เข้าร่วมโปร E-Commerce Platform โดยปกติแล้ว การเข้าร่วมโปรโมชั่นครั้งใหญ่ประจำเดือน ซึ่งเป็นโปรวันที่และเดือนเลขเดียวกัน เช่นโปร 11.11 12.12 ฯลฯ นั้น ร้านค้าปกติแทบจะไม่มีโอกาสกดเข้าร่วมได้ทัน อาจไม่สามารถเข้าร่วมได้ หรือ เพราะว่าเหล่า E-Commerce Platform มักจะจำกัดจำนวนของผู้ที่เข้าร่วมโปรโมชันนี้ โดยสงวนสิทธิ์ให้กับเหล่าร้านค้าที่ยืนยันตัวตนแล้ว เช่น ร้านค้าแนะนำ ร้านค้าจำพวกที่ลงท้ายด้วย Mall ทั้งหลาย หรือร้านค้าที่สามารถขายได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเมื่อเข้าร่วมโปรเหล่านี้แล้ว ร้านค้าที่เข้าร่วมจะได้รับการโปรโมต ให้เห็นสินค้ามากขึ้นในช่วงระยะเวลาโปรโมชั่น และทำให้เกิดยอดขายมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งเหล่าร้านค้าเล็ก ๆ จะเข้าร่วมโปรโมชั่นในลักษณะนี้ได้ยาก ถึงแม้จะพลาดโอกาสนี้ไป แต่ทาง Digital Break Time จะช่วยให้เหมือนเข้าร่วมโปรได้
3 วิธีแก้ปัญหาเมื่อ เข้าร่วมโปร E-Commerce ไม่ทัน
เข้าร่วมโปร แบบไม่ร่วมโปร โดยลดจากระบบตามปกติ
นี่ชื่อเพลงใหม่ของ Getsunova หรือเปล่า บอกเลยว่าไม่ใช่ หลักการง่าย ๆ คือการใช้โปรโมชั่นลดราคาแบบปกติ ที่เราสามารถทำได้ด้วยตัวเองในเวลาไหนก็ได้ ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยกำหนดวันที่เราต้องการ แนะนำว่าเป็นวันเดียวกับที่มีโปรโมชัน หรือถ้าต้องการเน้นเป็นการโปรระยะยาวก็ทำได้ เช่นถ้าเป็นโปร 12.12 อาจจะเลือกลดวันเดียวคือวันที่ 12 เดือนธันวาคม หรือถ้าต้องการให้โปรโมชั่นยาวนานขึ้น ก็เลือกระยะเวลาให้นานขึ้นได้อีก เช่น 10-15 ธันวาคมแทน เพราะว่ามีหลายแพลตฟอร์ม ที่มักจะจัดโปรอย่างต่อเนื่องเช่น After Party หลังจากวันที่มีโปรเป็นหลักด้วย
ทำคอนเทนต์โปรโมชันว่าเราเข้าร่วมโปร
แน่นอนว่าเมื่อเราทำโปรเรียบร้อย จำเป็นอย่างมาก ที่จะต้องทำคอนเทนต์เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าเรามีโปรโมชั่น ซึ่งเราสามารถดีไซน์อาร์ทเวิร์คให้ออกมารูปแบบที่สามารถดูออกได้เลยว่า เรามีโปรโมชั่นบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนี้นะ เพราะเมื่อลูกค้าดูออก และสนใจ ก็จะตามไปสั่งซื้อยังอีคอมเมิร์ซนั้น ๆ หรือสามารถ Add to Cart ไว้ก่อน และเมื่อถึงวันเวลาโปรโมชั่น ก็สามารถซื้อได้ทันที ซึ่งการทำคอนเทนต์เหล่านี้ จำเป็นอย่างมากที่จะต้องวางแผนไว้ล่วงหน้า ว่าเราจะทำกี่คอนเทนต์ หรือมีกี่โปรโมชัน และต้องกำหนดวันเวลาลงที่จะต้องคิดให้ดี ส่วนมากมักจะทำคอนเทนต์ไว้ ก่อนที่จะเกิดโปรโมชั่นขึ้น เพื่อให้ลูกค้าได้เตรียมตัว และสามารถกด Add to Cart ไว้ก่อนล่วงหน้าได้นั่นเอง
ลงทุนโฆษณาในช่วงระยะเวลาของโปรโมชั่น
สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงโฆษณาเลย หรือคนที่ลงโฆษณาแบบ Always on เป็นประจำอยู่แล้ว การโฆษณาออนไลน์ในช่วงเวลาโปรโมชั่นนับว่ามีผลเป็นอย่างมาก ซึ่งเราสามารถลงได้ทุกแพลตฟอร์ม โดยแพลตฟอร์มที่น่าสนใจเอง ก็มีทั้งของในเครือ Facebook เองที่สามารถใช้แคตาล็อก โดยดึงสินค้าจากอีคอมเมิร์ซแพลตฟอร์มชื่อดังในไทยอย่าง Lazada, Shopee หรือ JD Central ที่เรียกว่า CPAS ซึ่งดูได้ลึกถึงระดับ Purchase หรือของ Google Ads เองในส่วนของ Shopping Ads ที่สามารถดึงแคตตาล็อกมาได้ด้วยเช่นเดียวกัน หรือว่าโฆษณาโดยตรงของกลุ่ม E-Commerce Platform เอง ก็จะช่วยให้คนเห็นสินค้าเรามากขึ้น เพิ่มโอกาสในการสั่งซื้อมากขึ้น
ซึ่งการโฆษณาในช่วงเวลาของโปรโมชั่น มักจะมีราคาที่สูงกว่าปกติ เมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ในช่วงเวลาที่ไม่ใช่โปรโมชั่น เนื่องจากทุกคนก็จะคิดคล้ายกันคือการอัดเงินในช่วงนี้ เพื่อให้ลูกค้าซื้อสินค้าของตัวเอง เมื่อเกิดการโฆษณาจำนวนมาก ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน นั่นหมายความว่า จำนวน Slot มีเท่าเดิม แต่จำนวนโฆษณามีมากขึ้น ก็จะเกิดการแข่งขันกัน ใครที่ Bidding มากกว่าโฆษณาก็จะเกิดการโชว์ไป ทำให้การ Bidding ในช่วงเวลานั้นมีราคาสูงนั่นเอง
ถึงแม้ว่าเราจะพลาดเข้าร่วมโปรใหญ่ แต่เราก็สามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ซึ่งในอนาคตต่อให้เราไม่ได้เข้าร่วมโปรโมชั่นเอง แต่ก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้ได้ รวมไปถึงการใช้กับบนเว็บไซต์ของตัวเองได้ด้วย
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time