เทรนด์ Digital Marketing 2021 เรียกว่าเทรนด์ Digital Marketing ในไทยของปี 2021 นั้น เป็นผลจากการมาของโรคระบาดอย่าง Covid-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่ง เทรนด์ Digital Marketing 2021 ในบทความนี้เป็นเพียงความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้น
E-Commerce อะไรขายบนอีคอมเมิร์ซได้ก็จะขาย
จากการมาของ Covid-19 ทำให้อุตสาหกรรมที่มีผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้คงจะไม่พ้นธุรกิจขายปลีกที่เน้นขายหน้าร้าน ธุรกิจค้าปลีก โรงแรม และท่องเที่ยว รวมไปถึงธุรกิจอื่น ๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว E-Commerce ก็มีการเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่พอสถานการณ์โควิด19 เข้ามา ทำให้ทุกอย่างผลักดันเข้าสู่แพลตฟอร์ม E-Commerce มากขึ้น อะไรที่ขายได้ก็จะขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเกือบทั้งหมด เพื่อทดแทนรายได้ที่หายไปเมื่อขายที่หน้าร้านไม่ได้
ใครเล่าจะคิดว่าสินค้าอย่างมอเตอร์ไซค์ ก็ขายบนอีคอมเมิร์ซกันแล้ว แพ็กเกจทัวร์ในไทยก็มีขาย Voucher ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งส่วนลดของอสังหาริมทรัพย์ ก็มีจำหน่าย ที่เหลือก็จะเป็นสินค้าที่จับต้องได้ทั่วไป ทำให้รู้ได้ว่าสินค้าแบบไหนก็สามารถวางขายบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้
อย่าง Lazada แพลตฟอร์ม E-Commerce ในไทยยอดขายเพิ่มขึ้น 160% จำนวนออเดอร์ 130% จำนวนแบรนด์ 600% และจำนวนผู้ซื้อ 110% อันนี้เป็นตัวเลขที่เทียบกับช่วงเดือนมิถุนายน 2563 กับมิถุนายน 2562 จะเห็นได้ว่าตัวเลขพุ่งทะยานขึ้นมาก
โฆษณาที่เกี่ยวของกับ E-Commerce จะเฟื่องฟู เช่น CPAS, Shopping Ads, Catalog Sales และ Sponsor บน Platform E-Commerce เอง
แค่ผลักดันเอาเข้าอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มยังไม่พอ เพราะมัวแต่จะรอฟ้ารอฝนให้คนมาค้นหาอย่างเดียวไม่ได้ ทำให้การโฆษณาในรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับ E-Commerce ซึ่งการโฆษณาในรูปแบบนี้มักจะวัดผลตอบแทนเป็นจำนวนเงินได้ ว่าขายสินค้าได้กี่ชิ้น มูลค่าสินค้าที่ขายได้เป็นอย่างไร หรือแม้กระทั่งการวัด ROAS (Return on ad spending) นับว่าเป็นข้อดีและเป็นจุดเด่นที่ช่วยวัดผลอย่างเห็นได้ชัดว่า ลงทุนลงแรงโฆษณาไปแล้วเห็นผลเป็นตัวเลขที่ชัดเจน
ซึ่งรูปแบบโฆษณาที่ยอดนิยมคงจะหนีไม่พ้น CPAS Ads ที่โฆษณาในเครือข่ายของ Facebook เป็นหลัก โดยดึงแคตตาล็อกจาก E-Commerce Platform ยอดนิยมจาก Lazada, Shopee หรือ JD Central เพื่อให้เกิดการคลิกสั่งซื้อในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนั้น ๆ
ส่วน Catalog Sales มีความคล้ายคลึงกับ CPAS Ads มากเพียงแต่การสั่งซื้อไม่ได้เกิดที่อีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม แต่เป็นบนเว็บไซต์ของเราเอง ลักษณะการทำงานแทบไม่แตกต่างกัน
ต่อมาเป็น Shopping Ads เป็นส่วนหนึ่งของ Google Ads เมื่อค้นหาบนหน้าผลลัพธ์ก็จะปรากฏในส่วนของ Shopping ให้เลือกซื้อสินค้า จำเป็นที่จะต้องยืนยันตัวตนว่าเป็นเว็บไซต์ของเราด้วย และวิธีการคิดคำนวณก็สามารถรู้ได้ทันทีว่ามีคนกดคลิกซื้อสินค้าเราเท่าไร Add to Cart จำนวนไหน เป็นมูลค่าเงินทั้งหมดที่ทำไปคุ้มกับค่าโฆษณาหรือไม่
สุดท้ายคือการ Sponsor บน Platform E-Commerce นั้น ๆ เนื่องจาก แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซไม่ต้องมองว่าผู้ซื้อเท่านั้นที่เป็นลูกค้า แต่ผู้ขายก็เป็นลูกค้าของเขาเช่นกัน การใช้ Sponsor บนแพลตฟอร์มนั้น ๆ มีข้อดีคือเข้าถึงผู้ซื้อได้มากขึ้นบนแพลตฟอร์มนั้น แต่ได้แค่เฉพาะแพลตฟอร์มนั้นแพลตฟอร์มเดียว
เทรนด์ Digital Marketing 2021 Social Commerce ต้องมา
ไม่เพียงแค่นั้นการทำ Social Commerce ก็มาแรงเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการ Live ขายสินค้าบน Social Media หรือบน E-Commerce Platform ก็ตาม เนื่องจากหน้าร้านส่วนของ Retails ค่อนข้างซบเซา การที่ได้ดูสินค้าผ่านหน้าจอแล้วมีคนเชียร์ผ่านการ Live ก็จะช่วยกระตุ้นการขายสินค้าได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาด Covid-19 ที่ผ่านมา ห้างยักษ์ใหญ่ต่างขยัน Live มหาศาล
ยังไม่เพียงแค่นั้น Social Commerce ยังรวมไปถึงการโต้ตอบต่าง ๆ และการสั่งซื้อผ่าน Social Media ด้วย ซึ่งในกลุ่ม SMEs ทำมานานแล้ว แต่ยักษ์ใหญ่ของฝั่งค้าปลีกทำในสเกลที่ใหญ่ขึ้น ทั้งมารับที่ห้างเอง ส่งถึงบ้าน หหรือแม้กระทั่งเป็นผู้ช่วยในการช้อป นับว่า Social Commerce เติบโตมาพร้อมกับ E-Commerce เช่นกัน
จะเห็นว่าเทรนด์ที่พูดถึงมาค่อนข้างมีความเกี่ยวข้องกับ E-Commerce ในระดับที่สูงมาก เมื่อ E-Commerce เติบโต เทรนด์ที่เกี่ยวข้องกับ E-Commerce ก็ย่อมโตตาม เนื่องจากสถานการณ์ที่ทั่วโลกเจออย่าง Covid-19 เป็นเหมือนตัวเร่งที่ทำให้เทรนด์ E-Commerce มาแรงยิ่งขึ้น
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time