Digital Marketing รถยนต์ สำหรับใครที่ทำธุรกิจโชว์รูมรถ และเต้นท์รถ แต่ยังไม่มีแนวทางในการทำการตลาดออนไลน์ หรือเพิ่งจะเริ่ม แต่ยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจน ยังไม่มีทิศทางว่าจะไปทางไหน แนะนำอย่างยิ่งให้อ่านบทความนี้ เนื่องจากว่าทางผู้เขียนได้รวบรวมประสบการณ์จริงการการค้นคว้าเกี่ยวกับการทำ Digital Marketing เกี่ยวกับโชว์รูมรถและเต้นท์รถมาในบทความนี้ ว่าควรจะเริ่มอย่างไรดี
Digital Marketing รถยนต์ สำหรับเต้นท์รถ และโชว์รูมรถยนต์
- Leads สำคัญก็จริง แต่อย่าลืมด้าน Awareness ด้วย
- Digital Marketing รถยนต์ เว็บไซต์คือแหล่งให้ข้อมูล อย่าปล่อยทิ้งร้าง
- สินค้าไม่ได้แตกต่าง แต่ Service คือหัวใจสำคัญ ที่ทำให้เราต่างจากคนอื่น
- Content Marketing ก็เป็นสิ่งสำคัญ เราจะพึ่งพา Ads อย่างเดียวไม่ได้
- Digital Marketing รถยนต์ เลือกแพลตฟอร์มที่ใช่ ขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังแพลตฟอร์มอื่น
Leads สำคัญก็จริง แต่อย่าลืมด้าน Awareness ด้วย
หลายคนพอจะทราบกันอยู่แล้วว่าการทำ Digital Marketing สำหรับการขายรถยนต์นั้น ไม่ว่าจะเป็นโชว์รูมรถ หรือเต้นท์รถเองก็ตาม การที่เราได้ Lead ลูกค้ามานับว่าเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจากการโทร ลงทะเบียน Inbox หรือแชทมาทางไลน์ มีโอกาสที่จะช่วยให้เซลล์ทำงานได้ง่ายขึ้นและปิดการขายได้ดียิ่งขึ้น แต่หลายคนหลงลืมไป เลยทำแต่ Digital Marketing รถยนต์ ที่หวังผลเฉพาะเพื่อให้ได้ Lead มาอย่างเดียวเท่านั้น ไม่มองถึง Awareness เลย
ซึ่งขั้นตอนของ Awareness ค่อนข้างสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นการการทำโฆษณาวิดีโอบน Social Media ต่าง ๆ Live หรือการทำ Influencer ต่างมีผลต่อการรับรู้ในการตัดสินใจซื้อรถ เมื่อถึงขั้นตอนของ Consideration เราก็สามารถนำเอากลุ่มคนที่เคยดูวิดีโอของเรา เคยเข้าเว็บไซต์เรา หรือเคย Engagement กับ Social Media ของเรา ทำเป็นกลุ่ม Retargeting สำหรับให้เกิดการลงทะเบียน Lead ได้ เป็นตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้เกิด Lead มากกว่าเดิม (แอบบอกนิดนึงว่าโดยส่วนมาก กลุ่ม Retargeting มักจะมี CTR และ Conversion Rate ที่ดีกว่ากลุ่มโดยทั่วไป)
Digital Marketing รถยนต์ เว็บไซต์คือแหล่งให้ข้อมูล อย่าปล่อยทิ้งร้าง
เชื่อหรือไม่ว่า เท่าที่ผู้เขียนลองหาข้อมูลเกี่ยวกับเต้นท์รถ หรือโชว์รูมหลายที่กลับไม่มีเว็บไซต์เลย มีเพียงแต่ Social Media หรือถ้าดีหน่อยก็มีเว็บไซต์ แต่เว็บไซต์เหล่านั้นถูกทิ้งร้าง ข้อมูลไม่ได้มีการอัปเดต ไม่มีการทำคอนเทนต์ใด ๆ ลงเว็บไซต์มานานแล้ว หนักกว่านั้นไม่มีการใช้เครื่องมือสำหรับการวัดผล Analytics เพื่อวิเคราะห์เลยว่ามีคนเข้าเท่าไร อ่านคอนเทนต์ไหน รถรุ่นไหนนิยมมากเป็นพิเศษ
เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องควรจะทำเลยคือ
- ต้องมีเว็บไซต์ โดยเฉพาะเว็บไซต์แบบคุณภาพ
- มีรายละเอียดต่าง ๆ เรียบร้อย มีรถรุ่นยอดนิยมที่เราจำหน่าย
- มีการอัปเดตคอนเทนต์อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบทความ รีวิวรถรุ่นต่าง ๆ และรีวิวลูกค้ามีมาซื้อรถและใช้บริการ
- ช่องทางการติดต่อ แบบฟอร์มลงทะเบียน ไลน์ Facebook Google Maps สาขาที่เรามีลงไว้ให้หมด
- การวัดผลต่าง ๆ เช่นติดตั้ง Google Analytics จะให้ดีอาจต้องตั้งค่า Goal หรือ Conversion ไว้ด้วย
สินค้าไม่ได้แตกต่าง แต่ Service คือหัวใจสำคัญ ที่ทำให้เราต่างจากคนอื่น
อันนี้ก็คือเรื่องจริงเลย รถยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเหมือนกัน ที่ไหน ๆ ก็ขายไม่แตกต่างกัน ยกเว้นในด้านราคาหรือของแถม ซึ่งแน่นอนยิ่งตลาดมีการแข่งขันที่รุนแรงก็จะเกิดการตัดราคาแข่งกันขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้เราแตกต่างไม่เหมือนใคร ว่าโชว์รูมรถหรือเต้นท์รถต่าง ๆ ที่จะต้องมองให้มากขึ้นคือการบริการ หรือที่เราเรียกว่า Service หลายที่เริ่มมีการบริการอย่างศูนย์บริการด้านรถครบวงจรแบบย่อม ๆ ไม่ได้แค่ขายอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะการบริการหลังการขายจะช่วยเราเพิ่มรายได้ต่อยอดมากขึ้น จากสินค้าที่เราขายไปแล้ว ยิ่งถ้าเราบริการได้ดีเท่าไร ก็มีโอกาสมากขึ้นที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อรถกับเราอีก ถึงแม้เราจะขายรถแพงกว่าที่อื่นก็ตาม
Content Marketing ก็เป็นสิ่งสำคัญ เราจะพึ่งพา Ads อย่างเดียวไม่ได้
วิธีการแก้ปัญหาได้รวดเร็วคือการหาลูกค้าจากการใช้โฆษณาหรือ Ads เพราะว่าเราลงเงินไป แน่นอนว่าโฆษณาทำงานเกือบจะทันที โชว์รูมรถและเต้นท์รถก็จะพยายามอัดเงินในส่วนของ Ads มากขึ้นเพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น แน่นอนว่าการเพิ่มงบโฆษณา เป็นเรื่องดี แต่เราไม่ควรพึ่งพาแต่ Ads แต่อย่างเดียว สิ่งที่ควรจะทำควบคู่กันไปด้วยนั่นคือการทำ Content Marketing อาจจะลงในทั้งแพลตฟอร์ม Social Media หรือลงในเว็บไซต์ของเราก็ได้ ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Traffic แบบ Organic ที่คนค้นหามาเจอเราเอง จะช่วยเพิ่ม Lead ที่มาจาก Content Marketing ซึ่งในอนาคตจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของ Ads ในระยะยาวได้ด้วย
Content Marketing ที่เหมาะสมสำหรับโชว์รูมรถ เต้นท์รถ เช่น
- รีวิวรถ เปรียบเทียบสเปครถ ทั้งรูปแบบวิดีโอและบทความ
- คอนเทนต์เกี่ยวกับวิธีการดูแลรักษารถยนต์
- สัมภาษณ์หรือ Testimonial จากลูกค้าที่มาใช้บริการ
- Influencer ที่มาซื้อรถหรือมาแนะนำที่โชว์รูม
Digital Marketing รถยนต์ เลือกแพลตฟอร์มที่ใช่ ขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังแพลตฟอร์มอื่น
เจ้าของกิจการขนาดเล็ก โดยเฉพาะเต้นท์รถและโชว์รูมรถยนต์ เข้าใจเลยว่ามักจะทำ Digital Marketing บนแพลตฟอร์ม Social Media หลักก่อน เช่น Facebook ก่อน เพราะว่าบริหารจัดการง่าย เริ่มต้นได้เร็ว แต่เมื่อเราโฆษณาบนแพลตฟอร์มเดิม ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ลูกค้าก็จะมีอยู่ที่อยู่บนแพลตฟอร์มที่เราโฆษณาเท่านั้น แต่ในทางที่ดีเราควรจะไปหากลุ่มลูกค้าที่อยู่ในหลาย ๆ แพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Twitter, TikTok, LINE หรือ Ad Network อื่น ๆ เช่น Taboola เพื่อหาลูกค้าที่เหมาะกับเราได้มากขึ้น แนะนำเลยว่าค่อย ๆ ขยายฐานไปยังแพลตฟอร์มที่เหมาะกับเราก่อน อาจจะยังไม่ต้องเริ่มโฆษณาทั้งหมดก็ได้ เพียงแค่เริ่มทำ Content Marketing ที่เหมาะกับแพลตฟอร์มนั้นด้วย จะช่วยให้เราหา Lead ได้มากขึ้น เมื่อลงตัวค่อยเริ่มทำโฆษณาเพื่อหา Lead เพิ่มได้ด้วย สำหรับเจ้าของกิจการ หรือผู้ที่ทำงานในวงการเต้นท์รถและโชว์รูมรถยนต์ ก็จะรู้ว่าตัวสินค้าคือรถยนต์นั้น มีความเหมือนกัน แทบจะไม่แตกต่างกันเลย เพราะเป็นแบรนด์เดียวกัน รุ่นเหมือนกัน สิ่งที่พอจะทำให้แตกต่างได้ ก็มีเพียงไม่กี่อย่าง นอกเหนือจาก Service แล้วสิ่งที่จะเรียกลูกค้าเข้ามาได้คือการทำ Digital Marketing เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time