คอนเทนต์ B2B อาจสงสัยว่าคอนเทนต์แบบนี้ทำยังไงได้บ้าง เพราะธุรกิจแบบ B2B หรือธุรกิจที่ทำการซื้อขายกับธุรกิจด้วยกันเอง จำเป็นต้องทำคอนเทนต์ที่สื่อสารให้แบรนด์มีความน่าเชื่อถือ ทำให้ลูกค้าสามารถไว้วางใจและยอมจ่ายเงินจำนวนมาก ๆ ได้ รวมทั้งรู้สึกคุ้มค่าที่จะเป็นคู่ค้ากับเราในระยะยาว
แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องทำคอนเทนต์แบบซีเรียส ๆ พูดถึงแต่ข้อมูลที่น่าเบื่ออย่างเดียวเสมอไป เพราะอย่าลืมว่าถึงแม้เราจะขายสินค้าให้กับธุรกิจ แต่สุดท้ายคนตัดสินใจก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี ซึ่งหมายความว่าพวกเขายังคงมีความรู้สึกอินร่วมกับเรื่องราวที่น่าสนใจได้อยู่ ดังนั้นความน่าเชื่อถือในที่นี้ไม่ใช่การเอาแต่ทำคอนเทนต์ที่ดูจริงจัง หยิบจับอะไรมาเล่นไม่ได้เลย เพียงแต่ถ้าเราจะเล่น เราก็ต้องเล่นให้ถูกจังหวะถูกที่ แต่ก่อนที่เราจะไปดูไอเดียการทำคอนเทนต์ ดิฉันอยากให้คุณผู้อ่านลองทำความเข้าใจเรื่องต่อไปนี้ดูก่อนค่ะ
คอนเทนต์ B2B กับ 5 ไอเดีย ขายของให้ธุรกิจด้วยกัน ทำคอนเทนต์แบบไหนดี?
ทำความเข้าใจ Sales Funnel เพราะกว่าจะมาเป็นลูกค้า ต้องผ่านมาแล้วหลายขั้นตอน
Sales Funnel เป็นการอธิบายกระบวนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เช่น การที่เราซื้อสินค้า A ไม่ใช่ว่าเราเห็นสินค้าตัวนี้แล้วซื้อเลยในทันที แต่เราจะมีการไปหาข้อมูลก่อน สินค้านี้ดีอย่างไร ดีกว่าคู่แข่งอย่างไร มีรีวิวไหม บลา ๆๆๆ แล้วค่อยซื้อ ยิ่งโดยเฉพาะกับการซื้อสินค้า/บริการแบบ B2B จะยิ่งต้องมีกระบวนการพิจารณา ปรึกษาหารือ และนัดคุยกับเซลล์หลายครั้งกว่าจะเกิดการตกลงทำสัญญาซื้อขาย ดังนั้นการทำคอนเทนต์ต่าง ๆ ออกมา เราก็ต้องทำให้ตอบโจทย์กับ Sales Funnel ขั้นต่าง ๆ เพื่อพัฒนาให้กลุ่มเป้าหมายไปยังขั้นที่สูงขึ้น โดยจะมี
- Awareness สร้างการรับรู้ โดยทำคอนเทนต์แล้วยิง Ad ในช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ได้กลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ เข้ามารู้จักเรา
- Interest ทำให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ ด้วยเรื่องราวที่ดึงดูด คุณสมบัติหรือประโยชน์ต่าง ๆ ที่คุณสามารถช่วยลูกค้าได้
- Consideration สร้างความต้องการด้วยการบอกประโยชน์ที่ Insight มากขึ้น มีคำยืนยันจากลูกค้าคนอื่น ๆ เพื่อการันตีคุณภาพ และเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- Action/Purchase ทำให้เกิดการซื้อโดยการกระตุ้นด้วยโปรโมชั่น ส่วนลด Free Trial เป็นต้น
เมื่อรู้แล้วว่าลูกค้ามีกระบวนการตัดสินใจซื้ออย่างไร และต้องสร้างคอนเทนต์แบบไหนให้ตอบโจทย์แต่ละ Funnel ต่อไปลองมาดูไอเดียทำคอนเทนต์กันบ้าง เป็นธุรกิจ B2B ก็มีอะไรให้เล่นได้
5 ไอเดีย คอนเทนต์ B2B อยากดึงดูดลูกค้าธุรกิจ ทำคอนเทนต์อะไรได้บ้าง?
ทำ Storytelling สร้างแบรนด์ให้น่าจดจำ
เคยไหมคะที่พอพูดชื่อแบรนด์หนึ่งขึ้นมา คุณจะสามารถพูดสโลแกนของแบรนด์นั้นออกมาได้ทันที หรือเมื่อพูดถึงโฆษณาตัวหนึ่ง คุณจะสามารถพูดบทเด่น ๆ ในโฆษณานั้นได้ ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่จดจำ ซึ่งทุก ๆ ธุรกิจจำเป็นต้องสร้างแบรนด์เพื่อให้เกิดภาพจำ เห็นถึงความแตกต่างกับแบรนด์คู่แข่ง อีกทั้งยังช่วยสร้างความรู้สึกบางอย่างให้กับลูกค้า และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ได้อีกด้วย โดยในส่วนของคอนเทนต์ก็สามารถทำได้ ซึ่งการทำ Storytelling ที่สื่อสารได้ดีที่สุดจะเป็นคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอ หรือจะเป็นบนโซเชียลมีเดียอย่างเช่น ทำเป็นอัลบั้มรูปใน Facebook ทำเป็นบทความลงใน Website หรือ Blockdit หรือช่องทางอื่น ๆ ที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้งานอยู่เยอะๆ
สร้าง คอนเทนต์ B2B ที่มีคุณค่าในรูปแบบของบทความ SEO
เป็นคอนเทนต์อีกหนึ่งรูปแบบที่สร้างประโยชน์ให้กับธุรกิจอย่างมาก เพราะการทำบทความ SEO ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพียงแค่สร้างคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ออกมาอย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยตอบปัญหาให้กับผู้อ่านได้ ไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์ที่ให้ความรู้อย่างเดียว หรือให้ความรู้แล้วเนียนขายของ เมื่อกลุ่มเป้าหมายเสิร์ชมาเจอเว็บไซต์ของเราบ่อย ๆ ลองเปิดเข้ามาอ่านและได้ความรู้กลับไป จะช่วยสร้างทั้งความน่าเชื่อถือและการจดจำแบรนด์ได้ ทั้งนี้ควรเก็บทุก ๆ Keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและสิ่งที่กลุ่มเป้าหมายมักจะเสิร์ชหาใน Google ทำแบบนี้ก็จะยิ่งทำให้พวกเขาเสิร์ชเรื่องอะไรก็มาเจอแต่บทความของแบรนด์เราค่ะ นอกจากนี้คุณอาจรวบรวมบทความเหล่านี้ทำเป็น e-book ให้กลุ่มเป้าหมายโหลดไปอ่านฟรี แต่ต้องแลกกับการให้ข้อมูลส่วนตัวที่มีประโยชน์กับเรา แบบนี้จะช่วยให้เรามี Data มากขึ้นและนำไปคัดกรองหา Lead ได้อีกด้วย
คอนเทนต์ B2B ก็เล่นกับกระแสได้
กับธุรกิจ B2C เราจะเห็นแบรนด์ต่าง ๆ มากมายออกมาร่วมเล่นคอนเทนต์ที่กำลังเป็นกระแสในโซเชียล ซึ่งมักจะออกแนว Parody หรือเป็นมุกตลก แต่ใช่ว่าธุรกิจ B2B จะทำไม่ได้ เพียงแต่ต้องมีการคัดกรองว่ากระแสหรือเทรนด์ไหนที่เหมาะกับแบรนด์ เมื่อเล่นแล้วไม่ทำให้เกิดภาพลักษณ์ด้านลบ อีกทั้งต้องอาศัยไหวพริบ คิดมุกคมๆ และเล่นอย่างสร้างสรรค์ ให้คนอ่านหรือคนดูรู้สึกร่วมด้วยและอยากที่จะมี Engage แล้วการทำคอนเทนต์กระแสจะมีประโยชน์ต่อคุณยังไง? เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้าง Brand Awareness ดึงดูดคนใหม่ ๆ ให้เข้ามารู้จักแบรนด์ เนื่องจากกระแสเหล่านี้ใคร ๆ ก็รู้จัก และพวกเขาก็จะอยากดูว่าใครเล่นกับกระแสนี้ยังไงบ้าง เหมือนกระแส ธี่หยด ที่กำลังไวรอลอยู่ในตอนนี้
คอนเทนต์ที่คอลแลปกับแบรนด์อื่น หรือแบรนด์พาร์ทเนอร์
คุณคงเคยเห็นข่าวที่แบรนด์ A จับมือกับแบรนด์ B สร้างสินค้าพิเศษขึ้นมาใหม่ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และทำให้เป็นที่พูดถึงมากบ้างน้อยบ้าง แต่วิธีนี้ก็นับเป็นอีกหนึ่งวิธีทำคอนเทนต์ที่ดี ที่คุณจะได้แชร์ Audience กัน ซึ่งอาจทำให้ได้ลูกค้าหรือ Lead ใหม่ ๆ เข้ามา แถมยังได้ Traffic เพิ่มจากการแชร์ลิงก์ข่าวจากเว็บไซต์ไปยังโซเชียลมีเดียช่องทางต่าง ๆ ของกันและกันอีกด้วย นอกจากนี้ การจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กัน มีสินค้าหรือบริการร่วมกันที่ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้ธุรกิจมี Power และมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น
ทำคอนเทนต์ Testimonial พลังแห่งการบอกปากต่อปาก
สุดท้าย เป็นคอนเทนต์อีกประเภทที่ถือว่าเป็นการป้ายยาที่ทรงพลังอย่างมาก นั่นก็คือการทำ Testimonial หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือเป็นการรีวิวจากผู้ใช้งานจริงแบบที่ธุรกิจ B2C ทำนั่นแหล่ะ และคำพูดจากผู้ใช้งานจริงย่อมมีพลังมากกว่าคำโฆษณาร้อยแปดจากแบรนด์เสมอ
การทำคอนเทนต์ประเภทนี้ ส่วนใหญ่มักจะทำออกมาในรูปแบบวิดีโอ โดยจะให้ลูกค้าเก่าที่ใช้สินค้า/บริการของเรา ออกมาบอกเล่าถึงความประทับใจ ชอบอะไรใน Product ของเรา ช่วยแก้ปัญหาอะไรลูกค้าได้บ้าง เป็นต้น และคำบอกเล่าเหล่านี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ การันตีคุณภาพ และดึงดูดให้คนที่ยังเป็น Prospect อยู่ ยอมเสียเงินซื้อสินค้า/บริการของเรา
สรุป
คอนเทนต์ B2B ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การทำโพสต์ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อหา และมีลูกเล่นไม่ได้ เพราะจะทำให้แบรนด์ดูไม่น่าเชื่อถือ คุณยังสามารถทำคอนเทนต์ที่โน้มน้าวให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกได้อยู่ เพราะสุดท้ายคนที่ตัดสินใจว่าจะทำสัญญาซื้อขายกับคุณก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี โดยการทำคอนเทนต์ให้ตอบโจทย์ทุก Sales Funnel แล้วอาจเพิ่มความน่าสนใจในแบรนด์ด้วยการทำ Storytelling จับกระแสมาทำคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์ อีกทั้งเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ด้วยการทำบทความให้ความรู้ คอนเทนต์ที่คอลแลปกับแบรนด์อื่น และการ Testimonial
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast