เครื่องมือ SEO ฟรี สำหรับการเลือกคีย์เวิร์ด เพื่อนำมาทำบทความนั้น มีหลายเครื่องมือมาก แต่ที่ทาง Digital Break Time จะนำเสนอ เป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้ฟรี ๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด และเป็นเครื่องมือที่หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่า นำมาใช้งานกับการเลือกคีย์เวิร์ดได้ด้วย พร้อมแล้วไปดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
4 เครื่องมือ SEO ฟรี สำหรับการเลือกใช้ Keywords ให้ออกมามีประสิทธิภาพ
เครื่องมือ SEO ฟรี เริ่มจาก Google Search

เรียกว่าเป็นเครื่องมือเบสิกลำดับแรก สำหรับการใช้ค้นหาคีย์เวิร์ดอย่างง่าย เพียงแค่เราพิมพ์คำที่เราต้องการ ก็จะโผล่ไปยังหน้าผลลัพธ์การค้นหา หยุดสักพักก็จะมีคำอื่น ๆ แนะนำ เป็นลำดับถัดมา เราก็สามารถนำคำที่มีอยู่ในนี้ไปใช้สำหรับการทำคีย์เวิร์ด หรือไปเลือกใช้ในบทความได้ เพราะคำที่แนะนำมา อย่างน้อยก็จะต้องเป็นคำที่มีความนิยมในการค้นหาอยู่บ้าง เราก็สามารถเลือกคำที่เหมาะสมไปใช้งานได้ แต่ก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน นั่นคือไม่มีการเรียงลำดับความนิยม หรือจำนวน Search Volume เลย ทำให้เราไม่ทราบจำนวนที่แท้จริง ของจำนวนครั้งที่ค้นหาได้
Google Search Console

Google Search Console เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือของ Google ที่ใช้งานได้ฟรี มีจุดประสงค์หลักคือการดูว่ามีคนเข้าหรือเจอเว็บไซต์ของเราแบบ Organic จำนวนเท่าไร ค้นหาคีย์เวิร์ดไหน และเว็บไซต์เราอยู่ในลำดับไหน เมื่อค้นหาด้วยคีย์เวิร์ดคำนั้น เรียกว่าเป็นคีย์เวิร์ดที่ทรงพลังมาก ในการเลือกใช้คีย์เวิร์ด เพื่อมาทำ SEO และยังสามารถนำมาเชื่อต่อกับ Google Analytics เพื่อนำมาดูผลลัพธ์ได้อีกด้วย
แต่มีข้อจำกัดอยู่เล็กน้อยคือ เราต้องเป็นเจ้าของเว็บไซต์ก่อน ถึงจะใช้งานเครื่องมือนี้ได้ และมีวิธีการเริ่มใช้งานที่ยุ่งยากอยู่เล็กน้อย คือเว็บไซต์ของเราต้องมีคนเข้าแบบ Organic มาบ้าง เพราะถ้าเป็นเว็บไซต์ใหม่ถอดด้าม ก็จะไม่มีตัวเลขและคีย์เวิร์ดโชว์เลย อีกทั้งยังไม่สามารถเพิ่มคีย์เวิร์ดอื่น ๆ นอกเหนือจากที่คนค้นหามาได้เลย ดังนั้นจึงเหมาะกับการทำในแต่ละเว็บไซต์เสียมากกว่า
Google Ads (Keyword Planner)

Keyword Planner เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชันของ Google Ads หน้าที่หลักคือการทำ Research คำที่เราต้องการซื้อเพื่อใช้โฆษณาแบบ Paid Search ว่ามีจำนวน Search Volume เท่าไร ราคาต่อคลิกประมาณกี่บาท บอกเทรนด์ว่าคีย์เวิร์ดคำนี้จะมีอัตราการค้นหาสูงขึ้นเมื่อเดือนไหน เดือนไหนต่ำ (สินค้าหรือบริการบางชนิดมี Seasonal Marketing) และมีบอกอีกว่าคำนี้มีคู่แข่งคนที่ซื้อโฆษณาเยอะหรือไม่
ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องมือสำหรับการเลือกซื้อคีย์เวิร์ดเพื่อการโฆษณา แต่สายคนทำ SEO แบบบทความก็นำมาประยุกต์ใช้ได้ว่าคีย์เวิร์ดที่เราจะเลือกใช้มีจำนวนคนค้นหาอยู่กี่ครั้ง แต่มีข้อกังวลอยู่เล็กน้อยคือคุณต้องมีบัญชีของ Google Ads ก่อน และไม่ได้บอกลำดับความนิยมด้วย
SeoStack Keyword Tool

เครื่องมือสุดท้ายที่จะแนะนำกัน นั่นคือ SeoStack Keyword Tool เป็นส่วนเสริมของเบราว์เซอร์ Chrome เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้เราเลือกใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการ แล้วเลือกประเทศ ภาษาที่ใช้ และแหล่งที่มาอื่น ๆ เช่น Google, YouTube ฯลฯ กดเพียงครั้งเดียว ระบบก็จะลิสต์รายชื่อคีย์เวิร์ดคำที่เราต้องการมาให้ พร้อมยังพ่วงคีย์เวิร์ด Longtail อื่น ๆ เพื่อให้เราดูไว้เผื่อเป็นตัวเลือก ยังไม่แค่นั้นยังมีลำดับ หรือ Ranking มาให้ด้วย ว่าลำดับไหนเป็นลำดับต้น ๆ ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่ก็มีข้อที่ควรพิจารณาเล็กน้อยคือ ไม่มีบอก Search Volume ที่ชัดเจน
ต้องย้ำกันอีกครั้งว่า เครื่องมือที่กล่าวมานี้ สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่แน่นอนว่าบางเครื่องมือก็อาจมีบางฟีเจอร์ที่ไม่ครบครันหรือขาดหายไปบ้าง ก็อยากจะให้ผู้ที่เริ่มเลือกใช้คีย์เวิร์ดสำหรับการทำ SEO ในเบื้องต้นสามารถใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี
ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time