Digital Marketing งานอีเวนท์ ถึงแม้ว่างาน Event มักจะจัดเป็นรูปแบบออฟไลน์ คือให้คนมารวมตัวกันเพื่อจุดมุ่งหมายบางอย่าง แต่ใช่ว่าจะไม่มีการทำ Digital Marketing เลย กลับกลายเป็นว่างาน Event ต่าง ๆ นั้น นิยมใช้ Digital Marketing มากขึ้นเพื่อให้งานอีเวนท์ประสบความสำเร็จ และมีคนเข้างานมากขึ้นด้วย
Digital Marketing งานอีเวนท์ จะเริ่มต้นอย่างไร และวัดผลแบบไหน
- การเริ่มต้นทำ Digital Marketing งานอีเวนท์ คือ Announce ให้รู้ว่าจัดงานที่ไหน วันเวลาอะไร
- ทำคอนเทนต์ดึงจุดเด่นในงานออกมา ว่าในงานมีอะไรบ้าง
- ทำโฆษณาในรูปแบบ Awareness ในระดับสูง สำหรับงานอีเวนท์งานฟรี เพื่อก่อให้เกิดการรับรู้ให้มาก
- งานอีเวนท์ที่ขายบัตร ทำโฆษณาเน้นแบบ Purchase ได้เลย หรือเน้น Traffic ลงในหน้า LP
- อีเวนท์งานฟรี อาจมีของกำนัล เมื่อลงทะเบียน และมารับที่หน้างาน เพื่อให้การันตีว่าจะมา
- อย่าลืมใช้ข้อมูล First Party Data ให้เป็นประโยชน์ เช่นเบอร์โทร อีเมล ต่าง ๆ
- สรุป Digital Marketing งานอีเวนท์ จะเริ่มต้นอย่างไรได้บ้าง
ซึ่งคอนเทนต์ที่จะเขียนต่อไปนี้จะแบ่งออกเป็นประเภทงานอีเวนท์ 2 แบบ ใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ
- งานอีเวนท์รูปแบบที่ต้องจ่ายเงินเพื่อเข้างาน
เป็นรูปแบบงานที่เราจะพบเห็นจากงานคอนเสิร์ต งานเซอร์กิต ทอล์กโชว์ งานโชว์ ฯลฯ ซึ่งงานเหล่านี้จะมีจุดมุ่งหมายหลักเลยคือเพื่อจำหน่ายตั๋วของงานอีเวนท์นั้น ๆ เพื่อให้เกิดรายได้ขึ้นมานั่นเอง - งานอีเวนท์ที่เป็นรูปแบบงานฟรี ใครก็สามารถเข้างานได้
งานอีเวนท์แบบนี้เราสามารถพบเห็นได้จากงานแสดงสินค้า งานแสดงผลงานศิลปะ งานแฟร์ต่าง ๆ หรือพวกงานการกุศล งานอีเวนท์ที่จัดในห้างตามเทศกาล ฯลฯ เพราะงานอีเวนท์เหล่านี้มักจะใช้เพื่อเรียกให้คนมาสถานที่เหล่านั้นแทน โดยในงานอาจจะขายสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงมีสปอนเซอร์ต่าง ๆ ช่วยจัดงานขึ้นมา
ที่เราจำเป็นต้องแบ่งงานอีเวนท์ออกมาเป็น 2 รูปแบบนี้เนื่องจากจะมีรายละเอียดในการทำ Digital Marketing ที่แตกต่างกันพอสมควร ดังนั้นการที่เราแยกออกมาก่อนเพื่อให้เห็นภาพได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนเองก็เคยทำงาน Digital Marketing ให้กับรูปแบบงานอีเวนท์มาทั้ง 2 แบบ เลยจะนำประสบการณ์จริงที่เคยทำมาเผยแพร่ให้เป็นความรู้นั่นเอง
การเริ่มต้นทำ Digital Marketing งานอีเวนท์ คือ Announce ให้รู้ว่าจัดงานที่ไหน วันเวลาอะไร
นี่คือสิ่งพื้นฐานของงานอีเวนท์ต้องมี จำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องให้รู้ว่าเราจัดงานที่ไหน และวันเวลาอะไร เพราะจะทำให้คนที่สนใจงานของเราจริง ๆ สามารถจัดตาราง และรู้ได้เลยว่าวันที่จะมางานของเราได้ไหมนั่นเอง จริง ๆ แล้วการ Announce แจ้งวันเวลานั้นทำได้ในหลายสื่ออยู่แล้ว แต่จำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องทำให้เห็นชัดเจน ถ้าทำ Artwork ก็ต้องระบุวันเวลาให้ตจัวใหญ่ ๆ หรือถ้าใส่ในแคปชั่นก็อาจจะใส่ให้รู้เลย หรือใส่ไว้ในทุกแคปชันของโพสต์ที่เราจะใช้เลยก็ได้ ส่วนการทำโฆษณาแน่นอนว่าในส่วนของ Text ข้อความ ก็จำเป็นมาก ๆ ก็จะต้องแจ้งวันเวลาสถานที่เอาไว้
ทำคอนเทนต์ดึงจุดเด่นในงานออกมา ว่าในงานมีอะไรบ้าง
คอนเทนต์ในที่นี้ขึ้นอยู่กับเราว่าจะสะดวกทำแบบไหน ถ้าง่ายที่สุดคือการทำเป็น Artwork เป็นอัลบั้ม ว่างานของเราเข้าไปแล้วจะต้องพบกับอะไรบ้าง หรือถ้าจะให้ดีแน่นอนว่าการทำเป็นรูปแบบวิดีโอสั้น ก็จะเหมาะกับช่องทางโปรโมทออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Reels ของ Facebook, Instagram และทาง Shorts ของ YouTube ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อผสานนำวิดีโอหรือ Artworks เหล่านี้มาทำเป็น Ads ก็จะสามารถหวังผลได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นให้เกิด Awareness หรือ Conversion เองก็ตาม
ทำโฆษณาในรูปแบบ Awareness ในระดับสูง สำหรับงานอีเวนท์งานฟรี เพื่อก่อให้เกิดการรับรู้ให้มาก
อีเวนท์งานฟรี เป็นอีเวนท์ที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าชมงาน ซึ่งจะทำให้งานอีเวนท์ในรูปแบบนี้คำนวณในเรื่องของคนที่จะมางานได้ค่อนข้างยาก แน่นอนว่าเป็นอีเวนท์งานเปิด ที่จัดในที่สาธารณะ จำเป็นมาก ๆ ที่จะต้องทำ Digital Marketing ให้เข้าถึงผู้คนเป็นจำนวนมาก โดยเน้นในด้านของ Awareness ระดับสูงสุด ซึ่งเราสามารถเลือกใช้ได้หลายเครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็น Meta Ads, TikTok Ads, Google Ads, LINE Ads และเครื่องมืออื่น ๆ โดยเน้นจุดประสงค์ในการทำโฆษณาที่เป็น Awareness เพื่อให้เข้าถึงคนได้มาก โดยใช้งบประมาณที่น้อย การวัดผลก็จะเน้นในเรื่องของ CPM, Impression, CPC, Click เป็นหลัก
งานอีเวนท์ที่ขายบัตร ทำโฆษณาเน้นแบบ Purchase ได้เลย หรือเน้น Traffic ลงในหน้า LP
งานอีเวนท์ที่ขายบัตรก่อนล่วงหน้า มักจะมีการทำเว็บไซต์เพื่อรองรับการซื้อบัตรอยู่แล้ว อันนี้ให้คิดซะว่าเป็นการทำ Digital Marketing สำหรับ eCommerce รูปแบบหนึ่งไปเลย เพราะมีความคล้ายคลึงกันหลายอย่างเช่น การซื้อสินค้า Add to Cart และ Purchase เราก็สามารถวัด KPI ได้เหมือนกับการทำ eCommerce เลย เช่น CPC, Click, CTR , Add to Cart, Add to Cart Rate, Purchase, Purchase Rate, Avg. Order Value พวกนี้ถ้าเป็นเว้บไซต์ของเราเอง และมีการติด Tracking อย่างถูกต้องก็จะช่วยวัดผลได้
