เทรนด์ Digital Marketing 2020 เรียกได้ว่าในทุกปีมักจะมีการจัดลำดับว่าเทรนด์ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งจะเป็นอย่างไรในอนาคตของปีถัดไป แต่ขอออกตัวก่อนว่าบทความนี้เขียนมาจากประสบการณ์ที่ได้พบเจอลูกค้ามาว่าลูกค้าต้องการอะไรบ้าง จึงได้รวบรวมสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น มาดูกันว่าสิ่งที่ผู้เขียนได้พบในปีนี้ทั้งหมด จึงขอสรุป เทรนด์ Digital Marketing 2020 ออกมาเป็น 5 หัวข้อใหญ่ด้วยกัน
เทรนด์ Digital Marketing 2020 แนวโน้มจะเป็นอย่างไร เทรนด์ไหนกำลังมา
เทรนด์ Digital Marketing 2020 เน้น Conversion มากขึ้น
Conversion เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์เด่นที่มาแรงที่สุดในปีนี้ และปี 2020 ก็ยังคงดำเนินต่อไป เนื่องจากเป็นการลงทุนโฆษณาแล้วต้องการเห็นผลจริง ไม่ว่าจะเป็นคนซื้อสินค้า คนที่ลงทะเบียน ฯลฯ และไม่ได้มองแค่นั้น แต่แบรนด์หลายเจ้ามองผลตอบแทนในระดับ ROAS (Return on Advertising Spend) เพื่อให้รู้ว่าโฆษณาออนไลน์ที่ลงไปนั้น ได้ผลลัพธ์กลับมาเป็นเงินเท่าไร และคุ้มค่าหรือไม่ที่ใช้เงินลงไปกับโฆษณาชิ้นนี้
หมดยุคของ Engagement แบบผิวเผิน
เชื่อหรือไม่ว่า ลูกค้าที่เข้ามานั้นในปีนี้แทบจะไม่มีพูดถึงเรื่อง Engagement เลย เปรียบเสมือนว่าถูกทิ้งให้อยู่ห่าง ๆ ไม่มีความสำคัญอีกต่อไป ไม่ใช่แค่เพียง Engagement เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง Metric อื่น ๆ อย่าง Reach, Impression, Click, Page Like พวกนี้ที่ดูผิวเผินมาก ก็ตอบโจทย์ไปในทิศทางเดียวกันกับข้อแรก คือมาโฟกัสที่ Conversion มากกว่า
แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับบางธุรกิจ เช่นกลุ่มธุรกิจสินค้า FMCG หรือธุรกิจร้านอาหาร ที่ยังเน้นกลุ่ม Engagement อยู่ เนื่องจากสินค้าพวกนี้มักมีราคาไม่สูงมากต่อชิ้น และเป็นธุรกิจแบบ B2C จำเป็นที่จะต้องเน้นให้คนจำนวนมากเห็น และยังคงโฟกัสกับ Metric เหล่านี้อยู่นั่นเอง
มาหาแพลตฟอร์มโฆษณาใหม่ ๆ ไม่ได้ใช้แค่เพียง Facebook Ads หรือ Google Ads อีกต่อไป
สำหรับธุรกิจใหญ่ ๆ แน่นอนว่าการทำ Digital Marketing ย่อมมีงบประมาณสูง และต้องทำให้ครอบคลุม ข้อนี้เลยดูไม่แปลกใหม่เท่าไร แต่สำหรับเจ้าของธุรกิจรายย่อยแล้ว เริ่มมองหาแพลตฟอร์มโฆษณาใหม่ที่ไม่ใช่ Facebook Ads หรือ Google Ads อีกต่อไป เพราะต้องการกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Twitter Ads, Native Ads, TikTok ฯลฯ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าลูกค้ามีความต้องการจะลงโฆษณาที่ไหน
ยังไม่เพียงแค่นั้น ลูกค้าหลายเจ้ามองการณ์ไกลยิ่งกว่าเดิม เริ่มรู้ว่าการใช้เงินโฆษณาอัดเป็นแคมเปญ เมื่อหยุดอัดเงินผลลัพธ์ที่ได้ก็ตกลง จึงเริ่มมองหาการทำการตลาดในระยะยาว เช่นการ SEO ในเว็บไซต์และการทำ Inbound Marketing ที่เป็นการทำการตลาดในระยะยาว ถึงแม้ว่าจะเห็นผลช้า และใช้เวลานาน เมื่อเทียบกับการโฆษณารูปแบบอื่น แต่ก็ได้แบ่งเงินมาทำการตลาดในส่วนนี้มากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงนั่นเอง
KOL ยังมาแรง แต่ต้องการ Conversion จาก KOL
ตลาดของ Influencer และ KOL ยังคงเติบโตดี แต่เหล่าแบรนด์ต่างรู้ดีว่าเมื่อ KOL พูดจะดูน่าเชื่อถือ และผู้บริโภคจะคล้อยตามง่ายกว่าที่แบรนด์พูดเอง ดังนั้นหลายแบรนด์จึงใช้จุดนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด คือการหวัง Conversion ที่เกิดจาก KOL เช่นการให้ส่วนแบ่งการขายเมื่อเกิด Conversion จาก KOL
เรียกได้ว่าเป็นการทำ Affiliate Marketing แบบกลาย ๆ โดยให้ KOL ช่วยโปรโมตให้ แน่นอนว่า KOL ได้รับเงินจากการโปรโมตแล้ว ก็ยังมีสิทธิ์ได้รับส่วนแบ่งเมื่อเกิด Conversion อีกด้วย โดยเฉพาะสินค้าและบริการที่มีราคาสูงมาก จะเหมาะกับการหวัง Conversion จาก KOL
แบรนด์ลงมือทำเองมากขึ้น กระจายความเสี่ยงโดยการจ้างเอเจนซี่หลายเจ้าแทนผูกขาดเจ้าเดียว
แน่นอนว่าลูกค้าหลายเจ้ามีทีม Digital Marketing ที่เริ่มทำเองบ้างแล้ว ถึงแม้จะจะเป็นระดับธุรกิจเล็ก ๆ เองก็ตาม ถึงแม้ว่าจะไม่ครอบคลุมแต่ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้มาก และยังถือว่าเป็นการเพิ่มเติมความรู้ Know How ให้กับทีม Marketing ด้วย ถึงแม้ว่าจะมีทีมเอง แต่ในบางอย่างก็ยังจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาเอเจนซี่อยู่ แต่อย่างที่กล่าวไปในหัวข้อข้างต้น คือการจ้างเอเจนซี่จะไม่ได้เป็นแบบผูกขาดจ้างอยู่เจ้าเดียวอีกต่อไป เนื่องจากจุดเด่นของแต่ละเจ้าไม่เหมือนกัน แบรนด์อาจจะจ้างตามความสามารถเด่นของเอเจนซี่นั้น ๆ ทำให้แบรนด์จำเป็นที่จะต้องทำงานกับหลายเอเจนซี่ หรือเอเจนซี่จำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าสูงสุด
แต่สิ่งที่แบรนด์มักจะจ้างเอเจนซีอยู่เสมอ เพื่อลดความยุ่งยาก แต่ตัดปัญหาเรื่องการทุจริตออกไป นั่นคือการทำ Influencer Marketing เพราะเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใช้เวลา และ Influencer แต่ละเจ้าก็มีราคาที่ไม่เท่ากัน และราคาไม่แน่นอน ทำให้อาจเกิดปัญหาทุจริตภายในองค์กรได้ แน่นอนว่าหลายแบรนด์จึงยอมจ้างเอเจนซี่เพื่อการทำ Influencer Marketing ให้ออกมาโปร่งใส ถึงแม้ว่าจะแพงกว่าจ้าง Influencer โดยตรงเองก็ตาม
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์โดยตรงจากผู้เขียนเอง ที่ได้เจอลูกค้ามาปรึกษาและขอความคิดเห็นต่าง ๆ จึงได้รวบรวมจัดมาเป็นเทรนด์ Digital Marketing ของปี 2020 หวังว่าผู้อ่านจะได้นำข้อคิดเห็นนำไปปรับใช้สำหรับ Digital Marketing ได้เช่นกัน
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time