เลือกคีย์เวิร์ด อย่างไร นับว่าเป็นคำถามที่ถูกถามเข้ามามากเหมือนกัน ว่าในการทำ SEM เบื้องต้น ทั้ง Paid Search และการทำ SEO จำเป็นมากที่จะต้องเลือกใช้คีย์เวิร์ดให้ถูกต้อง ซึ่งหลายคนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไรดี เลยเลือกคีย์เวิร์ดที่พอจะนึกได้มารวมกัน ซึ่งเป็นวิธีที่อาจจะเหมาะสำหรับการเริ่มต้นก็จริง แต่ถ้าเราต้องการทำให้ผลลัพธ์ออกมาดี และสามารถวัดผลได้ การจัดกลุ่ม และการเลือกคีย์เวิร์ดนับว่าจำเป็นอย่างมาก ทาง Digital Break Time เลยมานำเสนอวิธีแบ่งกลุ่มอย่างง่าย ที่เหมาะจะนำไปใช้การทำ SEM ทั้ง Paid Search และ SEO
1. เลือกคีย์เวิร์ด Mass ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราต่ำ
คีย์เวิร์ดแบบนี้เรียกได้ว่าเป็นการหว่านอย่างแท้จริง ลักษณะของคำรูปแบบ Mass เป็นคำที่ดูจะกลาง ๆ ไม่ไปทางใดทางหนึ่ง แต่ยังคงความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราอยู่บ้าง และมี Search Volume ในปริมาณที่สูงมาก ถ้าจะให้ยกตัวอย่าง อาจยกตัวอย่างเป็นกลุ่มธุรกิจ เช่น
ธุรกิจโรงแรม = “ที่พัก” “โรงแรม” “รีสอร์ท” “ชื่อสถานที่ท่องเที่ยว”
ธุรกิจโรงพยาบาลและคลินิก = “ชื่อโรค” “ชื่ออาการ”
ธุรกิจร้านอาหาร = “ชื่อเมนูอาหาร” “ชื่อประเภทอาหาร”
ผลลัพธ์จากการใช้คีย์เวิร์ดในรูปแบบนี้ สำหรับ Paid Search จำนวน Impression จะสูงมาก แต่ CTR ค่อนข้างต่ำ เพราะมีความเกี่ยวข้องน้อย Search Impression Share ค่อนข้างน้อย ถ้างบประมาณไม่พอ เพราะคนค้นหาค่อนข้างเยอะ และมีจำนวนมาก ส่วนการใช้คำเหล่านี้สำหรับ SEO ในช่วงแรกอาจไม่เหมาะนัก โอกาสที่จะติดหน้าแรกต่ำมาก ยกเว้นคุณเป็นเว็บไซต์ใหญ่มีทราฟิกมหาศาล มีทีมครบ ก็ควรจะต้องทำ
2. ใช้คำที่มีความจำเพาะเจาะจงมากขึ้น มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราสูง
เป็นคีย์เวิร์ดที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น Search Volume จะต่ำกว่าแบบแรก และมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราสูงขึ้น ตรงกับประสบการณ์การค้นหาของผู้ใช้งาน ทำให้คีย์เวิร์ดประเภทนี้ค่อนข้างนิยมมาก ตัวอย่างเช่น
ธุรกิจโรงพยาบาลและคลินิก = “ชื่อหรือคำที่คนต้องการจะทำ” “จัดฟันใส” “เสริมจมูก” “เสริมหน้าอก” “ปลูกผม” “ทำ Ulthera”
คำแบบนี้ทั้ง Paid Search และ SEO ค่อนข้างมีการแข่งขันรุนแรง เพราะว่ามี Search Volume ขนาดที่เหมาะสม สามารถทำได้ทั้งธุรกิจเล็กและใหญ่ อัตรา CTR ก็อยู่ในค่าที่เหมาะสม เพราะคีย์เวิร์ดเหล่านี้ ตรงกับประสบการณ์ผู้ที่ค้นหาด้วย
3. คำจากข้อ (1)+(2) แล้วตามด้วยสถานที่หรือ Location
คีย์เวิร์ดประเภทนี้จะเหมาะมากกับร้านที่มีสาขา หรือจำเป็นที่จะต้องรับบริการในละแวกที่ต้องการ เพราะว่าการค้นหาด้วยสถานที่ หมายความว่าผู้ค้นหาต้องการรับบริการในสาขาที่ใกล้เคียงนั้น ทำให้หลายธุรกิจที่มีสาขา นำใช้ประโยชน์ได้ ยกตัวอย่าง
ธุรกิจโรงพยาบาลและคลินิก = “จัดฟัน นนทบุรี” “เลเซอร์รอยสิว สมุทรปราการ” “ตรวจสุขภาพ บางแค”
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ = “ทาว์นโฮม ชลบุรี” “คอนโด สุขุมวิท” “บ้านเดี่ยว ลาดกระบัง”
ธุรกิจร้านอาหาร = “อาหารญี่ปุ่น สยาม” “อาหารอินเดีย นานา” “ร้านกาแฟ อนุสาวรีย์”
ธุรกิจโรงแรมและท่องเที่ยว = “รีสอร์ท กระบี่” “ที่พัก อ่าวนาง” “โรงแรม ภูเก็ต”
คำที่เพิ่มโลเคชันเข้าไปก็จะทำให้ Search Impression Share ลดลง แต่กลับกัน CTR หรืออัตราการคลิกก็จะสูงขึ้นไปอีก สูงกว่าคำระดับ Mass เนื่องจากคำค่อนข้างเฉพาะเจาะจง และตรงกลุ่มเป้าหมายที่ค้นหามากขึ้น ยิ่งธุรกิจของเราอยู่ในย่าน หรือสถานที่ที่เราเลือกใช้ ก็จะมีโอกาสสูงมากที่จะเกิดการซื้อสินค้าและบริการ
4. เลือกคีย์เวิร์ด คำชื่อแบรนด์ Competitors โดยตรง
อันนี้เราแทบไม่ต้องคิดเลย เพราะคีย์เวิร์ดมักจะเป็นชื่อแบรนด์ของคู่แข่งที่มีสินค้า หรือบริการใกล้เคียงกับเรา ซึ่งสามารถใช้ได้ และค่อนข้างเป็นที่นิยมด้วยสำหรับการทำ Paid Search
แต่บอกไว้ก่อนว่าผลลัพธ์การใช้ชื่อแบรนด์ Competitor นั้น สำหรับ Paid Search ไม่ค่อยดีเท่าไร CTR มักจะต่ำกว่ากลุ่มคีย์เวิร์ดอื่นมาก แต่ก็คิดเสียว่าอย่างน้อย เราก็ยังปรากฏในพื้นที่สื่อบ้าง ดีกว่าไม่ทำเลย เมื่อมีคนค้นหาชื่อแบรนด์ Competitor ส่วนการใช้ชื่อแบรนด์ Competitor มาทำ SEO โอกาสจะติดต่ำมาก ถึงมากที่สุด และไม่เหมาะด้วย เอาเป็นว่าไม่เวิร์คกับการทำ SEO เท่าไร
5. ชื่อแบรนด์ของเราเอง
ชื่อแบรนด์ของธุรกิจเราเอง เป็นอีกหนึ่งคีย์เวิร์ดที่ค่อนข้างทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จักมากแค่ไหน ยิ่งเป็นที่รู้จักมาก ก็จะทำให้ Search Volume มากขึ้นไปด้วย แต่ถ้าแบรนด์ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แน่นอนว่า Search Volume จะต่ำ ซึ่งผลลัพธ์มักจะดีมาก ทั้ง CTR หรือ Conversion Rate ก็ตาม เนื่องจากคนที่ค้นหาชื่อแบรนด์ของเรา มีความต้องการใช้บริการ หรือซื้อสินค้าของเราอยู่แล้ว ไม่ควรปล่อยโอกาสนี้หลุดไปควรใช้ชื่อแบรนด์ทำ SEO และ Paid Search ไปควบคู่กัน
กลุ่มคีย์เวิร์ดทั้ง 5 กลุ่มที่กล่าวมากนั้น คุณอาจไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมด อาจเลือกใช้สิ่งที่เหมาะที่สุดกับธุรกิจของคุณก็พอ โดยเฉพาะธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น หรือยังไม่มีงบประมาณสูงมาก จำเป็นที่จะต้องเลือกกลุ่มคีย์เวิร์ดที่จะใช้ทำ SEM ให้ดี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ในงบประมาณที่เรามี
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time