เพิ่ม Backlinks สำหรับ SEO อย่างไรได้บ้าง สำหรับการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ทำได้หลายวิธี โดย Backlinks เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วย SEO ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ส่งผลให้คอนเทนต์ของเราติดหน้าแรก และมีลำดับที่สูงขึ้น
ซึ่งวิธีการเพิ่ม Backlinks มีได้หลายวิธี อันนี้จากการประสบการณ์จริง จากการที่ทำให้เว็บไซต์ Digital Break Time เอง และเว็บไซต์ของลูกค้า ยกตัวอย่างเมื่อได้รับ Backlinks ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง รวมไปถึงการเน้นจำนวน Backlinks ให้ได้เยอะ ๆ หรือเน้นคุณภาพ น้อย ๆ แต่ได้จากโดเมนที่ดีไปเลยดีกว่ากัน
เพิ่ม Backlinks สำหรับ SEO อย่างไรได้บ้าง มีกี่วิธี เน้นจำนวนหรือคุณภาพดีกว่ากัน
1. ทำคอนเทนต์ที่มีคุณภาพเพื่อ เพิ่ม Backlinks
เป็นวิธีแรกที่เรายังยืนยัน และเป็นแนวทางที่ Digital Break Time ใช้งานจริง เพราะการทำคอนเทนต์คุณภาพ แบบมีรายละเอียด ข้อมูลบางอย่างหาได้ยาก แต่เรามี หรือเรียบเรียงอ่านได้ง่าย อธิบายให้เรื่องที่เข้าใจยากง่ายขึ้น ก็ต้องไม่ Copy หรือลอกเลียนแบบใครมา มีความเป็น Original ต้นฉบับ
ส่วนเรื่องของการใช้ AI เขียนให้ ทาง Google ไม่ได้แบนหรือห้ามให้ AI เขียน ซึ่ง Google มุ่งเน้นถึงคุณภาพของคอนเทนต์ ไม่ว่าจะใช้ AI เขียนหรือคนเขียนก็ตาม ซึ่งในความเป็นจริง การที่จะมุ่งเน้นคุณภาพแน่นอนว่าต่อให้ AI เขียนแต่ถ้ามีคนคอยเพิ่มเติม ตรวจสอบ ทำให้คอนเทนต์มีคุณภาพมากขึ้น ยังคงมีความเป็นต้นฉบับ ดังนั้นยังถือว่าเป็นคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ (ส่วนตัวก็ใช้ AI เหมือนกันในการทำคอนเทนต์ ส่วนมากเป็นธีมเรื่องที่เราควรจะเขียน ส่วนรายละเอียดจะเขียนเองทั้งหมด)
เมื่อมีคอนเทนต์คุณภาพ ก็จะช่วยให้เว็บไซต์เรามีการเห็นมากขึ้น ค้นหาก็สามารถเจอเราติดหน้าแรกได้ง่าย ซึ่งคนที่ทำคอนเทนต์อื่น ๆ ก็มักจะหาข้อมูล มีโอกาสที่สูงมากที่จะเจอคอนเทนต์ของเรา และนำคอนเทนต์เราไปอ้างอิง โดยวางลิงก์อ้างอิงพร้อมทำลิงก์แบบ Dofollow ไว้ให้ด้วย ซึ่งทาง Digital Break Time ยึดถือทางที้มาโดยตลอด ก็มีหลายเว็บไซต์ที่อ้างอิง และทำลิงก์ Dofollow กลับมาให้ ก็ดีใจมาก ๆ พร้อมได้ค่า Domain Rating สูงขึ้นก็จากวิธีการนี้เป็นหลัก
แต่วิธีนี้มีข้อเสียคือ การหวังพึ่งให้หลายเว็บอ้างอิงเรา และใส่ลิงก์ Dofollow กลับมาทำได้ยากมาก หลายเว็บอ้างอิงแต่ไม่ใส่ลิงก์ให้ บางทีใส่ลิงก์ผิดไม่ครบ ก็ทำให้การเพิ่มจำนวนลิงก์ด้วยวิธีนี้ขาดความแน่นอน ไม่สูงมาก และใช้เวลานานกว่าเว็บเราจะเริ่มเป็นที่รู้จักและกว่าจะเริ่มมีคนอ้างอิงและ เพิ่ม Backlinks ให้
2. เพิ่ม Backlinks ด้วยการซื้อเลยจ้า

ปัจจุบันนี้เราสามารถซื้อ Backlinks โดยออกได้เป็น 2 แบบใหญ่ ๆ
2.1 ซื้อบริการที่เป็น Backlinks โดยตรง
มีบริการที่ซื้อขาย Backlinks หลายแบบ ทั้งเป็นการจ่ายครั้งเดียว และเป็นจ่ายรายเดือน เพื่อให้รักษาจำนวน Backlinks เอาไว้ ซึ่งบริการซื้อ Backlinks แบบนี้มีมากมายหลายแบบ หลายเว็บไซต์ เลือกจำนวนได้ ขึ้นอยู่กับราคาด้วย
แต่บอกเอาไว้ก่อนว่าทาง Google นั้นไม่ได้แนะนำให้ซื้อ Backlinks แบบนี้โดยตรง เพราะถ้าทาง Google รู้ว่าเว็บไซต์ของเรามีการซื้อ Backlinks เพิ่มจำนวนสูงจนผิดปกติ Google อาจจะทำการลดการมองเห็นของเว็บไซต์เราได้ ซึ่งทาง Digital Break Time ไม่แนะนำแบบนี้เช่นกัน ส่วนตัวเชียร์การซื้อแบบ Advertorial มากกว่า
2.2 ซื้อ Advertorials หรือโฆษณาแบบบทความในเว็บไซต์
การซื้อ Advertorials อาจดูเป็นวิธีที่ดูเก่า แต่ยังเก๋าอยู่ ในการ เพิ่ม Backlinks ซึ่งวิธีนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างหลากหลายอยู่เหมือนกันขึ้นอยู่กับว่าจำนวนเว็บไซต์ที่จะลง การจ้างให้ทางเว็บไซต์เขียนให้ ราคาก็จะพุ่งสูงไปอีก และถ้าเป็นเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงมาก ดังมาก ราคาก็จะสูงเป็นเงาตามตัว ซึ่งราคาจะถูกหรือแพง ก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวแปรที่กล่าวมาเบื้องต้น
วิธีนี้จำเป็นมากที่จะต้องเลือกเว็บไซต์ให้ดี ที่มี DR (Domain Rating), DA (Domain Authority) สูง มีความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งมีทราฟิกจำนวนมาก และการเขียนคอนเทนต์ให้ดูน่าสนใจ และอย่าลืมว่าจำเป็นที่จะต้องทำลิงก์แบบ Dofollow ในคอนเทนต์ด้วย เพราะถ้าปราศจากหลักการและคอนเทนต์ที่ลงในเว็บไซต์ ก็เท่ากับว่าการจ้างลง Advertorial สูญเปล่า
อย่างที่กล่าวไปวิธีนี้มีข้อจำกัดมาก ๆ นั่นคือจำนวนเงิน เพราะถ้าเงินเรามีไม่มาก มีจำนวนจำกัด ก็จะได้ลิงก์น้อย เว็บไซต์ที่มี DA, DR น้อยตาม อีกทั้งยังต้องมีการติดต่อประสานงานเป็นระยะ ๆ เพื่อลงคอนเทนต์บทความในเว็บไซต์ด้วย
3. เขียนคอนเทนต์ในบล็อกอื่นให้ฟรี (Guest Post)
ใครบ้างล่ะที่ไม่ชอบของฟรี อีกวิธีหนึ่งที่เสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก คือการเขียนคอนเทนต์บทความในรูปแบบ Guest Post คือการที่เราเขียนคอนเทนต์นั่นแหละ เพียงแต่ว่าไม่ได้เผยแพร่ในเว็บไซต์ของเรา แต่เป็นเว็บไซต์ของบุคคลอื่น ซึ่งความยากของการทำ Guest Post คือหลายคนมักจะไม่ได้รับการตอบรับมากนัก หรือหลายเว็บไซต์ก็เพิกเฉยรวมไปถึงขั้นตอนในการทำคอนเทนต์ เพราะการทำคอนเทนต์ให้เข้ากับเว็บไซต์อื่น จำเป็นที่จะต้องมีรายละเอียดที่แตกต่างออกไป ไม่เหมือนกันการเขียนคอนเทนต์ในเว็บไซต์ของเราเองด้วย แต่วิธีนี้ก็บอกเลยว่าใช้เงินน้อยมาก คุ้มค่าแก่การลอง
4. ทำคอนเทนต์แบบ Collab กับครีเอเตอร์ในเว็บอื่น
วิธีนี้จะดีก็ต่อเมื่อเรามีคอนเน็คชันกับเจ้าของเว็บไซต์อื่น ๆ ให้ทำคอนเทนต์แลกกัน หรือการทำคอนเทนต์แบบ Collab ซึ่งก็มีข้อดีทั้งสองฝ่าย นั่นคือทั้งเราและอีกฝ่ายก็ย่อมเสมือนแลกลิงก์กัน เป็นการเพิ่ม DR, DA ที่มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการเพิ่มฐานจำนวนของผู้อ่านหรือผู้ติดตามให้มากขึ้น เป็นการขยายขอบเขตของผู้ติดตามออกไป อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มความสดใหม่ของคอนเทนต์อีกด้วย
เพิ่ม Backlinks จำนวนหรือคุณภาพดีกว่ากัน แบบไหนสำคัญกว่า

อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าคุณภาพเหนือกว่าด้านจำนวนนิด ๆ เพราะถ้า เพิ่ม Backlinks มีจำนวนมาก แต่มาจากเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ Google อาจจะมองว่าเป็นสแปม ก็ได้ ถ้าจะให้ดีคือเน้นที่คุณภาพมากกว่าจำนวนจะดีกว่า หรือจะให้ดีที่สุดคือ คุณภาพสูง และมีจำนวนลิงก์ที่มาก (จนไม่ดูผิดปกติ) เรียกว่าเป็นการ เพิ่ม Backlinks ในอุดมคติเลยทีเดียว
ซึ่งอันนี้เป็นการแชร์จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานจริง เว็บไซต์ Digital Break Time เองต่างก็มี Backlinks อยู่เรื่อย ๆ ซึ่งที่ผ่านมาแล้วทำให้สรุปได้ว่าคุณภาพดีกว่าเน้นจำนวนนั่นคือ ได้รับลิงก์มาจากเว็บไซต์ Lazada.co.th เป็นลิงก์แบบ Dofollow (ซึ่งตกใจมาก เพราะใครที่ขายของบน Lazada จะรู้ดีว่า เว็บแพลตฟอร์ม eCommerce จะไม่ให้ลงช่องทางติดต่ออื่น ๆ เช่นเบอร์โทร เว็บไซต์ส่วนตัว LINE ฯลฯ)
โดยที่มาจาก บล็อกของ Lazada เอง อ้างอิงมายังคอนเทนต์บทความหนึ่งของเว็บไซต์ Digital Break Time โดยเพิ่มมา 1 ลิงก์เท่านั้น ซึ่งทำให้ค่า Domain Rating ของเว็บไซต์ Digital Break Time พุ่งขึ้นทันที จาก 3 เป็น 22 ภายในวันเดียว
จากประสบการณ์นี้ทำให้เชื่อได้เลยว่า แค่ลิงก์ Dofollow เพียงลิงก์เดียว มากจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ สามารถยกระดับค่า Domain Rating ได้สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว ใครที่มีประสบการณ์การเพิ่ม Backlinks วิธีไหน ได้ผลลัพธ์อย่างไรบ้างมาแชร์ให้เราฟังได้
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time