Google Search Console Insight คืออะไร คนที่ดูแลเว็บไซต์หรือทำคอนเทนต์บนเว็บไซต์ ทำ SEO อาจรู้จัก Google Search Console กันอยู่บ้างแล้ว แต่สำหรับ Google Search Console Insight เป็นฟีเจอร์ใหม่ล่าสุดจาก Google เพิ่งเปิดใช้ในรูปแบบ Beta ในช่วงไม่นานที่ผ่านมา
Google Search Console Insight คือ หน้ารวมผลลัพธ์ของ Google Search Console แบบฉบับย่อ เรียงลพดับให้ดูได้อย่างง่ายขึ้น ง่ายต่อความเข้าใจ มือใหม่ก็สามารถใช้งานได้ และเรายังสามารถนำข้อมูลต่าง ๆ ใน Google Search Console Insight มาประมวลผล เพื่อนำไปวางแผนเพื่อจัดทำคอนเทนต์ได้ต่อไปอีกด้วย
Google Search Console Insight คืออะไร มีฟีเจอร์อะไรซ่อนอยู่บ้าง
ฟีเจอร์ของ Google Search Console Insight นั้น จะเป็นรูปแบบที่สรุปมาเรียบร้อยแล้ว มาสามารถดูได้ง่ายแม้กระทั่งมือใหม่ และสามารถใช้งานได้ทันทีสำหรับผู้ที่ใช้งาน Google Search Console อยู่แล้ว โดยไปที่เว็บไซต์ https://search.google.com/search-console/insights จากนั้นก็ล็อกอินด้วยบัญชีของ Google Search Console เพื่อใช้งานได้ในทันที
เราเลยจะมาชำแหละว่า Google Search Console Insight คืออะไร มีฟีเจอร์อะไรบ้าง ซึ่งเว็บไซต์ที่จะเป็นหนูทดลองของเราต่อไปนี้ คือเว็บไซต์ในเครือของ Digital Break Time นั่นคือ คือเว็บไซต์ rabbitor.net เป็นเว็บไซต์รีวิว บล็อกส่วนตัวของผู้เขียน เพิ่งเปิดตัวมาไม่นานนี้ เลยจับมาใช้งานกับ Google Search Console Insight ด้วยเลย ใครที่สนใจเว็บไซต์รีวิว สามารถติดตามได้ทั้ง Facebook และ Instagram (ขอขายของหน่อยนะ)
Site Overview หรือภาพรวมของเว็บไซต์
โดยระยะเวลา 28 วันที่ผ่านมา จะมีรายละเอียดในภาพรวมบอกว่ามีจำนวน Page View อยู่ที่เท่าไร และ Avg. Page View Duration หรือค่าเฉลี่ยระยะเวลาต่อการเปิดหน้าเว็บไซต์ เป็นเวลากี่นาที มีบอกเป็นกราฟด้วย ทำให้เรารู้เทรนด์ได้ว่าวันไหนมี Page View ที่เท่าไรนั่นเอง
Your New Content คอนเทนต์ใหม่ของเราเป็นอย่างไร
ในระยะเวลา 28 วันที่ผ่านมาแน่นอนว่าก็ต้องมีคอนเทนต์ใหม่ที่เราเผยแพร่บนเว็บไซต์ ก็จะมีรวมให้ดูว่าคอนเทนต์ใหม่ของเรามีอะไร มี Page View เท่าไร และมีระยะเวลาที่อยู่ในหน้านั้นกี่นาที และก็จะมีเลเบลติดไว้ด้วยว่าคอนเทนต์นั้นมีอะไรเด่นเมื่อดูจากสถิติ เช่นในรูป เว็บไซต์ rabbitor.net มีคอนเทนต์ใหม่จำนวน 2 คอนเทนต์ด้วยกัน โดยทั้ง 2 คอนเทนต์นั้นมีเลเบลติดไว้ว่าใช้ระยะเวลานานพอสมควร ราวห้านาทีนิด ๆ (แหงล่ะ เพราะว่าทั้งสองคอนเทนต์นั้นใช้พลังในการเขียนพอสมควร และมีความยาวมาก เกิน 1,500 คำต่อบทความเลยทีเดียว) ซึ่งเราสามารถกดไปที่คอนเทนต์ที่ต้องการเพื่อดูรายละเอียดข้างในได้อีก
Your Most Popular Content คอนเทนต์ยอดนิยมของเราคือคอนเทนต์ไหน
ต่อมาก็จะมีการจัดเรียงความนิยมของคอนเทนต์ โดยจะวัดจากยอด Page View เป็นหลัก ซึ่งจะเรียงลำดับไปเรื่อย ๆ ภายใน 28 วันที่ผ่านมา ซึ่งในรูปจะเป็นรีวิวเคสโทรศัพท์มือถือของ Casetify นั่นเอง มีการใช้เลเบลเพื่อบอกด้วยว่าคอนเทนต์ของฮิตขนาดไหน ซึ่งเรากดดูหน้าต่อไปได้เลย โดยประโยชน์ของคอนเทนต์ยอดนิยมทำให้เราได้รู้ว่าถ้าเราผลิตคอนเทนต์ที่มีความใกล้เคียง หรือนำไปปรับใช้กับคอนเทนต์อื่น ก็จะทำให้ Page View มากขึ้นด้วย
How People Find You คนอ่านมาจากที่ไหนกันบ้าง
ที่มาในที่นี้คือ Source นั่นเอง คนเจอและเข้ามาอ่านเว็บไซต์เราจากไหนบ้าง จะมีการจัดเรียง Top Traffic แบ่งออกเป็นหมวดหมู่
- Organic Search
เป็นหมวดหมู่ที่รวมมากจากการค้นหาจาก Search Engine ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Google Search, Bing หรือเครื่องมือการค้นหาอื่น ๆ - Social
อันนี้ก็ตรงตามชื่อเลย มาจากอะไรก็ตามที่เป็น Social ทั้ง Facebook, Twitter, Instagram หรือ YouTube - Direct
เป็นที่มาจากการพิมพ์ URL ของเราโดยตรงมาที่เว็บไซต์ของเรา - Paid Search
ที่มาของหัวข้อนี้คือ การจ่ายเงินเพื่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มการค้นหาของ Search Engine นั่นเอง - Referral
ที่มาจากเว็บไซต์อื่น ๆ ที่อ้างอิง หรือนำลิงก์ของเราไปเผยแพร่เว็บไซต์อื่น รวมทั้งบล็อกและเว็บบอร์ดต่าง ๆ
How visitors find your site on Google คำไหนที่คนค้นหา แล้วมาที่เว็บไซต์เรา
เราสามารถดูได้ว่าในรอบ 28 วันที่ผ่านมานั้น คำไหนที่คนค้นหาแล้วเข้าเว็บไซต์เรามากที่สุด มีการเรียงลำดับให้เรียบร้อย พร้อมทั้งมีอันดับโดยเฉลี่ยของคำที่ค้นหาเรา แล้วเว็บไซต์ของเราแสดงโชว์ที่ลำดับที่เท่าไรด้วย ถ้าเป็นลำดับเลขตัวเดียว นั่นหมายความว่าเราติดหน้าแรกเลย
Referring links from other websites เว็บไซต์ไหนบ้างที่อ้างอิงเว็บไซต์ของเรา
การที่ดูเว็บไซต์ไหนที่อ้างอิงมายังเว็บไซต์ของเราก็ดูได้อย่างง่าย มีการจัดเรียงแบบที่ได้จำนวน Traffic สูงสุด หรือปรับเอาเป็นเว็บไซต์ไหนที่มีการอ้างอิงล่าสุดก็ทำได้เช่นกัน
Social Media โซเชียลมีเดียไหนกันนะ ที่ช่วยพามายังเว็บ
อีกหนึ่งที่จะช่วยให้เว็บไซต์เติบโตและมีทราฟิกเพิ่มขึ้น นั่นคือช่องทาง Social Media ซึ่ง Google Search Console Insight จะช่วงจัดแบ่งช่องทาง Social Media ให้เลยว่ามาจากอะไรบ้าง อย่างในรูปมาจากสองช่องทางด้วยกันนั่นคือ Facebook และ Instagram Stories
โดยสรุปแล้ว Google Search Console Insight ยังเป็นรูปแบบ Beta อยู่ เหมาะสำหรับมือใหม่ และผู้ที่ต้องการดูภาพรวมของเว็บไซต์ที่สรุปง่าย ๆ ภายในหน้าเดียว ไม่ซับซ้อนมากนัก แต่ก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง เพราะถ้าต้องการดูเชิงลึกกว่านี้ Google Search Console เต็มรูปแบบกับ Google Analytics น่าจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time