KPI ของ Content Marketing มีอะไรบ้าง? ควรใช้ตัวชี้วัดไหนมาวัดผลคอนเทนต์? ถ้าหากคุณเป็นคนทำคอนเทนต์หรือนักการตลาด “การวัดผล” เป็นสิ่งที่จะมองข้ามไปไม่ได้เด็ดขาด อย่างที่รู้กันว่าในยุคนี้ถ้าอยากสร้างแบรนด์ให้ปัง เราก็ต้องทำคอนเทนต์ดี ๆ ออกมาดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย แต่ใช่ว่าคอนเทนต์ที่เราโพสต์ลงไปในครั้งแรกจะประสบความสำเร็จหรือสร้างผลลัพธ์ตามที่ต้องการได้เลย เรายังต้องคอยปรับปรุง พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นถ้าเราไม่คอยวัดผลแล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าคอนเทนต์ที่ทำไปมีประสิทธิภาพเพียงพอหรือเปล่า ดังนั้นในบทความเรามาทำความรู้จักตัวชี้วัดทั้ง 8 กัน
รวม 8 KPI ของ Content Marketing ตัวชี้วัดสำคัญ
การตั้ง KPI ของ Content Marketing สำคัญยังไง?
- ทำให้รู้ว่าคอนเทนต์ที่ทำไปให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการหรือไม่ เช่น ผู้ชมมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์มากขึ้น คอนเทนต์ตัวไหนที่ทำให้คนกดซื้อสินค้ามากที่สุด เป็นต้น
- ได้ Insight ของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้เข้าใจว่าพวกเขาให้ความสนใจ ชอบ หรือเห็นว่าคอนเทนต์มีประโยชน์ เป็นคอนเทนต์แบบไหน และพวกเขาโต้ตอบกับคอนเทนต์ของเรายังไง
- ทำให้รู้ว่าลงคอนเทนต์ในช่องทางที่เหมาะสมแล้วหรือยัง ช่องทางนั้น ๆ มีกลุ่มเป้าหมายอยู่มากน้อยแค่ไหน ช่องทางไหนเหมาะสมที่จะลงทุน
แต่ก่อนที่เราจะเลือก KPI เพื่อวัดผล เราจำเป็นต้องกำหนด “วัตถุประสงค์หรือเป้าหมาย” ในการทำคอนเทนต์ก่อน ซึ่งเป้าหมายถือเป็นจุดเริ่มต้นในการทำ Content Marketing เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนคุณก็จะวางกลยุทธ์การทำคอนเทนต์ได้ถูก รวมถึงเลือก KPI ได้เหมาะสมกับเป้าหมาย
และการกำหนด KPI ที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ เห็นจุดที่ต้องแก้ไขหรือจุดที่มีประสิทธิภาพได้ชัดเจน และปรับกลยุทธ์การทำ Content Marketing ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นนั่นเองค่ะ
8 KPI ของ Content Marketing อยากวัดผลลัพธ์คอนเทนต์ ต้องใช้ตัวชี้วัดไหนบ้าง?
อย่างที่รู้กันว่าเป้าหมายในการทำ Content Marketing มีหลายด้าน ทำให้ KPI ก็มีหลากหลายตัวชี้วัดตามไปด้วย เราจึงขอแบ่งเป้าหมายเป็น 3 หัวข้อดังนี้ค่ะ
KPI สำหรับวัดผล Brand Awareness

1. Pageview / Reach
จำนวนการเข้าชมหน้าบทความหรือบล็อก และการเข้าถึงคอนเทนต์ของเรา สองเกณฑ์นี้เป็นเกณฑ์ที่เบสิกที่สุดวัดในการวัด Brand Awareness ว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นแค่ไหน หากเริ่มทำ Content Marketing ไปแล้ว แล้วจำนวนการเข้าชมเพิ่มขึ้นก็แสดงว่าคุณถูกมองเห็นมากขึ้น มีคนรับรู้การมีอยู่ของแบรนด์มากยิ่งขึ้น
2. Social media share & engagement
หากคุณมีจำนวนคนกดลิงก์จากโพสต์ของคุณ การแสดงความคิดเห็น หรือการแชร์ต่อที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะเป็นแบบออแกนิก นั่นก็แสดงว่าคุณกำลังเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพอีกด้วย เพราะสาเหตุที่คนจะกดแชร์หรือคอมเมนต์ได้ พวกเขาจะต้องชอบคอนเทนต์ของคุณก่อน
3. Follower & Subscriber
จำนวนผู้ติดตามหรือ Subscribe เป็นอีกเกณฑ์ที่ช่วยวัด Brand Awareness ที่บ่งบอกว่าคอนเทนต์ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้
KPI สำหรับวัดผล Engagement

4. Returning visitors
คือผู้ชมที่กลับมายังเว็บไซต์ของเราอีก ซึ่งถ้าการทำ Content Marketing ของเราให้ประโยชน์ มีความน่าเชื่อถือ และดึงดูดความสนใจได้มากพอ คนกลุ่มนี้จะอยากกลับมาเรียนรู้แบรนด์ของคุณเพิ่มที่เว็บไซต์ ทำให้ค่า Returning Visitors เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่ถ้าพวกเขากลับมาอีก มักจะไปยังหน้าราคาสินค้า หน้ารีวิวจากลูกค้า หน้า About Us หรือหน้าบล็อก
5. Average time on site / Average engagement time
เป็นเวลาเฉลี่ยที่ใช้บนหน้าเว็บไซต์ของเรา ยิ่งผู้เยี่ยมชมอยู่ในหน้าเว็บไซต์ของเรานาน ๆ อาจบ่งบอกได้ว่าพวกเขาสนใจคอนเทนต์ และมีโอกาสที่จะมีส่วนร่วมกับหน้านั้น ๆ มากยิ่งขึ้น หรืออาจจะไปยังหน้าอื่น ๆ บนเว็บไซต์มากขึ้น
6. Avg. Position
อันดับของหน้า Landing page จากคำค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด เมื่อเราค้นหา แล้วคอนเทนต์ของเราอยู่ในลำดับที่เท่าไร จริง ๆ อันนี้สามารถดูได้ที่ Google Search Console ได้เลย ซึ่งตัวเลขนี้จะมีความแปรผันไปตามกาลเวลา บางทีเมื่อลงไปแล้วคอนเทนต์นี้อาจจะอยู่ลำดับเกือบ ๆ ท้ายตารางเลยก็มี แต่เวลาผ่านไป กลับไต่ลำดับมาได้อย่างน่าสนใจ หรือถ้าคอนเทนต์นี้ลำดับตก ก็อาจจะหมายถึงเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เช่นปรับปรุงคอนเทนต์ด้วยการเขียนเพิ่มเติมไหม ทำรูปเพิ่ม หรือเปลี่ยนไตเติล หัวข้อ หรืออาจจะพิจารณาเขียนคอนเทนต์ขึ้นมาใหม่เลยก็ได้ ขึ้นอยู่กับเราสะดวก
KPI สำหรับวัดผล Lead Generation / Conversion

7. Click through rate (CTR)
อัตราการคลิกคอนเทนต์ ซึ่งถ้าคุณอยากสร้างโอกาสทางการขายให้สูงขึ้น นอกจากการทำคอนเทนต์ให้ดีแล้ว อย่าลืมใส่ปุ่ม CTA (Call to action) ที่บอกชัดเจนว่าให้ทำอะไร หรือจะได้รับอะไร ลงในคอนเทนต์ให้เหมาะสม เพื่อกระตุ้นการคลิก เพิ่มโอกาสทางการขายให้มากขึ้น
8. Conversion
อัตราการทำ Conversion ซึ่งค่านี้จะบอกคุณได้ว่าคอนเทนต์ไหนที่ทำให้เกิด Conversion หรือทำให้เกิดการซื้อได้มากที่สุด โดยสามารถติดตามได้ด้วยการใช้ลิงก์ UTM ที่สร้างขึ้นมาสำหรับแต่ละคอนเทนต์ จากนั้นรอเก็บผลลัพธ์และปรับปรุงคอนเทนต์ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
สรุป KPI ของ Content Marketing ควรใช้ตัวชี้วัดไหนดี?
การทำ Content Marketing ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้มีแค่ขั้นตอนการทำคอนเทนต์ให้ดีมีคุณภาพเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีการวัดผลและปรับปรุงกลยุทธ์อยู่เรื่อย ๆ เพราะเราไม่สามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายได้ในทันที แต่การวัดผลขึ้นอยู่กับว่าเป้าหมายในการทำ Content Marketing คืออะไร แล้วจึงเลือกใช้ตัวชี้วัดที่เหมาะสม จะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ และนำไปใช้ปรับปรุงกลยุทธ์การทำคอนเทนต์ในอนาคตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast