จ้าง Influencer เพื่อการทำ Marketing คิดว่าเป็นหนทางที่คุ้มค่าหรือไม่ แน่นอนว่าคำถามนี้เป็นคำถามที่ใครหลายคน ต่างสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการเอง หรือจะเป็นทีมการตลาดเองก็ตาม เพราะเนื่องจากการทำ Influencer Marketing นั้นมีค่าใช้จ่ายที่อยู่ในระดับที่เรียกว่าสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Influencer ที่มีผู้ติดตามมาก และยิ่งเป็นการที่ Influencer ทำเกี่ยวกับโปรดักชันเอง ราคาก็ยิ่งสูงลิบลิ่วไปอีก และอย่าลืมว่าการทำแคมเปญการตลาดแต่ละครั้ง การจ้าง Influencer เพียงรายเดียวอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ การจ้างจำนวนคนที่มากขึ้น นั่นหมายถึงร่ายจ่ายมหาศาลเลยทีเดียว ทาง Digital Break Time จึงมีข้อคิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่จะเริ่มพิจารณาจ้าง Influencer ว่าต้องดูอะไรบ้าง
อย่าดูว่าใครคือ Influencer แต่ให้ดูว่าใครคือคนติดตาม Influencer
ท่องจำไว้ให้ขึ้นใจเลยก่อนเลยว่า Influencer ไม่ใช่พรีเซ็นเตอร์ ถึงแม้จะมีเกณฑ์คัดเลือกอยู่บ้าง แต่อยากให้เน้นเรื่องกลุ่มเป้าหมายที่ติดตาม Influencer ว่าใช่กลุ่มที่เราต้องการจะสื่อสารไปหรือไม่ ถ้ากลุ่มเป้าหมายใช่ บอกเลยว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แต่กลับกันแล้ว ถ้ากลุ่มเป้าหมายไม่ใช่ตั้งแต่แรก นั่นเหมือนกับว่าเราตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเปล่า ๆ
ส่วนเรื่องของความสามารถของแต่ละ Influencer นั้น ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับเงินที่เราจ่ายไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมว่าทำยากหรือไม่ ซึ่งแต่ละคนมีความถนัดที่ไม่เหมือนกัน ทางเราก็เลือกในสิ่งที่เหมาะที่สุด
Influencer คือผู้ที่อยู่ระหว่างดาราและคนทั่วไป
ความเป็นจริงแล้ว Influencer คือผู้ที่มีอิทธิพลต่อความคิดและ Social Trust ค่อนข้างมาก นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เหล่าแบรนด์สินค้าและบริการทั้งหลายนิยมใช้งาน Influencer นั่นเอง

ถ้าให้พิจารณาถึงสามเหลี่ยมคว่ำ บนสุดคือระดับดาราหรือช่องทีวี (ขอเรียกว่า Media Elite) ที่กระจายเข้าถึงผู้คนได้มาก แต่อัตราการโน้มน้าว หรือการมีอิทธิพลทางความคิดอยู่ในระดับที่ไม่มากนัก ส่วนในระดับกลางคือ Influencer ที่อัตราการเข้าถึงต่ำกว่าระดับดาราแน่นอน แต่ก็มีอิทธิพลทางด้านความคิด และชักจูงได้สูงกว่า (ซึ่ง Influencer สามารถแบ่งได้แยกย่อยไปอีกทั้ง Macro และ Micro)
สุดท้ายคือ Brand Advocate หรือ User ทั่วไป อย่างเรา ๆ โดยเฉพาะเพื่อน แน่นอนว่าเข้าถึงผู้คนได้น้อยมาก สุด ๆ ก็ได้เพียงแค่คนที่อยู่รอบตัวเท่านั้น แต่มีอิทธิพลต่อความคิดและชักจูงสูงมาก ยิ่งผู้รับสารเป็นเพื่อนสนิทมาบอกกับเราว่า “สินค้าตัวนี้ใช้ดีมากเลยอะ แกต้องลองใช้ดูนะ” มีหรือที่เราจะไม่ลองใช้ก่อนเพราะความเชื่อใจเพื่อน ใช่ไหมล่ะ?
