ธุรกิจ Car Detailing เป็นหนึ่งในธุรกิจบริการที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย เพราะคนไทยนิยมซื้อรถยนต์ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสะดวกสบายในการเดินทางหรือความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งสิ่งนี้เปิดโอกาสให้ธุรกิจ Car Detailing เติบโตตามไปด้วย เมื่อมีรถยนต์จำนวนมาก ความต้องการในการดูแลรักษาสภาพรถก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ในขณะเดียวกันคู่แข่งของเราก็เพิ่มขึ้นด้วย แล้วจะทำอย่างไรให้เรากลายเป็นตัวเลือกที่ลูกค้าไว้วางใจ วันนี้ Digital Break Time มีเคล็ดลับและกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จมาฝาก
เคล็ดลับสร้างความสำเร็จในธุรกิจ Car Detailing
การทำ ธุรกิจ Car Detailing แตกต่างกับธุรกิจขายรถยนต์ อย่างไร?
ธุรกิจ คาร์ดีเทลลิ่ง และธุรกิจขายรถยนต์ แม้จะเกี่ยวข้องกับรถยนต์เหมือนกันทั้งคู่ แต่ทั้งสองธุรกิจมีลักษณะและเป้าหมายที่แตกต่างกัน ดังนั้นกลุ่มลูกค้าหรือกลยุทธ์ในการทำธุรกิจย่อมแตกต่างกัน
- ลักษณะของบริการ
ธุรกิจขายรถยนต์เน้นการปิดการขายสินค้าชิ้นใหญ่ที่มีมูลค่าสูง ในขณะที่ Car Detailing เน้นการให้บริการที่ช่วยดูแลรถยนต์ลูกค้าให้อยู่ในสภาพดี สวยงามเหมือนใหม่ เช่น การล้างรถ การเคลือบแก้ว/เคลือบเซรามิก การติดฟิล์ม และอื่น ๆ
- ความสัมพันธ์กับลูกค้า
Car Detailing ต้องการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวเพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำ และมักใช้กลยุทธ์การตลาดที่เน้นการรักษาฐานลูกค้าเดิม ในขณะที่ธุรกิจขายรถยนต์ แม้จะเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวเหมือนกัน แต่เป็นในรูปแบบบริการหลังการขาย สิ่งที่มุ่งเน้นจึงเป็นการหาลูกค้าใหม่และปิดการขายให้ได้
- กลุ่มเป้าหมาย
Car Detailing กลุ่มเป้าหมายหลักคือเจ้าของรถยนต์ทุกประเภทที่ต้องการรักษารถให้อยู่ในสภาพดีและดูสวยงามตลอดเวลา ซึ่งลูกค้าสามารถมาใช้บริการซ้ำได้บ่อย ๆ ส่วนกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจขายรถยนต์คือ ผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ใหม่ โอกาสในการซื้อซ้ำเกิดขึ้นได้ไม่ถี่เท่ากับ Car Detailing
ธุรกิจ Car Detailing ทำ Digital Marketing อย่างไรดี?
เลือก Service ที่คุ้มค่ากับการทำการตลาด
การทำ Digital Marketing สำหรับ ธุรกิจ คาร์ดีเทลลิ่ง ในไทย เราจำเป็นต้องใช้ Service นำเพื่อเป็นการดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ในขณะเดียวกันก็ควรเป็นบริการที่มีมูลค่าสูงพอในการลงทุนทำการตลาดเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี แล้วบริการแบบไหนที่จะเข้าข่ายทั้ง 2 ข้อนี้ เราแนะนำเป็น การเคลือบแก้ว หรือการเคลือบเซรามิก ที่มีราคาสูง เมื่อได้ Lead และปิดการขายได้ ผลตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน
ส่วนบริการที่ไม่แนะนำให้ใช้ในการทำการตลาดก็คือ บริการล้างรถแบบทั่วไป เพราะบริการนี้มูลค่าต่ำกว่าบริการอื่น ๆ ลองคิดดูว่า ถ้าจะทำการตลาดระหว่างบริการล้างรถ กับบริการเคลือบเซรามิก ใช้ต้นทุนในการทำการตลาดไม่ต่างกันมาก แต่รายได้ที่เราจะได้กลับมาต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
เพิ่มเติม เพื่อป้องกันไม่ให้ Lead หลุดมือไป เราแนะนำว่าควรมีระบบ “มัดจำเพื่อจองโปรโมชั่น” เป็นการให้ลูกค้าชำระค่ามัดจำก่อนเล็กน้อย เพื่อลดการนัดจองแล้วไม่มา
ซื้อโฆษณาแบบทักข้อความ
โฆษณาแบบทักข้อความคือการสร้างโฆษณาที่กระตุ้นให้ลูกค้าคลิกเพื่อส่งข้อความเข้ามาหาเราในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook Messenger, Instagram Direct Message (DM) หรือ LINE OA โดยเมื่อลูกค้าสนใจโฆษณาตัวนี้ของเราแล้วอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการหรือโปรโมชั่นก็สามารถคลิกเพื่อส่งข้อความมาได้ทันที เป็นการอำนวยความสะดวกทำให้ลูกค้าไม่ลังเลที่จะทักมาหาเรา
เคล็ดลับ:
- เตรียมแอดมินหรือ Chatbot เพื่อให้ตอบคำถามลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว
- เน้นปิดการขายหรือจองโปรโมชั่นระหว่างการสนทนา
- ใช้ข้อความโฆษณาที่กระชับ ชัดเจน และมี Call-to-Action เช่น “สนใจเคลือบแก้ว คลิกเพื่อสอบถามเลย!”
ซื้อโฆษณา Search ใน Google Ads
โฆษณา Search Ads บน Google เป็นการแสดงโฆษณาในผลการค้นหาของ Google เมื่อลูกค้าค้นหาคำที่เกี่ยวข้อง เช่น “เคลือบแก้วใกล้ฉัน” หรือ “บริการ Car Detailing” โฆษณานี้ก็จะแสดงขึ้นมาในตำแหน่งบนสุดของผลการค้นหา ช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเห็นธุรกิจของคุณก่อนคู่แข่ง
นอกจากนี้ เราแนะนำว่าควรเชื่อมต่อโฆษณากับ Google Business Profile เพื่อให้ลูกค้าเห็นเราในตำแหน่งบนสุดในหน้า Google Maps ด้วย เพราะบางทีจะมีลูกค้าที่ต้องการใช้บริการเร่งด่วนหรือกำลังเลือกร้านเพื่อมาใช้บริการ คนกลุ่มนี้มีโอกาสสูงที่จะเลือกใช้บริการกับร้านที่อยู่อันดับแรก ๆ ในทันที
ซื้อโฆษณา Performance Max ของ Google Ads
Performance Max เป็นรูปแบบโฆษณาที่ใช้เทคโนโลยี AI ของ Google เพื่อช่วยให้โฆษณาแสดงผลในหลายช่องทางพร้อมกัน เช่น YouTube, Gmail, Google Search, Google Display Network และ Google Maps จุดเด่นของโฆษณานี้คือการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายและครอบคลุมมากขึ้นในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการขยายฐานลูกค้าในพื้นที่ท้องถิ่น (Local) สามารถเพิ่มการมองเห็นของร้านและนำทางลูกค้ามาที่ร้านได้ง่ายขึ้น
กระตุ้นให้ลูกค้ารีวิวใน Google Maps และ Facebook
รีวิวเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ทำให้ลูกค้าไว้วางใจในการมาใช้บริการกับเรามากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อบริการเหล่านั้นมีมูลค่าสูง ดังนั้นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสำคัญคือการส่งเสริมให้ลูกค้าเขียนรีวิวให้ร้าน ไม่ว่าจะเป็นรีวิวทาง Google Maps หรือ Facebook Page โดยอาจกระตุ้นด้วยการมอบส่วนลดพิเศษเพื่อให้ลูกค้าอยากรีวิวให้กับเรามากยิ่งขึ้น ซึ่งรีวิวเชิงบวกจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและดึงดูดลูกค้าใหม่มาให้เราได้มากขึ้น
สรุป เคล็ดลับความสำเร็จของ ธุรกิจ Car Detailing
ธุรกิจ คาร์ดีเทลลิ่ง มีศักยภาพในการเติบโตในประเทศไทย โดยเฉพาะหากใช้กลยุทธ์การทำ Digital Marketing ที่เหมาะสม เช่น เน้นทำการตลาดในบริการที่มีมูลค่าสูงเพื่อให้ได้ผลตอบรับที่คุ้มค่า และทำในช่องทางยอดนิยมอย่างเช่น Google, Facebook, Instagram, และ LINE
อีกหัวใจสำคัญของธุรกิจคาร์ดีเทลลิ่ง คือการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาวเพื่อให้เกิดการมาซื้อซ้ำ ในขณะเดียวกันก็หาลูกค้าใหม่ด้วยวิธีทั้ง 5 ข้อที่เราแนะนำในบทความนี้ และความรู้ที่เรานำมาแบ่งปันในวันนี้หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่าน ช่วยให้คุณพบหนทางในการพัฒนาธุรกิจให้ Step up ไปอีกขั้น
ติดต่อ Digital Break Time เพื่อรับบริการ Digital Marketing จากเรา
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
