Meta Verified คืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง ต้องเรียกได้ว่า Meta นั้นได้ตามรอย Twitter โดยเริ่มให้ยืนยันตัวตน หรือที่เรียกกันว่าติ๊กฟ้า โดยเก็บค่าบริการเพื่อหารายได้ตรงส่วนนี้เพิ่มเติม ก่อนที่เราจะไปสมัคร Meta Verified เรามาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นก่อน
Meta Verified คืออะไร มีประโยชน์อะไรบ้าง ราคาเท่าไร Facebook และ Instagram สมัครติ๊กฟ้าดีไหม
- ที่มาของ Meta Verified คืออะไร
- ปัจจุบันนี้ ใครสามารถสมัคร Meta Verified ได้บ้าง
- Meta Verified สมัครแล้วจะได้อะไรบ้าง มีสิทธิประโยชน์แค่ไหน
- Meta Verified สมัครแล้วช่วยเปิดการมองเห็นได้จริงไหม เพิ่ม Reach ได้จริงหรือเปล่า
- การสมัคร Meta Verified ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง แค่มีค่าใช้จ่าย ราคาเท่าไร
- วิธีการสมัคร Meta Verified ทั้งบน Facebook และ Instagram
- Meta Verified for Business สำหรับ เพจ Page ก็สมัครได้แล้ว มีให้เลือกหลายแพ็กเกจ
- วิธีสมัคร Meta Verified for Business สำหรับ เพจ
- สรุป แล้วควรจะสมัคร Meta Verified ดีไหม คุ้มหรือไม่
ที่มาของ Meta Verified คืออะไร
ที่มาของ Meta Verified นั้น แท้จริงแล้วคือการยืนยันตัวตน และมีให้ทำนานแล้วโดยเฉพาะใน Influencer ดารา คนดัง ถึงภาครวมไปภาคธุรกิจต่าง ๆ ก็สามารถสมัคร Meta Verified ได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นการสมัครแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงแต่ว่าระบบของ Meta ก็จะมีการยืนยันตัวตนจริง ด้วยเอกสารต่าง ๆ และกว่าที่จะได้เครื่องหมายติ๊กฟ้าก่อนหน้านั้น เรียกว่าค่อนข้างยากเลยทีเดียว แต่ในปัจจุบันนี้ Meta ได้เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปได้ใช้งาน Meta Verified แล้ว
ปัจจุบันนี้ ใครสามารถสมัคร Meta Verified ได้บ้าง
- บุคคลทั่วไป รวมไปถึง Creator ในไทยสามารถสมัคร Meta Verified ได้แล้ว
- แต่สำหรับธุรกิจ และ Business และเพจทั่วไป ในไทยยังไม่สามารถสมัคร Meta Verified ที่จ่ายเงินได้ ตอนนี้อยู่ใน Waitlist (อัพเดตเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2567)
Meta Verified สมัครแล้วจะได้อะไรบ้าง มีสิทธิประโยชน์แค่ไหน

อันนี้เอามาจากข้อมูลของเว็บไซต์ Meta เองเลย โดยมีประโยชน์หลัก อยู่ที่ 4 อย่างดังนี้
- ยืนยันตัวตนว่าเป็นบุคคลจริง
คุณจะได้รับเครื่องหมายถูกสีฟ้าด้านหลังชื่อ Facebook Profile และ Instagram Profile ทำให้คนอื่น ๆ รู้ว่าเป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงแน่นอน โดยจำเป็นที่จำเป็นต้องส่งรูปถ่ายเอกสารอย่างเช่น บัตรประจำตัวประชาชน เพื่อยืนยันตัวตนกับทาง Meta - ช่วยทำให้แอคเคานท์ปลอดภัยยิ่งขึ้น ด้วยรหัสการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน
การที่จะได้ Meta Verified จำเป็นที่จะต้องเปิดระบบการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (Two-factor Authentication) เช่นการส่งรหัส OTP มาที่มือถือของเรา หรือการใช้แอปยืนยันตัวตนอื่น ๆ เพื่อให้แอคเคานท์ของเราปลอดภัยยิ่งขึ้น (แต่ข้อนี้คือแอคเคานท์ปกติก็เปิดใช้งานฟังก์ชันนี้ได้เลย) - มี Support กับทาง Meta โดยตรง
เมื่อแอคเคานท์ของเราเกิดปัญหาใด ๆ หรือมีข้อสงสัย เราสามารถสอบถามกับทาง Meta ได้เลย ถ้าเรามีสถานะ Meta Verified แล้ว ก็จะสามารถติดต่อได้ง่ายขึ้น - มีสติกเกอร์พิเศษ ที่ไม่เหมือนใคร
สติ๊กเกอร์แบบพิเศษที่ไม่เหมือนใคร สำหรับสมาชิก Meta Verified - เพิ่มรูปในลิงก์ของโปรไฟล์ ทั้ง Facebook และ Instagram ได้ (อัปเดตล่าสุดของปี 2024)
สิทธิพิเศษล่าสุดคือเราสามารถเพิ่มรูปได้สำหรับลิงก์ที่แนบในโปรไฟล์ทั้ง FB และ IG ถ้าไม่ได้เป็น Meta Verified จะแนบลิงก์ได้อย่างเดียว

Meta Verified สมัครแล้วช่วยเปิดการมองเห็นได้จริงไหม เพิ่ม Reach ได้จริงหรือเปล่า
ต้องบอกเลยว่าในเว็บไซต์ของ Meta ไม่มีระบุตรงนี้ไว้แต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่สามารถช่วยการเปิดการมองเห็นได้ แต่ทว่าจะมีประโยชน์ทางอ้อม เพราะเมื่อคุณไปคอมเมนต์ในเพจหรือโพสต์อื่น โปรไฟล์ของคุณก็จะเด่นกว่าใคร หรือการถูกค้นหาบน Facebook หรือ Instagram โปรไฟล์ของคุณก็จะเห็นง่ายกว่า สะดุดตากว่าอย่างเห็นได้ชัด
การสมัคร Meta Verified ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง แค่มีค่าใช้จ่าย ราคาเท่าไร
ปัจจุบันนี้ (22 กรกฎาคม 2566) สามารถสมัครได้เฉพาะครีเอเตอร์ บุคคลทั่วไป (ยังไม่เปิดใช้กับเพจและธุรกิจ) ทั้งบน Facebook และ Instagram โดยมีราคาดังนี้
- สมัคร Meta Verified สำหรับ Facebook เฟซบุ๊ค บนแอปพลิเคชัน 330 บาท/เดือน บนเว็บ 280 บาท/เดือน
แนะนำถ้าจะสมัคร Meta Verified บน Facebook แนะนำให้ทำบนเว็บเบราเซอร์จะมีราคาที่ถูกว่า เพราะเพียงแค่ 280 บาท/เดือน เท่านั้น
- สมัคร Meta Verified สำหรับ Instagram อินสตาแกรม บนแอปพลิเคชัน 330 บาท/เดือน ยังไม่มีให้สมัครบนเว็บ
ส่วนการสมัครบน Instagram นั้นจำเป็นที่จะต้องสมัครบนแอปพลิเคชัน Instagram เท่านั้น ราคาจะอยู่ที่ 330 บาท/เดือน
- การใช้เอกสารเพื่อยืนยันตัวตน ใช้การถ่ายรูปบัตรประชาชน หรือใบขับขี่
สำหรับการใช้เอกสารให้เราใช้อย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ หรือพาสสปอร์ต ที่ทางการออกให้ โดยต้องถ่ายรูปและแนบไฟล์ส่งให้ทาง Meta ตรวจสอบ โดยจะตรวจสอบภายใน 48 ชั่วโมง
วิธีการสมัคร Meta Verified ทั้งบน Facebook และ Instagram

- เข้าไปลิงก์ที่กำหนดไว้ให้ และเลือกแพลตฟอร์มที่เราต้องการสมัครอย่าง Facebook หรือ Instagram
เข้าไปที่ลิงก์ของ Meta Verified คลิก แล้วเลือก แพลตฟอร์มที่ต้องการสมัคร
- จากนั้นจะให้เปิดใช้งานการยืนยันตัวตน 2 ขั้นตอน (Two-factor Authentication)
เช่นการกรอกเบอร์โทรแล้วรอ OTP หรือการใช้แอป Authenticator ก็ได้
- ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต หรือ PayPal หรือใช้ Meta Pay
ขั้นตอนชำระเงินก็จ่ายผ่านทางที่เราสะดวก ส่วนราคาก็ขึ้นอยู่กับช่องทาง ถ้าสมัครบนเว็บก็จะถูกกว่าเล็กน้อย
- รูปโปรไฟล์ จำเป็นที่จะต้องใช้รูปจริง และชื่อตามบัตรประชาชน หรือใบขับขี่
จะมีขั้นตอนให้เราเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ จำเป็นที่จะต้องใช้งานรูปหน้าเราจริง เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนของเรา ส่วนชื่อโปรไฟล์ของ Facebook และใน Account Center ก็ต้องตรงกับชื่อในบัตรประชาชน แต่ถ้าเป็น Username ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแต่อย่างใด (Username ก็ชื่อที่แสดงบนหน้า Feed บน IG นั่นเอง อันนั้นไม่ต้องเปลี่ยน)
- อัปโหลดรูปบัตรประชาชน ใบขับขี่ ให้ทาง Meta และรอไม่เกิน 48 ชั่วโมง รู้ผล
สุดท้ายก็แต่ถ่ายรูปบัตรประชาชน หรือใบขับขี้ ส่งไปตามขั้นตอน และรอ 48 ชั่วโมง ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คุณก็จะได้รับ Meta Verified ติ๊กฟ้าหลังชื่อเรียบร้อย
Meta Verified for Business สำหรับ เพจ Page ก็สมัครได้แล้ว มีให้เลือกหลายแพ็กเกจ

หลังจากที่รอกันมานาน Meta Verified for Business สำหรับ เพจ ก็สมัครได้แล้ว โดยแบ่งเป็น 4 แพ็กเกจ ดังนี้
- 1. แพ็กเกจพื้นฐาน Business Standard ราคา 330 บาท / เดือน
- 2. แพ็กเกจพลัส Business Plus ราคา 550 บาท / เดือน ในปีแรก จากปกติ 610 บาท / เดือน
- 3. แพ็กเกจพรีเมียม Business Premium ราคา 1,470 บาท / เดือน ในปีแรก จากปกติ 1,840 บาท / เดือน
- 3. แพ็กเกจแม็กซ์ Business Max ราคา 4,300 บาท / เดือน ในปีแรก จากปกติ 6,150 บาท / เดือน
ส่วนเรื่องของรายละเอียดความแตกต่าง ก็จะเป็น สามารถเพิ่มลิงก์ใน Reels ได้ โชว์ที่อยู่ของแบรนด์ได้มากขึ้น โชว์โปรไฟล์อื่นได้มากขึ้น หรือแม้กระทั่งเพิ่ม Meta Verified ให้กับพนักงานที่เลือกได้ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
วิธีสมัคร Meta Verified for Business สำหรับ เพจ

- วิธีสมัคร ก็เข้าไปที่แอพ Facebook ของ Profile ปกติที่เราเป็นแอดมินอยู่
- เลือกที่เมนูขวาล่างสุดรูปโปรไฟล์เรา
- เลื่อนลงมาที่ Meta Verified
- เลือกเพจที่เราต้องการสมัคร
- เลือกแพ็คเกตที่ต้องการ แล้วกดจ่ายเงินได้เลย
สรุป แล้วควรจะสมัคร Meta Verified ดีไหม คุ้มหรือไม่
Meta Verified มีราคาอยู่ที่ 280 บาท/เดือน (330 บาท/เดือน) ถ้าคุณไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน และต้องการสิทธิประโยชน์ตามที่กล่าวมา เป็น KOL, Influencer หรือ Creator และต้องการยืนยันตัวตนก็สมัครไว้ก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าคุณไม่ได้อยากได้ประโยชน์ตรงนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องสมัครแต่อย่างใด ไม่ต้องสียค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ด้วย
Facebook และ Instagram แยกกัน นั่นหมายความว่าคุณต้องจ่ายเงิน 2 ครั้ง เพื่อแยก Meta Verified ในแต่ละแอป
นอกเหนือจากเรื่องเสียเงิน จะเป็นการเปลี่ยนรูปโปรไฟล์ใหม่ จำเป็นที่จะต้องยื่นหลักฐานใหม่อีกรอบ ลำบากก็ตรงนี้
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time