Influencer Marketing หรือ Affiliate Marketing แบรนด์ควรใช้กลยุทธ์การตลาดแบบไหนดี? เชื่อว่าในตอนนี้กลยุทธ์การตลาดทั้ง 2 รูปแบบคงอยู่ในแผนการตลาดของแบรนด์จำนวนมาก เพราะผู้บริโภคในยุคนี้ไม่อยากฟังแบรนด์มาโฆษณาสินค้าตัวเองอีกต่อไป เลยต้องมีการพึ่งพาเหล่าคนดังหรือผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ มาช่วยขายสินค้า ซึ่งหลาย ๆ แบรนด์ก็ประสบความสำเร็จจากกลยุทธ์การตลาดทั้ง 2 ไม่น้อยเลย
แล้วถ้าคุณอยากเริ่มทำการตลาดแบบนี้ ควรเลือกใช้กลยุทธ์ไหนดี วันนี้ Digital Break Time จะมาอธิบายถึงความแตกต่างและจุดเด่นระหว่างกลยุทธ์ทั้ง 2 แบบ เพื่อให้แบรนด์นำไปใช้ได้ถูกต้องและบรรลุเป้าหมายได้
Influencer Marketing หรือ Affiliate Marketing แบบไหนที่เหมาะกับแบรนด์คุณ?
ทำความเข้าใจ! Influencer Marketing และ Affiliate Marketing คืออะไร
Influencer Marketing เป็นการที่แบรนด์จ้างบุคคลที่มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ เช่น คนที่มีชื่อเสียง หรือ TikToker Youtuber ที่มีผู้ติดตามบนโซเชียลจำนวนมาก ให้พวกเขาช่วยโปรโมตหรือรีวิวสินค้าให้บนโซเชียลของตนเอง โดยกลุ่มผู้ติดตามของผู้มีชื่อเสียงควรเป็นคนเดียวกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ถึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี นับเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ความมีชื่อเสียงหรือความน่าเชื่อถือของบุคคลเหล่านี้มาช่วยโน้มน้าวผู้ติดตามให้เกิดการซื้อ หรือใช้เพื่อสร้าง Awareness หรือสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ก็ได้ ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแบรนด์
ส่วน Affiliate Marketing เป็นกลยุทธ์การตลาดที่ผูกพันธ์ระหว่าง “แบรนด์” และ “พันธมิตร” (Affiliates) หรือตัวแทนขายที่จะมาช่วยขายสินค้าของแบรนด์ ซึ่งสามารถเป็นใครก็ได้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนดังหรือมีผู้ติดตามหลักแสนหลักล้าน เพียงตัวแทนขายสามารถส่งผู้ซื้อมาให้แบรนด์โดยการใช้ Link หรือ Code พิเศษ และทำให้เกิดยอดขายได้ ตัวแทนขายก็จะได้รับค่า Commission ตามที่ตกลงไว้นั่นเอง
แบบไหนดีกว่า Influencer Marketing หรือ Affiliate Marketing มาดูข้อแตกต่างกัน!
1. วัตถุประสงค์ในการใช้งาน
Influencer Marketing: เหมาะกับการสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง รวมไปถึงการสร้างยอดขาย เพราะตัวอินฟลูที่เป็นผู้มีชื่อเสียง มีผู้ติดตามภักดีจำนวนมาก ไม่ว่าจะมาจากความนิยม การเป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือการสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้ผู้ติดตามมักจะเชื่อในคำแนะนำและความคิดเห็นของพวกเขามากกว่าโฆษณาของแบรนด์
Affiliate Marketing: เหมาะกับการเน้นสร้างยอดขาย โดยใช้พันธมิตรหรือตัวแทนขายจำนวนมากมาช่วยขายสินค้าให้แบรนด์ ยิ่งได้ตัวแทนขายที่มี Potential คือมีผู้ติดตามเยอะ เลือกสินค้าตรงกับความต้องการของผู้ติดตาม จะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ดี
2. การวัดผล
Influencer Marketing: วัดผลได้ยาก ว่าอินฟลูแต่ละคนช่วยสร้างอิทธิพลต่อผู้ติดตามมากน้อยแค่ไหน โดยผลลัพธ์อาจไม่ได้มาแค่ในรูปแบบยอดขาย หรือยอดติดตามแบรนด์เท่านั้น อาจมาในรูปแบบความรู้สึกเชิงบวกด้วยก็ได้
Affiliate Marketing: แบรนด์สามารถติดตามผลลัพธ์และวัดผลได้ชัดเจน ด้วยการสร้างลิงก์หรือโค้ดที่แตกต่างกันให้ตัวแทนขายแต่ละคน ทำให้สามารถติดตามได้ว่ายอดซื้อสินค้ามาจากใคร และมากน้อยแค่ไหน
3. ค่าใช้จ่าย
Influencer Marketing: มักมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า เพราะแบรนด์ต้องจ้างคนดัง ดารา หรือ อินฟลูที่มีผู้ติดตามจำนวนมากบนโซเชียลมาช่วยโปรโมตสินค้า โดยค่าตัวมักขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดตาม ความน่าเชื่อถือ หรือชื่อเสียงของแต่ละคน
Affiliate Marketing: เป็นการจ่ายค่าตอบแทนตามยอดการขายที่เกิดขึ้นจริง ไม่มีการคำนึงว่าจะเป็นอินฟลูเบอร์เล็กหรือใหญ่ หรือมีชื่อเสียงมากน้อยแค่ไหน ทำให้ค่าใช้จ่ายในกลยุทธ์นี้ต่ำกว่า
4. ความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย
Influencer Marketing: ทีมการตลาดจะต้องพิจารณาก่อนว่าอินฟลูคนไหนเหมาะสมกับตัวสินค้าหรือแบรนด์จริง ๆ ก่อนจ้าง เช่น ดูว่ามีความเกี่ยวข้องกับสินค้า หรือมีกลุ่มผู้ติดตามเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์หรือไม่ ดังนั้นจึงสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าที่โปรโมตจะถูกส่งไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้แน่นอน
Affiliate Marketing: เนื่องจากทุกคนสามารถทำ Affiliate ได้ เพียงแค่นำลิงก์หรือโค้ดไปแปะในคอนเทนต์ ดังนั้นก็อาจจะมีบ้างที่สินค้าของเราไม่ตอบโจทย์กับกลุ่มผู้ติดตามของตัวแทนขายคนนั้น ต้องขึ้นอยู่กับตัวแทนขายว่าจะสามารถเลือกสินค้าที่เหมาะสมได้มากแค่ไหน เพื่อให้คนซื้อสินค้าผ่านลิงก์และเพิ่มค่าตอบแทนให้กับเขา
สรุป Influencer Marketing vs Affiliate Marketing แบรนด์ควรเลือกใช้แบบไหน?
คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่แบรนด์ต้องการ หากต้องการสร้าง Awareness ในวงกว้าง สร้างความน่าเชื่อถือและยอดขาย การใช้ Influencer Marketing ก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็ต้องแลกมากับการใช้งบที่สูง เพราะการจะทำให้กลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จได้จำเป็นต้องจ้างอินฟลูหลาย ๆ คนมาช่วยโปรโมตสินค้า แต่ถ้าใครที่ยังมีงบจำกัด อยากเน้นไปที่การสร้าง Conversion เพิ่ม การทำ Affiliate Marketing ก็อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า แต่ทั้งนี้แบรนด์สามารถทำทั้ง 2 กลยุทธ์ไปพร้อมกันได้ถ้ามันทำให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast