จ้างเอเจนซี เมื่อเราได้ผ่านการคัดเลือกเอเจนซีเพื่อช่วยในการทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการทำ Digital Marketing การทำเว็บไซต์ หรือการซื้อมีเดียต่าง ๆ ในขั้นตอนถัดไปคือการอ่าน Proposal และการทำสัญญา สิ่งที่เราควรจะทำการอ่าน Proposal และสัญญาโดยละเอียด โดยทำความเข้าใจให้ชัดเจน ซึ่งสิ่งที่ควรโฟกัสให้มากควรเป็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
จ้างเอเจนซี ดูสโคปงาน ว่าเอเจนซีทำอะไร และไม่ทำอะไร
สิ่งแรกที่ควรดูคือสโคปงานของเอเจนซี ว่าเอเจนซีทำอะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้มักจะระบุไว้อย่างชัดเจน ว่าเอจเนซีจะทำอะไรบ้าง สโคปงานเป็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นจุดมุ่งหมายของการทำ สโคปของงานโดยกว้าง และสโคปของงานแบบละเอียด ให้เราอ่านและทำความเข้าใจให้ดี ถ้าในส่วนไหนที่ไม่เข้าใจ แนะนำให้สอบถามเอเจนซีโดยตรงว่าสโคปงานตรงนี้มีลักษณะอย่างไร อย่าอายที่จะถาม เพราะว่าเป็นผลประโยชน์ต่อธุรกิจทั้งนั้น
ส่วนที่ควรพิจารณาต่อมาคือ เอเจนซีไม่ทำอะไร ซึ่งในส่วนนี้ไม่มีการเขียนบอกไว้ ดังนั้นถ้าเรามีข้อสงสัย ควรปรึกษาเอเจนซีโดยตรง ถึงถ้าสิ่งที่คุณกังวลมากว่ากลัวว่าเอเจนซีจะไม่ทำแล้วไม่ระบุเอาไว้ สามารถให้เอเจนซีเพิ่มลงใน Proposal หรือสัญญาได้ (ถ้าเป็นเรื่องเล็กน้อยอาจจะไม่มีการเพิ่มราคา แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก อาจจะมีผลต่อเรื่องราคาเช่นกัน) -ขึ้นอยู่กับการเจรจาและการต่อรองเป็นหลัก
งบประมาณอยู่ในตามที่ตกลงกันไว้
งบประมาณมักจะไม่ค่อยมีอะไรมีเหนือความคาดหมายมากนัก เพราะเรื่องเงินนั้นมักจะถูกยกมาเป็นลำดับแรก ๆ ในการเจรจา ค่าใช้จ่ายโดยรวมจึงอยู่ในงบประมาณอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ควรจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ คือในส่วนของรายละเอียด ว่าจำนวนเงินแต่ละส่วนถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง ถ้าเป็นจำพวก Digital Marketing มักจะต้องดูว่าถูกใช้กับเครื่องมือใด ค่าในส่วนของ Creative เท่าไร แต่ละเดือนรวมจ่ายเท่าไร ส่วนของ Event Marketing ถ้าทำโครงสร้างก็ดูว่าใช้กับโครงสร้างไหน ใช้วัสดุอะไร เป็นอย่างไร ส่วนการทำเว็บไซต์มักจะรวมมาเลยในก้อนเดียว แต่มักจะแยกค่า Maintenance ออกจากกัน
การจ่ายเงินเป็นอย่างไร
เมื่อตรวจสอบเรื่องงบประมาณเรียบร้อยแล้ว มาถึงเรื่องการจ่ายเงินกันบ้าง ซึ่งในแต่ละ Service นั้นมักจะมีการจ่ายเงินที่แตกต่างกันออกไป เช่นการทำ Event Marketing เหล่ออแกไนซ์มักจะมีการมัดจำก่อนเริ่มงาน และเมื่องานสำเร็จก็ค่อยจ่ายเงินในจำนวนที่เหลือภายในระยะเวลากี่วันก็ว่ากันไป
ส่วนของ Digital Marketing ที่ทำอย่างสม่ำเสมอเป็นรายเดือน เมื่อทำงานไปเรียบร้อยแล้ว อาจมีการเรียกเก็บตามเวลาของการให้เครดิต ขึ้นอยู่กับการตกลงกันเอาไว้ ว่าจะจ่ายภายในเวลากี่วัน
และถ้าเป็นเว็บไซต์ มักจะมีการจ่ายเงินเมื่อคอนเฟิร์ม Wireframe ของเว็บไซต์ในงวดแรก และงวดต่อมาเมื่อคอนเฟิร์มรูปแบบการดีไซน์ของทุกหน้า งวดสุดท้ายมักจะเป็นกานจ่ายเงินก่อนที่เว็บไซต์จะเผยแพร่อย่างเป็นทางการ
ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างรูปแบบการเก็บเงินที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับแต่ละบริการที่เอเจนซีมี ซึ่งในบางอย่างก็สามารถต่อรองได้บางส่วน ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจทั้งสองฝ่ายนั่นเอง
ระยะเวลาของสัญญา และการส่งงาน
สุดท้ายคือการดูระยะเวลาของสัญญาว่ามีระยะสัญญาเท่าไร อันนี้มักจะมีผลต่อการทำ Digital Marketing เพราะเป็นการทำในแต่ละเดือน แต่มีระยะเวลาของสัญญาครอบไว้ เว็บไซต์นั้นมักจะมี Action Plan ว่าจะทำเสร็จเมื่อไร ภายในกี่เดือน (จากประสบการณ์ส่วนตัว ในการทำเว็บไซต์ ถ้ามีข้อมูลพร้อม ลูกค้าส่งงานและตรวจงานรวดเร็ว เชื่อมั่นว่าเสร็จทันอย่างแน่นอน แต่ถ้ามีการล่าช้าของลูกค้า นี่ก็อีกเรื่องหนึ่งเช่นกัน) แต่การทำ Event จะแตกต่างกันออกไป คือการจ้างทำไปในแต่ละครั้ง แต่ละงาน ซึ่งมักมีวันที่กำหนดอย่างแน่นอนอยู่แล้ว
บทความนี้เรียกได้ว่าเหมาะกับผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจในการจ้างเอเจนซี เช่นเจ้าของกิจการ CEO หรือ Marketing Manager ที่จะต้องเลือกเอเจนซีเป็นตัวช่วยในการทำการตลาด เพื่อให้ธุรกิจเติบโตขึ้น ทั้งหมดนี้จะช่วยให้การทำการตลาดกับเอเจนซีออกมาเป็นที่พึงพอใจกันทั้งสองฝ่ายอีกด้วย
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time