ทำ SEO ไม่ได้ผล ไม่ติดอันดับ หรือติดแล้วแต่ไม่มีคนซื้อ มาดูกันว่าปัญหาอยู่ตรงไหน? จากประสบการณ์ส่วนตัวของผม ทั้งงานตัวเอง และการไปพูดคุยกับคนที่ทำงานสายนี้มา ก็เลยขอรวบรวมมาเล่าสู่กันฟังว่า ทำไมทำ SEO แล้วไม่ได้ผล
ทำ SEO ไม่ได้ผล เพราะปัญหาเหล่านี้หรือเปล่า? แก้ไขได้ด้วยวิธีเหล่านี้
วิเคราะห์ก่อน ปัญหาของ SEO คืออะไรกันแน่?

ก่อนจะหาทางแก้ไข เราต้องเข้าใจก่อนว่าปัญหาที่เจออยู่ตอนนี้คืออะไร การทำ SEO ที่แบรนด์มักบอกว่าไม่ได้ผลนั้น มักจะมี 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ไม่ติดอันดับเลย กับ ติดอันดับแล้วแต่ไม่มีคนซื้อ หรือไม่มี Conversion ซึ่งแต่ละปัญหาก็มีสาเหตุและวิธีแก้ที่แตกต่างกัน
1. ไม่ติดอันดับเลย
- เว็บไซต์โหลดช้า ไม่มี Mobile Optimization
ตอนนี้คนส่วนใหญ่ใช้มือถือเสิร์ชกันเยอะ ถ้าเว็บเราเปิดบนมือถือแล้วดูแย่ โหลดช้า ไม่มี Responsive page Google ก็จะไม่ค่อยแนะนำเว็บเรา
วิธีแก้ไข: ปรับโครงสร้างเว็บให้ดีขึ้น เริ่มจากการจัดหมวดหมู่เนื้อหาให้เป็นระเบียบ ใช้ URL ที่อ่านง่าย ปรับความเร็วเว็บไซต์โดยการบีบอัดรูปภาพ ลดโค้ดที่ไม่จำเป็น และทำให้รองรับการใช้งานบนมือถือ
- ไม่มีการทำ On-page SEO ที่ถูกต้อง
เช่น Title Tag, Meta Description หรือ Heading Tag ไม่ได้ใส่คีย์เวิร์ดเป้าหมาย หรือใส่แล้วแต่ไม่เป็นธรรมชาติ ดูยัดเยียด
วิธีแก้ไข: ปรับปรุง Element ต่างๆ ที่ว่ามาให้เหมาะสม แทรก Keyword อย่างเป็นธรรมชาติกระจายทั่วบทความ แต่ไม่มากเกินไป
- ไม่มี Backlink ที่มีคุณภาพ
Backlink ก็เป็นปัจจัยสำคัญ ถ้าไม่มีเว็บไซต์อื่นมาลิงก์หาเรา Google ก็จะคิดว่าเนื้อหาเราไม่น่าสนใจ หรือไม่น่าเชื่อถือ
วิธีแก้ไข: ทำ Outreach หาเว็บไซต์ในอุตสาหกรรมเดียวกันมาแลกเปลี่ยนลิงก์ , สร้างคอนเทนต์ที่คนอยากแชร์ หรือทำ PR ให้สื่อต่างๆ มาเขียนเกี่ยวกับเราแล้ว Backlink มา
- เนื้อหาไม่ตรงกับ Search Intent
เนื้อหาที่เราเขียนต้องตรงกับสิ่งที่คนค้นหาจริงๆ (Search Intent) เช่น คนค้นหา “เทียบราคาหม้อทอดไร้น้ำมัน” แต่เราไปเขียนเกี่ยวกับ “วิธีใช้หม้อทอดไร้น้ำมัน” ก็จะไม่ตรงกัน
วิธีแก้ไข: วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้ตรง ประเมินความต้องการที่แท้จริงของคนเสิร์ชเพื่อเอามาใช้เป็น Core Idea ของคอนเทนต์ จะช่วยให้ไม่เขียนแบบหลุดกรอบ
- ใช้คีย์เวิร์ดที่ไม่มี Volume หรือตรงกันข้ามคือแข่งยากเกินไป Search Volume มากไป
ถ้าเราเลือกคีย์เวิร์ดที่ไม่มีคนค้นหา หรือแข่งขันยากเกินไป (เช่น คีย์เวิร์ดที่ใหญ่ๆ อย่าง “ประกันภัย” หรือ “ลดน้ำหนัก”) ก็จะยากที่จะติดอันดับ
