๆ เพื่อส่งต่อได้อยู่ดี
ถ้าจะให้ดีที่สุด ก่อนที่เราจะตั้งสเตตัสอะไร หรือจะพิมพ์อะไร ให้คิดก่อนเสมอว่าเมื่อเผยแพร่ไปแล้วจะกระทบกับใครบ้าง เช่นตัวเองหรือผู้อื่น จะช่วยให้ลดการกระทบกระทั่งหรือการเกิดดราม่าได้อย่างชะงัด
วิธีการจัดการ Crisis Management ของ KASA Development
เมื่อเกิดการขุดคุ้ยเกี่ยวกับหนุ่มซีวิคหัวร้อนมากขึ้น ก็ทำให้ได้ทราบว่า หนุ่มซีวิคหัวร้อนได้(เคย)ทำงานที่ KASA Development จึงได้จัดการ Crisis Management ในขั้นเด็ดขาด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับบริษัทได้ ซึ่งเป็นคำแถลงการณ์ดังนี้
ทำให้เราได้รู้ว่า การจัดการวิกฤตที่เรียกว่า Crisis Management เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ ไม่ว่าจะอยู่ในธุรกกิจใดก็ตาม สำหรับผู้ที่ต้องการอ่านเรื่อง Crisis Management ให้มากขึ้น สามารถอ่านได้ที่นี่
เรื่องของ หนุ่มซีวิคหัวร้อน ให้ข้อคิดอะไรกับเราได้บ้าง
ก็อย่างที่กล่าวไปในเบื้องต้นแล้วว่า Digital Footprint คือร่องรอยที่ทำให้คนอื่น ๆ สามารถติดตามเราได้ ค้นหาหรือขุดคุ้ยประวัติของเรา อีกทั้งจำเป็นมากที่ต้องกลั่นกรองให้ดีก่อนที่จะเชื่อข่าวใด ๆ จาก Social Media เพราะข่าวลวง ข่าวปลอมก็มีเป็นจำนวนมาก สุดท้ายคือการบริหารจัดการ Crisis Management ขององค์กร ที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time