การตลาดออนไลน์ อสังหาริมทรัพย์ สำหรับ Developer ขนาดเล็ก Digital Marketing จะเริ่มอย่างไรดี สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แน่นอนว่าเป็นธุรกิจที่คนภายนอกมองว่ามักจะต้องเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ก็มักจะมีผู้พัฒนาขนาดเล็ก หรือรายย่อย รวมไปถึงผู้พัฒนาท้องถิ่นอยู่ด้วย
ซึ่งในบทความนี้เราจะกล่าวถึงผู้ที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็กเป็นหลัก ว่าจะทำการตลาดออนไลน์ Digital Marketing จะโฟกัสที่ตรงไหนดี ควรจะเริ่มอย่างไร ทาง Digital Break Time ที่ได้ทำการตลาดให้อสังหาริมทรัพย์มาบ้าง เลยจะมาเปิดข้อแนะนำตรงนี้ให้อ่านกัน
การตลาดออนไลน์ อสังหาริมทรัพย์ สำหรับ Developer เจ้าเล็ก
- พุ่งเป้าไปที่ Digital Marketing ที่ทำให้เกิดการขายหรือ Lead ได้ก่อน
- คุณภาพของ Lead ก็ต้องมาควบคู่กัน แต่จำนวนก็สำคัญพอกัน
- ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ของตัวเอง อย่าละเลยตรงจุดนี้
- ปักหมุด Google Maps ให้แม่นยำ พร้อมทั้งใส่ข้อมูลใน Google Maps ให้ครบ
- จ้าง Influencer ไว้บ้าง เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้ออยู่ไม่น้อย
- สรุป การตลาดออนไลน์ อสังหาริมทรัพย์ สำหรับเจ้าเล็ก Digital Marketing เริ่มอย่างไรดี
พุ่งเป้าไปที่ Digital Marketing ที่ทำให้เกิดการขายหรือ Lead ได้ก่อน
สิ่งที่สำคัญของการทำ Digital Marketing กับอสังหาริมทรัพย์ขนาดเล็ก คือการมุ่งเน้นไปที่โฟกัสให้เกิด Lead หรือคนติดต่อเพื่อเข้ามาชมบ้าน จองบ้าน และซื้อบ้านก่อน (ทั้งนี้รวมถึงคอนโดด้วย) เพราะฉะนั้นควรมุ่งเน้น Digital Marketing สร้างแผนและใช้เครื่องมือที่เน้นเรื่องของ Lead คนที่มาติดต่อ ลงทะเบียน หรือส่งข้อความเป็นหลัก เพราะอย่าลืมว่าคนที่เป็น Lead ก็จะสามารถพัฒนาเป็นคนที่มาชมบ้าน และอาจมาเป็นที่ที่จองบ้านได้
แต่ที่กล่าวมานี้ไม่ใช่ว่าการทำโฆษณาที่ให้เกิดการ Awareness ไม่สำคัญ แต่เป็นสิ่งที่สำคัญรองลงมา เมื่อเราได้ Lead เป็นที่น่าพึงพอใจในแต่ละเดือนแล้ว ค่อยขยายแผนมาทำการตลาดเรื่อง Awareness ก็ยังไม่สาย และค่อยจัดสรรงบ Digital Marketing มาทางฝั่ง Awareness ตามแผนที่เราวางไว้ก็ยังได้
คุณภาพของ Lead ก็ต้องมาควบคู่กัน แต่จำนวนก็สำคัญพอกัน
เท่าที่เคยทำการตลาดให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์มา หลายเจ้ามักจะมองว่าอยากได้คุณภาพของ Lead ที่มาพร้อมเลย เช่นลงทะเบียนแล้ว เซลล์โทรตาม ก็มาดูบ้านแล้วมาจองเลย แต่ในความเป็นจริงแล้ว การที่เราจะคัดคุณภาพของ Lead ให้ได้แบบนั้นเป็นไปได้ยาก และต้องใช้เวลา ซึ่งการที่จะคัด Lead ให้ได้แบบนั้นยิ่งมีคำถามคัดกรองมาก หรือลงทะเบียนยาก ทำให้ Lead มีจำนวนน้อยลง และ Cost per Lead จะสูงขึ้นแบบน่าใจหาย ทำให้จำนวนออกมาไม่เป็นที่น่าพึงพอใจนัก
แนะนำว่าให้เน้นจำนวนไว้ก่อน เพราะยิ่งมีจำนวน Lead มาก อย่างน้อยแสดงว่ามีคนสนใจ เน้นลงทะเบียนแบบง่าย ๆ ติดต่อง่าย คุณลองดู Developer เจ้าใหญ่ ๆ เว็บไซต์ของเขาลงทะเบียนง่ายมาก ฟอร์มอยู่ด้านบน ลงทะเบียนด้วยการล็อกอินผ่าน Google หรือ Facebook ได้ง่ายมาก ทำให้จำนวน Lead สูง Cost per Lead ต่ำ ซึ่งเราค่อยมาคัดคุณภาพของ Lead เราภายหลังได้จากการโทรสอบถาม หรือการส่งโปรโมชั่นเพิ่มเติมผ่านทางอีเมล SMS หรือการทำโฆษณาแบบ Remarketing ก็ยังได้
ให้ความสำคัญกับเว็บไซต์ของตัวเอง อย่าละเลยตรงจุดนี้
สำหรับ Developer หน้าใหม่ มักจะให้ความสำคัญกับเว็บไซต์น้อยกว่าช่องทาง Social Media ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในเบื้องต้น เพราะ Social Media มักจะให้ Lead และสามารถติดต่อกับคนได้มากกว่า แต่อย่าลืมว่าอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว เป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูง ในชีวิตของคนหนึ่งคนก็จะสามารถซื้อได้ไม่กี่ครั้ง ทำให้หลายคนต้องหาข้อมูลก่อน โดยเว็บไซต์ของแบรนด์ เป็นหนึ่งในสามของช่องทางหลักที่ผู้บริโภคใช้ค้นคว้าหาข้อมูลก่อนซื้ออสังหาริมทรัพย์
ดังนั้นจึงควรสร้างเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลครบ ไม่ว่าจะเป็นตัวโครงการ โลเคชัน เลย์เอาท์ห้อง รูปแบบบ้าน ราคาเริ่มต้น รวมไปถึงข้อมูลการรีวิวต่าง ๆ และทางที่ดีควรจะมีแบบฟอร์มให้ลงทะเบียนสำหรับผู้ที่สนใจด้วย และเว็บไซต์ยังจำเป็นมาก ๆ กับการโฆษณาในรูปแบบอื่นเช่น Google Ads ส่วนของ Search, GDN และอื่น ๆ อีก
ปักหมุด Google Maps ให้แม่นยำ พร้อมทั้งใส่ข้อมูลใน Google Maps ให้ครบ
เป็นอีกหนึ่งลิสต์ที่ควรจะต้องทำไว้เลย ห้ามลืม เพราะการปักหมุดโครงการใน Google Maps เท่ากับจะช่วยเป็นเครื่องหมายนำทางให้กับคนที่จะมาเยี่ยมชมโครงการได้ถูกต้อง และยังสามารถเพิ่มข้อมูลต่าง ๆ ได้อีกไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ (แน่นอนว่าที่เราบอกในหัวข้อที่แล้ว) รวมไปถึงรูปภาพต่าง ๆ จากทางเราเอง หรือจะเป็นรีวิวกับคนที่มาเยี่ยมชมโครงการ
ยังไม่เพียงแค่นั้น Google Maps ยังมีระบบหลังบ้านที่สามารถดูได้ว่ามีคนเห็นปักหมุดนี้เท่าไร มีการนำทางมากี่ครั้ง สามารถวัดความนิยมได้ จะเหนือไปกว่านั้นอีกคือการเชื่อมต่อ Google Maps และ Google Ads เข้าด้วยกัน ทำให้เมื่อแสดงโฆษณาใน Google Ads แล้วก็ยังดึงแผนที่ปักหมุด Google Maps มาด้วยทำให้ผู้ที่เห็นโฆษณารู้ว่าโครงการอยู่ที่ไหน ทำเลเป็นอย่างไรได้ง่ายขึ้น
จ้าง Influencer ไว้บ้าง เพราะมีผลต่อการตัดสินใจของผู้ซื้ออยู่ไม่น้อย
อย่าละเลย Influencer หรือ KOL ของด้านการรีวิวอสังหาริมทรัพย์เลยทีเดียว เพราะนอกเหนือจากการสร้าง Awareness ได้แล้วนั้น คอนเทนต์ที่เป็นการรีวิวจากทางอินฟลูเอนเซอร์มีข้อดีที่เหนือกว่าแบรนด์รีวิวเอง นั่นคือสามารถโน้มน้าวได้ง่ายกว่าคอนเทนต์จากแบรนด์เอง เพราะ Influencer หรือ KOL ที่เน้นด้านอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะมักจะมีข้อมูลที่แน่นมาก ช่วยดึงความสนใจได้สูง ถ้ามีงบการตลาดบ้าง แนะนำว่าอย่างน้อยต้องให้ Influencer เข้ามามีบทบาทหรือช่วยเราได้
สรุป การตลาดออนไลน์ อสังหาริมทรัพย์ สำหรับเจ้าเล็ก Digital Marketing เริ่มอย่างไรดี
เอาจริง ๆ สิ่งที่จะให้เริ่มมากที่สุดคือสิ่งที่เน้นโฆษณาที่ก่อให้เกิด Lead คนติดต่อ คนลงทะเบียนเป็นหลัก และอย่าลืมพื้นฐานหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Google Maps เว็บไซต์ของเราเอง และ Influencer ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร แต่ทว่าเป็นสิ่งที่ Developer ขนาดเล็กหลายเจ้ามักจะทำไม่ค่อยครบ ขาดบางอย่าง ทำให้พลาดโอกาสที่จะเพิ่ม Lead ได้ แต่ถ้าทำได้ครบ 5 อย่างนี้ จะช่วยให้เก็บ Lead ได้มากขึ้นเลยทีเดียว
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time