ฟรีแลนซ์ Digital Marketing จะเริ่มได้อย่างไร สำหรับสิ่งที่ทำได้ยากที่สุดของการเป็น Freelance ของงานการตลาดดิจิทัลนั้น จุดเริ่มต้นของความยากของฟรีแลนซ์หลายคนคือการเริ่มที่จะหาลูกค้า ว่าจะหาลูกค้าได้จากที่ไหน เพราะถ้าไม่มีลูกค้า นั้นหมายถึงก็จะไม่มีงานนั่นเอง ดังนั้นการหาลูกค้าก็สำคัญไม่ต่างจากการทำ Planning, Optimize เลย ซึ่งทาง Digital Break Time เลยจะมาชี้ช่องว่าฟรีแลนซ์ Digital Marketing ควรจะหาลูกค้าจากที่ไหนได้บ้าง
ฟรีแลนซ์ Digital Marketing มือใหม่จะหาลูกค้าจากที่ไหนดี
สื่อช่องทางของตัวเอง ฟรีแลนซ์ Digital Marketing
เป็นช่องทางแรกที่หลายคนคิดถึง ไม่ว่าจะเป็น Social Media ต่าง ๆ เว็บไซต์ รวมไปถึงการจัดสัมมนาด้าน Digital Marketing ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางของตัวเองเหมือนกัน ซึ่งข้อดีของสื่อของตัวเอง เราสามารถทำคอนเทนต์ได้หลากหลาย ตามที่เราต้องการ เราสามารถทำคอนเทนต์ให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าของเราได้ด้วย ในสื่อช่องทางของตัวเองเราก็สามารถปรับรูปแบบคอนเทนต์ให้เหมาะกับแต่และ Social Media ที่เราถนัดได้ด้วย ถ้าใครถนัดเล่าเรื่องเป็นตัวอักษรขนาดยาว แน่นอนว่าเว็บไซต์ของตัวเองก็ดูจะเหมาะไม่น้อย หรือถ้าใครมีฝีมือทางด้านการทำวิดีโอ YouTube, TikTok ก็อาจจะเป็น Social Media หลักได้ หรือถ้าใครถนัดการทำคอนเทนต์แบบผสม ทั้งรูปและข้อความไปด้วยกัน แน่นอนแพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram และ Twitter ก็จะเป็นที่นิยมด้วย
กลุ่มทาง Facebook ต่าง ๆ

ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้เลยว่า Facebook ยังคงมีจุดแข็งของการเป็น Community ที่สูงมาก นั่นคือกลุ่มต่าง ๆ ของ Facebook กลุ่มที่รวมความสนใจตรงกัน ซึ่งกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับ Digital Marketing ก็มีอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าเราจะเข้าไปเพื่อโฆษณาตัวเองดื้อ ๆ ทื่อ ๆ ก็อาจจะโดนเตะออกจากกลุ่มได้ ซึ่งในแต่ละกลุ่มก็จะมีกฎที่แตกต่างกันออกไป แนะนำว่าให้ตอบคำถามด้าน Digital Marketing บ่อย ๆ หรือ Post ความรู้ทางด้าน Digital Marketing ที่เป็นประโยชน์ ก็จะช่วยให้เรามีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ และก็อาจจะมีลูกค้าติดต่อกลับมาได้
บนแพลตฟอร์มที่หา ฟรีแลนซ์ Digital Marketing
ในปัจจุบันนี้ ฟรีแลนซ์ Digital Marketing ต่างมีช่องทางในการหาลูกค้าง่ายขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นนั่นคือแพลตฟอร์มที่เน้นการหาฟรีแลนซ์โดยเฉพาะ ทำให้เปิดตลาดการหางานของฟรีแลนซ์ โดยทางฝั่งลูกค้าก็จะค้นหาฟรีแลนซ์ตามความต้องการได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้ฟรีแลนซ์มีโอกาสได้ลูกค้าสูงขึ้น แต่ว่าก็จะมีข้อเปรียบเทียบบ้าง เพราะว่าบนแพลตฟอร์มฟรีแลนซ์ก็จะมีการเปรียบเทียบอยู่เสมอ ทั้งความสามารถและราคา เพราะฟรีแลนซ์ในงาน Digital Marketing มีจำนวนสูงพอสมควร แต่เราตั้งราคาสูงกว่าคู่แข่งมาก ๆ โอกาสการได้ลูกค้าก็จะลดลงนั่นเอง
ปากต่อปาก จากลูกค้าเก่า
สำหรับฟรีแลนซ์ Digital Marketing ที่มีลูกค้าเดิมอยู่แล้ว และทำงานด้วยกันมานาน ถ้าเราทำงานด้วยความตรงเวลา ผลลัพธ์ที่ทำ Digital Marketing เป็นที่น่าพอใจ บอกเลยว่ามีโอกาสสูงมากที่ลูกค้าที่เราดูแลอยู่นั้น จะแนะนำให้เราให้กับลูกค้าคนอื่น ๆ ต่อ เนื่องจากว่าลูกค้าก็จะมีเครือข่ายผู้ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกัน คล้ายกัน หรือเป็นซัพพลายเออร์ หรืออาจจะต่างธุรกิจออกไปเลย การแนะนำแบบปากต่อปากเป็นการแนะนำที่ทรงพลังมาก โดยเฉพาะจากเพื่อนการ ผู้ร่วมธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน อย่าแปลกใจถ้าคุณได้ทำ Digital Marketing ให้กับธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งแล้ว คุณก็จะมีลูกค้าที่อยู่ในแวดวงเดียวกันตามมาเป็นลูกค้าของคุณ และทำให้คุณเก่งขึ้นด้วยกับการทำ Digital Marketing ในธุรกิจนั้น ๆ
แบ่งกำไรบางส่วน สร้างโฆษณา เพื่อหาลูกค้าใหม่

วิธีด้านบนเป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายน้อย หรือแทบจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย แต่ถ้าคุณดำเนินการทำงานฟรีแลนซ์มาบ้างแล้ว มีรายได้และกำไร แน่นอนว่าอย่าลืมแบ่งกำไรบางส่วนมาทำงบการตลาด ในเมื่อเราเป็นฟรีแลนซ์ Digital Marketing ก็อย่าลืมใช้การตลาดดิจิทัลกับธุรกิจของตัวเองบ้าง เริ่มทำแผน Planning และเริ่มทำการโฆษณาในแพลตฟอร์มที่เหมาะสม Objective ที่คิดว่าใช่ แน่นอนว่าลูกค้าก็สามารถมาจากทางนี้ได้เหมือนกัน
การเป็นฟรีแลนซ์ Digital Marketing ไม่ง่าย จุดเริ่มต้นของการเป็นฟรีแลนซ์ก็คือการหาลูกค้า แต่การที่จะให้ลูกค้าทำการตลาดดิจิทัลกับเราไปนาน ๆ นั้นเป็นเรื่องที่ท้าทายเช่นกัน ดังนั้นทาง Digital Break Time ขอเป็นกำลังใจให้กับฟรีแลนซ์ Digital Marketing ทุกคนเติบโตไปอย่างมั่นคง
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time