วิธีแก้ไข: เลือกใช้ Keyword ที่เจาะจงมากกว่านั้น และเลี่ยง Keyword ที่ Search Volume ไม่มี
2. ติดอันดับแล้ว แต่ไม่มี Conversion ไม่มีคนซื้อ

ถ้าเป็นในส่วนนี้ ปัญหาน่าจะมาจากคนละกรณีกับแบบแรกแล้ว เพราะมี Traffic เข้ามายังเว็บไซต์ แต่ดันไม่มียอดอะไรเกิดขึ้น ไม่ว่าจะยอดขาย ยอดการติดต่อ หรือกรอกฟอร์มในเว็บ
- เนื้อหาไม่ชัดเจน ไม่ตอบโจทย์ลูกค้า
คนเข้ามาแล้วอ่านไม่เข้าใจว่าเราขายอะไร หรือบริการของเราช่วยแก้ปัญหาของเขาได้ยังไง
วิธีแก้ไข: อาจจะต้องเริ่มจากการจัดบทความให้อ่านง่าย เลือกใช้ Bullet Point แยกประเด็นเป็นข้อๆ หรือใช้ภาพ, วิดีโอ, ตาราง มาช่วยให้ข้อมูลเข้าใจง่ายขึ้น
- ไม่มี Call-to-Action ชัดเจน
รวมถึงการออกแบบ UX/UI ที่ยุ่งยากซับซ้อนเกินไป ทำให้คนอยากจะซื้อแต่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง หรือกดไปหน้าไหน
วิธีแก้ไข: ใส่ CTA ในจุดที่มองเห็นได้ง่าย ไม่ต้องถี่ แต่ชัดเจนว่า ต้องการให้ติดต่อ, สั่งซื้อ หรืออื่นๆ
- ไม่รู้จักกลุ่มเป้าหมายจริงๆ
บางครั้งเราอาจจะเข้าใจผิดเรื่องกลุ่มเป้าหมาย คิดว่าคนที่ค้นหาคีย์เวิร์ดนี้ต้องการซื้อสินค้า แต่จริงๆ แล้วเขาแค่อยากได้ข้อมูล
วิธีแก้ไข: ทบทวนจุดประสงค์ของคอนเทนต์ หรือหน้านั้นๆ ให้ดี ว่าต้องการสื่อสารอะไร เพื่อนำไปปรับปรุงคอนเทนต์ให้ตรงความต้องการคนอ่าน
- ขาดความน่าเชื่อถือ เช่น รีวิว, เคสจริง, Social Proof
ไม่มีรีวิวจากลูกค้าจริง ไม่มีเคสศึกษา หรือ Social Proof อื่นๆ ที่จะทำให้คนเชื่อใจ คนก็ไม่กล้าซื้อ
วิธีแก้ไข: สอดแทรกรีวิว, เคสการใช้งานลงในคอนเทนต์ หรือถ้ามีหน้ารีวิวอยู่แล้ว สามารถใส่ Internal Link แทรกลงไปด้วยได้เช่นกัน
- เว็บไซต์ไม่สามารถวัดผล หรือเชื่อมโยง Conversion ได้
หรือพูดง่ายๆ ก็คือไม่มีการ Tracking ที่เหมาะสม ทำให้เราไม่รู้ว่า Conversion เกิดที่ไหนบ้าง ก็อาจพาลคิดว่าเว็บไซต์เราไม่มีประสิทธิภาพไปเอง
วิธีแก้ไข: ติดตั้งเครื่องมือใช้ Tracking ต่างๆ เพื่อติดตามข้อมูล
สรุป ทำ SEO แล้วไม่ได้ผล เพราะปัญหาเหล่านี้หรือเปล่า? แก้ไขได้ไม่ยากด้วยวิธีเหล่านี้
สิ่งที่เราต้องเข้าใจคือ SEO ไม่ใช่แค่การ “ติดอันดับ” แต่ต้องสร้าง “ประสบการณ์ที่ดี” ให้กับคนค้นหา โดยสรุปเลย ก็คือเราต้องพิจารณาเว็บไซต์ของเราว่ากำลังเจอปัญหาอะไรอยู่ และต้องการอะไร แล้วลองนำเทคนิคที่กล่าวมานี้ไปใช้ในการปรับปรุงให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากขึ้นนั่นเอง
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast