Digital Marketing ช่วงวิกฤต Covid-19 ไม่ว่าธุรกิจไหน ๆ ก็จะได้รับผลกระทบ อาจจะมากหรือน้อยแตกต่างกัน เอาเข้าจริงแล้ว เมื่อธุรกิจประสบภาวะวิกฤต งบประมาณที่จะโดนตัดก่อนอันดับแรกคืองบการตลาด ซึ่งในสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักช่วงนี้ก็ไม่ต่างกัน แต่ก่อนที่จะหั่นงบการตลาดออกไป อยากให้อ่านดูก่อนว่าธุรกิจของเรายังไปต่อได้ไหม หรือควรต้องหยุดแค่นี้
Digital Marketing ช่วงวิกฤต Covid-19 ควรไปต่อหรือพอแค่นี้?
ธุรกิจเราได้รับผลกระทบมากแค่ไหน ถ้าหนักมากอาจต้องหยุดไว้แค่นี้ แล้วค่อยพบกันใหม่
ลองมาพิจารณาดูก่อนว่าธุรกิจของเราคือช่วงขาขึ้นหรือขาลง หรือได้รับผลกระทบแค่บางส่วน เช่นถ้าเป็นร้านอาหาร แน่นอนว่าจำนวนที่ขายหน้าร้านอาจลดน้อยลง แต่ถ้าร้านไหนที่ทำ Delivery อยู่แล้ว อาจมีออเดอร์ที่มากขึ้นจากส่วนนี้ อาจลองประบเปลี่ยนงบโฆษณา Digital Marketing จากการขายหน้าร้านมาเป็นแบบเน้นจัดส่งถึงบ้านแทน
หรือถ้าธุรกิจของคุณเป็น Retail หรือขายสินค้าใด ๆ ที่จำเป็นจะต้องมาที่หน้าร้าน ไม่มีวางขายออนไลน์หรือขายออนไลน์ไม่ได้เองก็ตาม อาจจะต้องพักก่อน หยุดการโฆษณาไว้เพียงแค่นั้น แล้วหลังจากนั้นค่อยว่ากันใหม่
แต่ถ้าช่วงนี้อะไรขายออนไลน์ได้ก็อาจจะต้องขาย ต้องทำกันตอนนี้ หลายธุรกิจไม่เคยได้ปรับตัว แต่พอเจอวิกฤตตอนนี้ก็ทำกันทันที เช่นมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนกวดวิชาเริ่มมีการสอนคอร์สออนไลน์ทั้งหมดแทนที่ในทันที ถึงแม้เมื่อก่อนอาจเป็นแค่ส่วนเสริมเท่านั้น
หรืองานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติก็ยกเลิกงานอีเว้นท์ และกลับตัวมาจัดเป็นแบบออนไลน์แทน ที่เว็บไซต์ www.thaibookfair.com อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของแต่ละธุรกิจ และความพร้อมต่าง ๆ ว่าพร้อมแค่ไหน
Digital Marketing ช่วงวิกฤต ถ้ายังเห็นโอกาส ตอนนี้อาจเป็นโอกาสที่ดี ค่าใช้จ่ายการโฆษณาอาจลดลง

สำหรับคนที่ทำ Digital Marketing และพอเข้าใจหลักการเครื่องมือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Ads, Google Ads หรือเครื่องมืออื่น หลักการในเบื้องต้นของการโฆษณาออนไลน์มักจะเป็นการประมูล (Bidding) เพื่อให้โฆษณาของเราโชว์ นั่นหมายความว่า ยิ่งมีคู่แข่งในตลาดน้อยลงมากเท่าไร การประมูลก็จะถูกลงเท่านั้น อาจทำให้โฆษณาได้รับผลลัพธ์ที่ดีกว่า ถึงแม้จะใช้จำนวนเงินเท่าเดิมก็ตาม เมื่อรวมกับผลลัพธ์ที่ธุรกิจเราเป็นที่ต้องการ หรือไปได้ดี ก็อาจทำให้ธุรกิจของเราไปไกลกว่าเดิม
Awareness ยังคงอาจต้องทำ แต่ถ้าหวังระดับ Conversion อาจต้องพักก่อน
ของกินของใช้ หรือสินค้าที่หวังการโฆษณาในระดับ Awareness ก็ยังคงทำได้อยู่ และอาจได้ผลลัพธ์โฆษณาที่ดีกว่าเดิม เหมือนที่กล่าวไว้ ยิ่งคนใช้เวลาอยู่กับช่วงเวลาออนไลน์มากขึ้น เช่นการ Work from home หรือเสพข่าวสารผ่านทาง Social Media ต่าง ๆ อย่างน้อยก็ได้เห็นสินค้าเราผ่านตา แทนที่จะเป็นแบบออฟไลน์ ที่คนจะเห็นน้อยลง เพราะไม่ค่อยออกจากบ้าน หรือเกิดการ Social Distancing
แต่ถ้าหวังในระดับ Conversion แล้ว อาจจะต้องพักก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ต้องมีคนจัดการสานต่อให้ Conversion นั้นเป็นลูกค้า เช่นอาจต้องมีเซลล์ไปพบลูกค้าที่ลงทะเบียนมา เพื่อไปปิดการขาย เพราะในช่วงนี้การออกมาพบปะลูกค้า หรือการที่ลูกค้าจะมาหาเรา ก็มีโอกาสน้อย แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้าง Conversion ที่สามารถเสร็จสิ้นได้ในตัวเป็นลูกค้าได้ทันที เช่นขายของผ่านทาง E-Commerce ไม่จำเป็นที่จะต้องมีเซลล์เพื่อปิดการขาย ก็ยังคงทำโฆษณาที่หวังระดับ Conversion ได้อยู่
ไม่ว่าคุณจะเลือกหนทางไหนก็ตาม หวังว่าจะนำพาธุรกิจผ่านวิกฤตนี้ไปได้ และไม่แค่เพียงธุรกิจของลูกค้าเท่านั้น แต่ก็ธุรกิจอย่างเอเจนซีก็ได้รับผลกระทบไม่น้อยเช่นเดียวกัน
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร
บทความดี ๆ จาก Digital
Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time