รับเขียนบทความ SEO ที่ผ่านมาได้ยินเพื่อนๆ รอบตัวถามกันบ่อยว่า ถ้าอยากรับเขียนบทความ ควรคิดราคาเท่าไหร่ ต้องทำอะไรส่งบ้าง วันนี้เลยขอแชร์ประสบการณ์แบบจัดเต็มเพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่สนใจ ถ้าใครกำลังอยากรับจ้างเขียนบทความ SEO แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี มาทางนี้เลยครับ
รับเขียนบทความ SEO คิดราคายังไง ต้องส่งอะไรลูกค้าบ้าง?
รับเขียนบทความ SEO ต้องส่งอะไรให้ลูกค้าบ้าง?
ก่อนที่จะไปพูดถึงเรื่องค่าจ้าง ขอเริ่มที่เรื่องของชิ้นงานที่ต้องส่งลูกค้าเวลารับเขียน SEO ก่อนนะครับ องค์ประกอบต่างๆ ที่ผมยกมาเล่าให้ฟังนี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมีในบทความ แต่ว่าลูกค้าจะต้องการจากเราทุกข้อเลยมั้ย ก็ต้องตอบว่า ไม่เสมอไป ขึ้นอยู่กับการตกลงกัน แต่มาบอกเล่าให้ฟังไว้ว่าส่วนมากที่ลูกค้าอยากได้คืออะไรบ้าง
- บทความ
ซึ่งก็คือชิ้นงานหลักนั่นเอง และในที่นี้หมายถึงบทความ SEO ที่มีเนื้อหาตรงตามบรีฟ มี Element ต่างๆ ครบถ้วน เช่น H1, H2, H3, ฺฺBullet Point หรือตารางประกอบในบทความ นอกจากนี้เนื้อหาบทความ มักจะมีการกำหนดความยาวขั้นต่ำจากผู้ว่าจ้างด้วย ส่วนตัวผมเองเคยได้รับการกำหนดมาสองรูปแบบคือ
- แบบนับจำนวนคำ
- แบบนับจำนวนตัวอักษร
ความยาวโดยเฉลี่ย คืออยู่ที่ 500 คำขึ้นไป หรือราวๆ 2,000 – 2,500 ตัวอักษร และเครื่องมือที่ค่อนข้างเป็นมาตรฐานในการใช้นับจำนวนความยาวก็คือการอ้างอิงจาก Microsoft Word นั่นเอง ส่วนประเภทไฟล์งานที่ใช้ส่งลูกค้าก็ขึ้นอยู่กับการตกลงกันก่อนหน้า แต่ที่นิยมหลักๆ คือ Google Doc, Microsoft word หรือ PDF เป็นต้น
- รายละเอียดการใช้คีย์เวิร์ด
ทั้งคีย์เวิร์ดหลัก คีย์เวิร์ดรอง สิ่งที่ต้องระบุไปในชิ้นงานด้วยคือ อัตราความถี่ของคีย์เวิร์ด (Keyword Density) และตำแหน่งของคีย์เวิร์ด (อันนี้ไม่ค่อยมีลูกค้าให้ระบุแต่ก็มีบางเจ้าที่ต้องการ) ในเรื่องของความถี่นั้น บอกได้ยากมากจริงๆ ว่าควรมีเท่าไหร่ ตามที่เคยทำงานมา คีย์เวิร์ดหลักควรอยู่ที่ 5 -10 ต่อความยาว 1,000 คำ มีมากไป Search Engine ก็อาจมองว่าเป็นการสแปมได้ แต่ที่สำคัญคือควรให้อยู่ใน H1, H2 และกระจายอยู่ทั่วบทความ
- Meta Description และ Title Tag
เป็นส่วนที่คนรับเขียนบทความ SEO ต้องเขียนแยกออกมาจากบทความเพื่อใช้พรีวิวในหน้า Search Result
Title Tag: ชื่อบทความที่ปรากฏในหน้า Search Result ความยาวอยู่ที่ 50 – 60 ตัวอักษร
Meta Description: ข้อความที่ปรากฏในหน้า Search Result ความยาวอยู่ที่ 150 – 160 ตัวอักษร
นอกจากนี้ยังมีอีกส่วนที่อาจจะเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ คือ Slug Name หรือสิ่งที่อยู่ท้าย URL ของหน้าบทความครับ แนะนำง่ายๆ คือการใช้คีย์เวิร์ดเป็น Slug Name ได้เลย แล้วก็ขอเสริมนิดหน่อย คือ ลูกค้าบางเจ้าใช้การนับสองสิ่งนี้แบบ Pixels แต่ไม่ยากอย่างที่คิดครับ ปกติแล้วถ้าใช้การนับแบบ Pixels ผมจะนำไปเช็กในเว็บนี้ แล้วก็ปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้เลย
- ภาพประกอบ และ alt text
ในบางโอกาส ลูกค้าก็ต้องการชิ้นงานที่ค่อนข้างสมบูรณ์ที่สุด นั่นคือการจัดทำภาพประกอบให้เลย อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถรองรับความต้องการนี้ได้มั้ย แต่ถ้าได้ มีสิ่งหนึ่งที่อย่าลืมระบุไปด้วยคือ alt text
สิ่งนี้คือ คำอธิบายรูปภาพที่ แทรกอยู่ใน HTML Code ของเว็บไซต์ซึ่งไม่ได้ปรากฎให้เห็น แต่ส่งผลต่อ SEO เพราะบอทจาก Search Engine จะดึงข้อมูลส่วนนี้ไปประมวลผลด้วย
- แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ในกรณีที่บทความมีการอ้างอิงข้อมูล สถิติ ข่าวสารจากแหล่งอื่นๆ นอกจากระบุลงไปในบทความแล้ว ควรเตรียมลิงก์แหล่งข้อมูลนั้นๆ ส่งมอบให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน เพื่อให้ลูกค้านำไปตรวจเช็กความถูกต้องของข้อมูลครับ
- ส่วนอื่นๆ
เช่น Keyword Research , Search Compettitor โดยส่วนมากแล้วลูกค้าจะเป็นผู้ที่จัดทำมาให้ในบรีฟอยู่แล้ว แต่ก็มีบางกรณีที่ลูกค้ามีเพียง Topic ที่ต้องการทำ หรือเราทำงานภายใต้เอเจนซี่ ก็อาจได้ลงมือทำในส่วนของการรีเสิร์ชคีย์เวิร์ด ทำโครงสร้างบทความ วิเคราะห์คู่แข่งเพื่อนำเสนอลูกค้าด้วยเช่นกัน
อยาก รับเขียนบทความ SEO คิดราคายังไง?
หลังจากรู้แล้วว่าอะไรบ้างเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ทีนี้ก็มาถึงส่วนของการคิดราคาค่าจ้างในการรับเขียน SEO กันแล้ว ทั้งนี้มีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึงเพื่อประกอบการคำนวณค่าจ้าง ดังนี้ครับ
- ความต้องการของลูกค้า
- ความยาวของบทความ
- เงื่อนไขการแก้ไขงาน การปรับเปลี่ยน
- ระยะเวลาในการทำงาน
เรทราคาการรับเขียนบทความ (จากประสบการณ์ส่วนตัว)
ถ้าจากประสบการณ์ทำงานสายนี้มา เอาแบบที่ Ideal สุดๆ เลย คือ 1฿ / 1 คำ เพราะเป็นการคำนวณราคาที่เข้าใจง่ายที่สุด แต่ก็ต้องบอกว่าในยุคนี้มีการแข่งขันสูงมาก และมีเครื่องไม้เครื่องมือมาช่วยให้ทำงานได้ง่ายขึ้น ก็ต้องยอมรับว่าค่าจ้างก็ปรับลดลงไปด้วย เช่นจากเมื่อก่อน 500 คำ 500 บาท ตอนนี้อาจจะเจอคนที่รับเขียนบทความในราคา 500 คำ 50 บาทก็มี ซึ่งเคยเจอจริง แต่ส่วนตัวมองว่ามันก็เหมือนการเลือกซื้อสินค้าประเภทเดียวกันก็อาจมีราคาที่แตกต่างกันไปตามขอบเขตการทำงาน ผลงานที่ได้รับ หรืออื่นๆ ด้วย
ดังนั้นผมขอแชร์วิธีการคำนวณราคาแบบส่วนตัวเป็นขั้นตอนให้ คือ
- คำนวณราคาตามความยาวก่อน
เช่น ลูกค้าเสนอความยาวมา แล้วเราใช้คำนวณราคาเบื้องต้นตามเรทที่ต้องการ
- บวกค่าบริการเพิ่มตามความต้องการด้านอื่นๆ
ไม่ว่าจะรูปภาพประกอบ, เงื่อนไขการแก้งาน หรือสิ่งอื่นๆ ที่ลูกค้าต้องการ
- ปรับเปลี่ยนค่าบริการตามระยะเวลาการทำงาน
แน่นอนว่าการรับจ้างเขียนบทความ คือการที่เราใช้เวลาในการทำสิ่งที่ลูกค้าต้องการ การปรับเปลี่ยนในที่นี้ หมายถึง ลูกค้าต้องการงานด่วนแค่ไหน ถ้าด่วนก็อาจมีการคิดค่าบริการเพิ่ม นอกจากนี้ควรประเมินตัวเองด้วยว่า ใช้เวลามากน้อยแค่ไหนในการทำงานให้เสร็จ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินว่าลูกค้าต้องการงานด่วนหรือไม่นั่นเอง
สรุป
งานเขียนบทความ SEO เป็นงานที่ต้องบอกตามตรงว่า ต้องใช้ทั้งเวลา และความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าอย่างสูง สิ่งสำคัญคือควรส่งมอบชิ้นงานตามที่ตกลงกับลูกค้าอย่างครบถ้วน และในเรื่องของการคิดราคา แม้ว่าการแข่งขันจะสูงจนราคากลางดูต่ำลง แต่อยากให้คำนวณให้ดีก่อนรับงาน ว่าคุ้มค่ากับการลงมือทำหรือไม่ และราคาที่ตั้งมา เหมาะสมกับผลงานที่ลูกค้าได้รับหรือเปล่า ถ้าผ่านขั้นตอนเหล่านี้ไปแล้วรู้สึกว่าใช่ ก็ลงมือได้เลย!
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast