Digital Marketing ร้านอาหาร การทำ Digital Marketing ในยุคปัจจุบัน ไม่ใช่เรื่องที่ลึกลับซับซ้อนอะไร เจ้าของกิจการสามารถทำได้เองในเบื้องต้น โดยเฉพาะร้านอาหารขนาดเล็ก ที่ไม่ได้มีทีมทำการตลาดใหญ่ เริ่มการทำ Digital Marketing ได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งทาง Digital Break Time เลยจะมาแนะนำ Digital Marketing ร้านอาหาร แบบง่าย ๆ ที่นิยมทำกัน และมีข้อดีข้อเสียไว้ให้เพื่อตัดสินใจด้วย
Digital Marketing ร้านอาหาร มีวิธีอะไรบ้าง เลือกหัวข้อที่ต้องการ
ใช้ Influencer ช่วยโปรโมท Digital Marketing ร้านอาหาร

เป็นวิธีที่นิยมทำกันมากและได้ผลตอบรับที่ค่อนข้างดี เพราะว่าการรีวิวผ่าน Influencer สำหรับร้านอาหารจะช่วยให้มีคนใช้บริการเป็นจำนวนมากในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เพราะหลายคนต้องการตามรอย Influencer ที่ตัวเองติดตามอยู่ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีในการเรียกคนเข้ามาร้านอาหารได้
ข้อดีของการใช้ Influencer สำหรับ Digital Marketing ร้านอาหาร
- เห็นผลเร็ว ได้ผลลัพธ์ค่อนข้างดี
เรียกว่าการจ้าง Influencer สำหรับการรีวิวอาหาร จะได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างพึงพอใจเลยทีเดียว และยังเรียกคนเข้ามาร้านได้จริง และยังเห็นผลเร็วอีกต่างหาก Influencer ลงรีวิววันนี้ พรุ่งนี้อาจจะเห็นจนมากินตามรีวิวเลยทีเดียว แต่ว่าต้องเป็น Influencer ที่จะมีจำนวนผู้ติดตามสูงสักหน่อย และมี Engagement สูงจะช่วยให้เกิด Awareness ได้เยอะมากขึ้น - ช่วยเพิ่มยอดขายได้ทั้งจากเดลิเวรี่และหน้าร้าน รองรับสำหรับการค้นหาในอนาคต
ถ้าเป็น Influencer ที่มีเว็บไซต์ด้วย จะช่วยทำให้การค้นหารีวิวจาก Google เป็นเรื่องง่ายขึ้น เพราะส่วนมากการทำร้านอาหาร มักจะมีการค้นหาชื่อร้านเป็นประจำ ถ้ามีคนรีวิวให้ลงเว็บไซต์ จะช่วยให้คนเห็นตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และยังไม่พอ ถ้าเราลงลิงก์สำหรับ Facebook และแพลตฟอร์มเดลิเวรี่ของร้านเรา ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายจากเดลิเวรี่สำหรับคนที่อยู่ใกล้ ๆ และช่วยเพิ่มยอดผู้ติดตามทางอ้อมได้อีกต่างหาก
ข้อที่ควรพิจารณาของการใช้ Influencer สำหรับร้านอาหาร
- Influencer ที่มีผู้ติดตามสูง ยอด Engagement ดี มักจะมีราคาสูงตาม
แน่นอนว่าสำหรับร้านอาหารขนาดเล็ก มักจะมี Budget จำนวนจำกัด ถ้าต้องการจะจ้าง Influencer ผู้ติดตามสูง ๆ ก็จะจะต้องลงทุนสูงตามไปด้วย ถึงแม้ว่าผลลัพธ์จะออกมาดี แต่ก็ไม่มีใครการันตีได้ว่า การใช้งบ Digital Marketing ร้านอาหาร กับ Influencer จะคืนทุนหรือไม่ ทำให้เราต้องเลือกพิจารณา Influencer ให้ดีว่าเหมาะสม
- ถ้าเลือกใช้ Influencer ผู้ติดตามน้อย อาจจะไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ถึงแม้ว่า Influencer ที่ผู้ติดตามน้อย มักจะมีราคาจ้างที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็ต้องพิจารณาไว้เลยว่า อาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ดีเท่าที่ควรนัก เพราะยอด Impression, Reach, Engagement ก็จะน้อยตามไป ทำให้คนมีโอกาสเห็นน้อยตามไปด้วย คนที่จะมากินอาหารตามรีวิวก็จะน้อยลงไปอีก ดังนั้นถ้าเลือกหนทางนี้อาจจะเหมาะกับการจ้างเป็นกลุ่มหรือทีละเยอะ ๆ ก็ได้ เพราะกระจาย Awareness ให้ได้มากขึ้น
สำหรับร้านที่มีเดลิเวรี่ลองโปรโมตผ่านแพลตฟอร์ม Food Delivery

ร้านอาหารขนาดเล็กมักจะเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มเดลิเวรี่อยู่แล้ว แต่รู้หรือไม่ว่าแพลตฟอร์มฟูดเดลิเวรี่หลายเจ้ามีให้โปรโมตร้านอาหารตัวเองในรูปแบบ Ads อยู่ด้วย ซึ่งจะช่วยให้ร้านเราอยู่ลำดับแรก ๆ ขอการค้นหา หรือแสดงผลของร้านเราให้มากขึ้น
จุดเด่นและข้อดีของการโปรโมตผ่าน Food Delivery
- มีโอกาสสูงขึ้นมากที่จะทำเกิดการสั่งซื้ออาหารบน Food Delivery
เนื่องจากการโปรโมตบนแอพสั่งอาหาร แน่นอนว่าเป็นคนที่กำลังจะสั่งซื้ออาหารอยู่แล้วในขณะนั้น เมื่อร้านของเราถูกนำไปโชว์ในลำดับแรก ๆ และผู้ที่ค้นหาร้านอาหารอยู่ในรัศมีที่แอพพลิเคชันสามารถจัดส่งได้ ก็จะมีโอกาสสูงมาก ๆ ที่จะให้เกิดออเดอร์ได้ด้วย
จุดที่ควรพิจารณาของการโปรโมตผ่าน Food Delivery
- มีข้อจำกัดมาก เข้าถึงได้ยาก
เนื่องจากการโปรโมตบนแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวรี่ อาจเป็นสิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคย หลายแพลตฟอร์มอาจจะยังไม่ได้เปิดให้กับผู้คนทั่วไปใช้งาน ต่างจากแพล็ตฟอร์ม Social Media อื่น ๆ ที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถสร้างโฆษณาได้เลย
Google Ads ที่เป็นแคมเปญ Local สำหรับ Digital Marketing ร้านอาหาร

Google Ads มีแคมเปญสำหรับ Local เพื่อให้คนมาที่ร้านค้ามากขึ้น โดยจะเชื่อมต่อกับ Google My Business เพื่อให้ทราบถึงที่ตั้งของร้านเราใน Google Maps และจะพยายามให้คนนำทางจาก Google Maps มาที่ร้านของเราให้ได้มากที่สุด
จุดดีของการใช้งานแคมเปญ Local ของ Google Ads
- ช่วยทำให้ทราบว่าร้านเราตั้งอยู่ที่ไหน
เนื่องจากการทำโฆษณาแคมเปญแบบ Local จะเน้นให้คนเกิดนำทางที่ Google Maps และใน Google Maps เอง จะโชว์ที่ตั้งของร้านเราแบบเด่นกว่าปกติ ทำให้เกิดการรู้ว่าร้านเราตั้งอยู่ตรงไหนในแผนที่ของ Google Maps
จุดอ่อนของการใช้ Google Ads แคมเปญ Local
- ถึงจะทำเกิดการนำทาง แต่ก็ใช่ว่าจะมาที่ร้านจริง และเชื่อมโยงเกิดออเดอร์ออนไลน์ได้ยาก
แคมเปญในรูปแบบ Local เน้นให้เกิด Direction บน Google Maps แต่ก็ใช่ว่าลูกค้าจะเดินทางมาที่ร้านจริง และอีกอย่างถ้าจะนำไปใช้กับออเดอร์บนแพลตฟอร์มเดลิเวรี่ ก็นำมาปรับใช้ได้ยาก ถึงจะใส่ลิงก์ที่ให้เกิดการสั่งซื้อได้ก็ตาม เพราะว่าคนที่เข้าไปใน Google Maps เน้นให้เกิดการนำทาง หรือรู้สถานที่เป็นหลัก ไม่ได้เน้นที่ทำให้เกิดออเดอร์บนแพลตฟอร์มเดลิเวรี่นั่นเอง
โฆษณาเน้น Awareness, Engagement บน Facebook

สุดท้ายเป็นโฆษณาที่เรารู้จักกันดี คือโฆษณาใน Facebook ที่เน้น Engagement และ Awareness ต่าง ๆ ซึ่งเจ้าของร้านอาหารก็มักจะโปรโมตร้านบน Facebook เป็นที่แรก ๆ
ข้อดี จุดเด่น ของการโฆษณาบน Facebook เพื่อทำ Digital Marketing ร้านอาหาร
- ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก เลือกได้หลาย Objective ที่เหมาะกับร้าน
เนื่องจาก Facebook เป็น Ad Network ที่หลายคนเลือกใช้และคุ้นเคย มีปุ่ม Boost ให้กดแบบง่าย ๆ เจ้าของกิจการเล็ก ๆ ก็ทำโฆษณาได้เอง ถ้าแบบรู้ขั้นลึกหน่อย เราก็สามารถเลือก Objective ที่เหมาะกับที่ร้านเราต้องการได้ เช่นถ้าเรามีโฆษณาแบบวิดีโอ ก็อาจเลือกเป็น Engagement แบบ Video Views หรือถ้าเป็นรูปภาพปกติ ก็อาจจะเป็น Engagement ทั่วไป หรือแบบเน้น Message ที่ทำให้เกิดข้อความ Inbox ได้ด้วย
ข้อควรพิจารณาเมื่อทำโฆษณาด้วย Facebook
- ราคาโดยเฉลี่ยต่อ Engagement ค่อนข้างสูงกว่า Ad Network อื่น ๆ
Facebook เป็น Ad Network ที่อยู่มานาน ทำให้มีผู้ลงโฆษณาที่สูงกว่า Ad Network หน้าใหม่อื่น ๆ ทำให้ราคาเฉลี่ยต่อ Engagement เมื่อเทียบกัน จะมีราคาที่สูงกว่า นั่นหมายความว่า เมื่อเราจ่ายเงินโฆษณาลงเงินเท่า ๆ กัน Engagement ที่ได้จาก Facebook โดยเฉลี่ยจะน้อยกว่าบน Ad Network อื่น ๆ นั่นเอง
ทั้งหมดนี้เป็นการทำ Digital Marketing สำหรับร้านอาหารขนาดเล็กซึ่งเจ้าของสามารถทำง่าย ๆ ทำได้เอง แต่ทว่าในทุก ๆ แบบก็ต่างมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงควรพิจารณาให้ดีก่อนที่เราจะต้องทำการตลาดออนไลน์ด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อให้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time