แต่ถ้าใครที่ใช้เว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มของ Third Party ที่เป็นระบบจองตั๋วอาจจะต้องทำ UTM (ถ้าเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มนั้นรองรับ) หรือถ้าไม่ได้จริง ๆ ก็แนะนำให้ทำโฆษณาในรูปแบบ Traffic เพื่อให้เกิดจำนวนคลิกไปยังหน้า Landing Page ให้มากที่สุดและโฟกัสของเรื่อง CPC แทนก็ย่อมได้
อีเวนท์งานฟรี อาจมีของกำนัล เมื่อลงทะเบียน และมารับที่หน้างาน เพื่อให้การันตีว่าจะมา
สำหรับงานอีเวนท์ที่เป็นงานฟรี สามารถเข้างานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ก็จะมีความยากนิดหน่อยตรงที่ว่า งานฟรีจะคาดการณ์ที่เข้ามางานได้ค่อนข้างยาก ต่างงานอีเวนท์ที่ขายบัตร เพราะเมื่อขายบัตรออกไปแล้ว ก็จะสามารถนับจำนวนคนที่จะมางานได้เลย ดังนั้น ถ้าต้องการให้คนที่จะมางานอีเวนท์แบบไม่มีค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ก็อาจจำให้ลงทะเบียนล่วงหน้ามาก่อน เพื่อให้เกิดความสะดวกที่หน้างาน และถ้าลงทะเบียนมาก่อนก็สามารถรับของกำนัลได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การที่คนมาได้มากขึ้น ส่วนการลงทะเบียนนั้น เราก็สามารถสามารถใช้เครื่องมือในการทำ Digital Marketing ตามกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ เพื่อให้มาลงทะเบียนได้เลยนั่นเอง
อย่าลืมใช้ข้อมูล First Party Data ให้เป็นประโยชน์ เช่นเบอร์โทร อีเมล ต่าง ๆ
อย่าลืมว่าการลงทะเบียนสำหรับอีเวนท์งานที่ไม่มีค่าใช้จ่าย หรืองานอีเวนท์ที่มีค่าใช้จ่ายอย่างคอนเสิร์ต เราจะได้ข้อมูล First Party Data อย่าง เบอร์โทร อีเมล เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำ Digital Marketing ในครั้งต่อไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Remarketing หรือแม้กระทั่งการทำกลุ่มเป้าหมายแบบ Lookalike หรือถ้าเป็นส่วนของเบอร์โทร เราก็สามารถทำ SMS Marketing ได้อีก ซึ่งการจัดทำอีเวนท์ในครั้งต่อ ๆ ไป โดยเฉพาะการทำอีเวนท์ที่มี Theme งานแบบเดียวกัน การเก็บข้อมูล First Party Data จะช่วยได้มากเลยทีเดียว
สรุป Digital Marketing งานอีเวนท์ จะเริ่มต้นอย่างไรได้บ้าง
ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ในการทำโฆษณา Digital Marketing สำหรับงานอีเวนท์เป็นหลัก แต่ว่าเราก็ต้องมาจัดกลุ่มงานอีเวนท์ของเราก่อนว่างานอีเวนท์ที่เราจะจัดนั้น เป็นงานรูปแบบไหน แล้วค่อยปรับกลยุทธ์ในการทำการตลาดออกให้ให้เหมาะสมกับงานและกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม การทำ Digital Marketing เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินความสามารถ จะมีความแตกต่างกันการทำ Digital Marketing กับธุรกิจในรูปแบบอื่น เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีความเฉพาะตัวมากเลยทีเดียว
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time