เก็บคอนเน็คชันนี้ไว้ให้ดี ถ้าผลลัพธ์ดี คราวหน้าอาจมีการจ้างอีก
เมื่อเราจ้างงาน Influencer เรียบร้อยดีแล้ว ทำงานตามบรีฟทุกอย่าง งานที่ออกมาลงตามเวลา ไม่มีบิดพลิ้ว แนะนำว่าให้เก็บคอนเน็คชันนี้ไว้ให้ดี อย่าปล่อยให้หลุดมือไปเชียว เพราะในยุคที่มี Influencer ให้เลือกมากมาย การที่เราจะจ้าง Influencer สักราย ก็ต้องการคนที่ทำงานดี รู้ใจ และตรงเวลา มากกว่าคนที่ทำงานได้ไม่ตามบรีฟ
เพราะสิ่งที่เหนื่อยและยากลำบากที่สุดของการจ้าง Influencer คือการติดต่อ การบรีฟงาน ถ้าทำงานแล้วรู้ใจกันว่าต้องการแบบไหน เรียกว่าเป็นสวรรค์ชัด ๆ ของการทำงานเลยทีเดียว ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่ทำงานในฝั่งของแบรนด์หรือฝั่งของเอเจนซีเอง ก็อยากทำงานที่ตรงกับที่เราบรีฟไปใช่ไหมล่ะ?
จ้าง Influencer วัดยังไงว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม
ถึงหัวใจสำคัญแล้วว่า จ้าง Influencer วัดผลยังไงให้รู้ว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม ต้องตีความก่อนว่าคำว่าคุ้มของแต่ละคนเป็นแบบไหน คุ้มในแง่ของการได้ Reach, Impression หรือ Engagement มาก ๆ นั่นหมายความว่าจุดประสงค์ของคุณคือการจ้าง Influencer เพื่อทำ Brand Awareness การวัดแบบเน้น Brand Awareness ให้ตระหนักไว้เสมอว่า ควรวัดเป็น Impression, Reach หรือ Engagement อย่าเพิ่งนึกไปถึงยอดขาย
แต่ถ้าคุณต้องการเน้นว่า Influencer สามารถสร้างยอดขายให้คุณได้จริงไหม คุ้มค่ากับการลงทุนหรือเปล่า แน่นอนว่าวัดได้สิ (สำหรับ Digital Marketing) ทำได้ถึงสองวิธีด้วยกัน คือ
- ทำคูปองส่วนลด หรือโค้ดโปรโมชันต่าง
ๆ
อันนี้สำหรับสิน้คาที่ขายหน้าร้าน หรือขายของบนออนไลน์โดยตรง โดยให้รหัสส่วนลดหรือโค้ดโปรโมชันเมื่อมาจาก Influencer ที่เราจ้างมา ซึ่งจะทำให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า Influencer สามารถก่อให้เกิดยอดขายได้หรือไม่ แต่ถ้าเราจ้าง Influencer มากกว่า 1 รายในระยะเวลาที่ไล่เลี่ยกัน แนะนำว่า ให้แบ่งโค้ดโปรโมชันหรือส่วนลด ไม่ให้ตรงกัน เพื่อให้วัดเป็นรายคนได้เลยว่า Influencer เจ้าไหนก่อให้เกิดยอดขายสูงสุด เมื่อเทียบกับจำนวนเงินที่เราจ้างไป
- ใส่ UTM สำหรับการลิงก์เข้าเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชัน
สำหรับการทำแคมเปญที่ไม่มีส่วนลด หรือโปรโมชันใด ๆ ก็สามารถใช้วิธีนี้แทนได้ เมื่อใส่ลิงก์เข้ามาในเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชันของเราเอง อย่าลืมทำ UTM เพื่อบอกที่มาของแต่ละ Influencer ได้เช่นกัน วิธีนี้ไม่จำเป็นต้องมีโปรโมชันหรือส่วนลดใด ๆ เพียงแค่มีลิงก์ที่ผ่านการทำ UTM มาแล้ว ก็จะทำให้รู้ว่ามีคนเข้าเว็บไซต์ของเรา และสั่งซื้อสินค้าหรือบริการผ่าน Influencer เจ้านี้เป็นจำนวนเท่าไรนั่นเอง (สำหรับใครที่งงว่า UTM คืออะไร ไว้คราวหน้าจะมาเขียนอีกครั้งหนึ่ง ขอติดไว้ก่อน เอาเป็นว่า UTM คือการบอกแหล่งที่มาของลิงก์ ว่ามาจากช่องทางไหน)
พอได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงจะคลายสงสัยได้ว่าการจ้าง Influencer คุ้มหรือไม่คุ้ม จะวัดได้ยังไง เห็นผลได้จริงไหม แน่นอนว่าคำตอบคือวัดได้ ขึ้นอยู่กับเราว่าคุ้มของเราคืออะไรกันแน่ อยากให้คนที่ทำแคมเปญได้ลองวัดกันดูว่าเป็นอย่างไร คุ้มหรือไม่คุ้มแค่ไหนมาบอกเล่าให้ฟังกันได้
ที่มาบางส่วนจาก [1]
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time