จุดเด่น GMV Max ใน TikTok สำหรับใครที่กำลังจะเริ่มทำโฆษณาในติ๊กต่อก โดยเฉพาะ GMV Max เพื่อที่จะหวังให้สินค้าของเราขายดีขึ้น ก่อนที่จะทำเราต้องมาเรียนรู้จุดเด่นของการทำโฆษณา GMV Max ใน TikTok กันก่อน
ต้องบอกก่อนว่าโดยปกติผู้เขียนเองนั้นทำโฆษณาบน TikTok Ads ที่เน้นเรื่องของการซื้อขายบน TikTok Shop มาก่อน ไม่ว่าจะเป็น VSA, PSA ก็ตาม แต่ในเมื่อ โฆษณา GMV Max เป็นโฆษณาแบบใหม่ ที่ทาง TikTok กำลังผลักดันมากขึ้น ก็เลยมาใช้งานโฆษณา GMV Max ใน TikTok มากขึ้น ซึ่งได้ใช้งานมาสักระยะหนึ่งแล้ว และได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างออกมาดีเลยทีเดียว เป็นที่น่าพึงพอใจ เลยอยากจะมาแชร์ จุดเด่น GMV Max ใน TikTok ให้คนที่กำลังจะเริ่มทำโฆษณา หรือเริ่มทำไปแล้วมาให้ทราบกัน ซึ่งบทความนี้จะพูดถึงในส่วนของ GMV Max ใน TikTok แบบโฆษณาปกติเท่านั้น ส่วน GMV Max Live จะขอไว้เป็นบทความในตอนต่อๆ ไป
จุดเด่น GMV Max ใน TikTok มีอะไรบ้าง?
- GMV Max จะนำส่งโฆษณาสินค้าที่เราเลือกไว้ ทั้งแบบที่ติดตะกร้าสินค้า และการโฆษณาแบบ Product Ads ใน TikTok Shop ร่วมกัน
- ROI ≠ ROAS โดย ROI จะคำนวณรายได้ GMV จากสินค้านั้นทั้งหมดมาจากทุกช่องทาง
- ยังสามารถเลือกวิดีโอการทำโฆษณาได้เอง จากร้านของเราได้อยู่
- วิดีโอไหนปัง ทำ Performance ได้ดี ก็เลือกบูสต์เป็นรายวิดีโอได้ด้วย
- ใช้งานง่ายกว่าเดิม เพราะใช้ใน TikTok Seller Center ก็ได้ หรือ TikTok Ads ก็ทำได้
- สรุป จุดเด่น GMV Max ใน TikTok
GMV Max จะนำส่งโฆษณาสินค้าที่เราเลือกไว้ ทั้งแบบที่ติดตะกร้าสินค้า และการโฆษณาแบบ Product Ads ใน TikTok Shop ร่วมกัน
โฆษณาแบบ GMV Max ของ TikTok นั้น จุดเด่นแรกเป็นการนำส่งโฆษณาสินค้าที่เราเลือกไว้ไปในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น
- การโฆษณาใน TikTok Shop ส่วนที่เป็น Products Card
ทั้งในแบบ Search ที่ต้องค้นหาก่อน และแบบ Discovery ที่โชว์ในหน้า TikTok Shop เลย เรียกว่าเป็นโฆษณาแบบ PSA นั่นเอง ซึ่งเราไม่จำเป็นต้องใส่คีย์เวิร์ดเลย - การโฆษณารูปแบบวิดีโอที่ติดตะกร้าสินค้าของเรา จาก TikTok Account เราและ Creator อื่น
เป็นการส่งโฆษณาที่เน้นวิดีโอเป็นหลัก โดยเป็นวิดีโอที่ติดตะกร้าสินค้าของเราที่ทำโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอแอคเคานท์ของเราเอง ติดตะกร้าสินค้าของเราเอง หรือเป็นวิดีโอของของเหล่า Creator ต่าง ๆ ที่ทำ Affiliate Marketing แล้วติดตะกร้าสินค้าของเราไว้ (ต้องมีการยอมรับการโฆษณาด้วย หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าติดตะกร้าแดงนั่นเอง) ซึ่งการนำส่งของวิดีโอ ถ้ามีจำนวนมาก ก็จะนำเวียนกันส่งสลับกันไป แล้วขึ้นอยู่กับ Performance ด้วย
ซึ่งจากที่ทำโฆษณา GMV Max มาสักพัก ก็จะทำให้รู้ว่าส่วนมากการซื้อ ก็จะยังมาจากส่วนที่เป็นโฆษณาบน Products Card และวิดีโอก็ตามมาติด ๆ (ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าด้วย) ส่วนวิดีโอของ Creator ต่าง ๆ ฏ้นำส่งได้ค่อนข้างดี แต่เท่าที่สังเกต จะเห็นเลยว่าระบบจะนำส่งคลิปที่ขายสินค้าได้มากขึ้น โดยดูจากยอด Impression และยอดคลิกโฆษณา ที่มีตัวเลขสูงอย่างเห็นได้ชัด ครีเอเตอร์ไหนที่ทำให้ขายสินค้าได้ และยอมรับการโฆษณา ก็จะมีแต้มต่อไม่น้อย
ROI ≠ ROAS โดย ROI จะคำนวณรายได้ GMV จากสินค้านั้นทั้งหมดมาจากทุกช่องทาง

โฆษณาแบบ GMV Max ใน TikTok มีดัชนีชี้วัดความคุ้มค่าในการทำโฆษณาต่างออกไปจากใน TikTok Ads นั่นคือการวัดความคุ้มค่า จะใช้ ROI แทน ROAS
ซึ่ง ROI ใน GMV Max ย่อมาจาก Return on Investment จะเป็นตัวเลขที่รวมการขายสินค้า (ที่เราเลือกไว้ในการทำ GMV Max) รวมมูลค่าการขายจาก Organic, Paid และ Affiliate แต่ไม่รวมจาก Live แล้วนำมาหารด้วยค่าโฆษณาของ GMV Max ซึ่งจะต่างจาก ROAS ค่อนข้างมาก เพราะ ROAS คือรายได้ที่มาจากโฆษณา แล้วหารด้วยค่าโฆษณา
ดังนั้นถ้าเราย้ายการทำโฆษณา PSA, VSA ใน TikTok Ads มานั้น แล้วดูที่ ROAS มาก่อน พอมาทำโฆษณาด้วย GMV Max ใน TikTok แล้วต้องมาดู ROI แทน ซึ่งโดยปกติแล้ว ROI อย่างน้อยก็ควรที่จะต้องมากกว่า ROAS ที่เราเคยทำมา เพราะว่ารายได้นั้นนับหลายช่องทาง (ซึ่งมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ แต่ถ้ามาทำโฆษณา GMV Max แล้วได้ ROI น้อยกว่า ROAS ที่เคยทำ ก็อาจจะต้องมาพิจารณากันแล้วว่าเกิดจากอะไร)
ยังสามารถเลือกวิดีโอการทำโฆษณาได้เอง จากร้านของเราได้อยู่

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ว่าโฆษณา GMV Max นั้น เราสามารถทำโฆษณาแบบวิดีโอได้อยู่ โดยเราสามารถสร้างโฆษณาจากวิดีโอของร้านเราได้ และเลือกสินค้าที่จะติดตะกร้าด้วยได้เช่นกัน โดยการทำโฆษณาแบบ GMV Max นั้นเราสามารถใช้งานวิดีโอที่เราต้องการเองได้ โดยขอแยกวิธีการตั้งค่าการเลือกใช้งานจาก GMV Max เป็น 2 แบบ
- ให้เลือกวิดีโอการทำโฆษณาอัตโนมัติ (สามารถเพิ่มวิดีโออื่นเข้าไปได้)
ส่วนตัวแนะนำให้เลือกแบบนี้เพราะจะนำวิดีโอที่ติดตะกร้าสินค้าของเราที่เลือกไว้ นำส่งโฆษณาออกไปได้ทั้งหมด โดยที่เราไม่ต้องมาเลือกทีละวิดีโอเอง แต่เราก็สามารถเพิ่มวิดีโอของเราไปได้ด้วยเช่นกัน โดยเมื่อขณะที่สร้างแคมเปญ GMV Max > เลือกที่ Manage creatives > Customized posts > เลือกสินค้าที่เราต้องการ แล้วเลือกวิดีโอที่ต้องการทำไปใช้กับสินค้านั้น ๆ เราสามารถใช้วิดีโอเดิม เพื่อเลือกคนละสินค้าก็ได้ - เลือกวิดีโอด้วยตัวเอง
การเลือกวิดีโอด้วยตัวเอง จะเหมาะกับคนที่ต้องการใช้วิดีโอเป็นบางชิ้นเท่านั้น หรือเลือกเฉพาะบางครีเอเตอร์ บางวิดีโอก็ได้ และยังสามารถเลือกเพิ่มวิดีโอของเราไปได้เช่นกัน โดยเมื่อขณะที่สร้างแคมเปญ GMV Max > เลือกที่ Manage creatives > Switch to Manual > Customized posts > เลือกสินค้าที่เราต้องการ แล้วเลือกวิดีโอที่ต้องการทำไปใช้กับสินค้านั้น ได้เหมือนกับการเลือกวิดีโอแบบอัตโนมัติเลย
วิดีโอไหนปัง ทำ Performance ได้ดี ก็เลือกบูสต์เป็นรายวิดีโอได้ด้วย

พอเราทำโฆษณา GMV Max ใน TikTok ไปสักระยะ พอมาดูผลลัพธ์โฆษณา ก็อาจจะพบได้ว่าบางวิดีโอทำงานดีมาก สามารถสร้าง GMV รายได้ได้สูง แต่ก็อาจจะพบเจอกับปัญหาว่า ถ้าเราเพิ่มเงิน Daily Budget ที่แคมเปญนั้น เงินอาจจะไม่ได้ลงที่วิดีโอนี้ อาจไปลงที่วิดีโออื่นได้ ระบบของ TikTok นั้นก็เข้าใจและสามารถแก้ไปปัญหานี้ได้ ด้วยการเราสามารถใช้เงินลงไปกับวิดีโอครีเอทีฟชิ้นงานแต่ละชิ้นได้เลย เป็น Daily Budget ที่ต้องการมุ่งเน้นโฆษณาเฉพาะวิดีโอนี้เท่านั้น และยังตั้งเวลาให้โฆษณาจบได้อีกด้วย
วิธีการทำคือ
- เลือกแคมเปญที่เราสร้างไว้แล้ว
- คอลัมน์ Action เลือกที่ View Details ของแคมเปญที่เราต้องการ
- จะอยู่ที่หน้า Product ดู คอลัมน์ Action เลือกที่ View Details ของสินค้าที่เราต้องการ
- เลื่อนหาวิดีโอ หรือครีเอทีฟชิ้นงานที่คิดว่าดี จะทำการเพิ่มเงินต่อวัน ดูที่ Creative Boost เลือก Set Up
- ใส่จำนวนเงิน Daily Budget ที่เราต้องการได้เลย และสามารถเลือกเวลาวันจบได้ด้วย
แต่ก็ต้องระมัดระวังนิดนึง เนื่องจากเป็นการเพิ่มเงินที่ Creative ชิ้นงานวิดีโอโดยตรง จะไม่เกี่ยวกับ Daily Budget ในแคมเปญ เช่น ถ้าเราตั้งค่าจำนวนเงินโฆษณาที่ 1 แคมเปญ 500 บาทต่อวัน และมีวิดีโอ 2 วิดีโอที่ต้องการลงเงินโดยตรง วิดีโอละ 100 บาทต่อวัน นั่นหมายความว่าคุณจะต้องใช้เงินวันละ 700 บาทเลยทีเดียว ถ้าทำมาก ๆ งบอาจะบานปลายก็ได้
ใช้งานง่ายกว่าเดิม เพราะใช้ใน TikTok Seller Center ก็ได้ หรือ TikTok Ads ก็ทำได้
เรื่องของความใช้งานง่ายของ GMV Max บน TikTok นั้นขึ้นชื่อว่าทำได้ง่ายอยู่แล้ว เพียงแค่ว่าเป็นรูปแบบแคมเปญ แล้วเลือกสินค้าที่ต้องการทำโฆษณา (จะเลือกทั้งร้านเลยก็ยังได้) ใส่จำนวนเงินต่อวัน ใส่ Target ROI ที่ต้องการ แล้วก็เลือก Creative วิดีโอที่ต้องการ (เลือกแบบอัตโนมัติเลยก็ยังได้) แล้วก็กด Publish เท่านี้โฆษณาก็จะรันกันง่ายๆ แล้วก็รอดูผลลัพธ์ได้เลย
แต่หลายคนอาจจะนึกว่าการทำโฆษณา GMV Max นั้นจะต้องทำบน TikTok Seller Center อย่างเดียวหรือเปล่า แต่ในความเป็นจริง เราสามารถเพิ่มสิทธิ์การทำโฆษณา GMV Max ให้ใช้งานใน TikTok Ad Manager และ TikTok Business Manager ได้ด้วย เผื่อว่าใครที่จะต้องการจ้างดิจิทัลเอเจนซี่ (อย่าง Digital Break Time เอง) เพื่อให้เข้าถึงการทำโฆษณา GMV Max โดยที่ไม่ต้องให้เข้าผ่าน Seller Center ได้ด้วย จะได้ปลอดภัยไปอีกขั้น เอเจนซี่ก็จะดูเฉพาะผลลัพธ์การทำโฆษณาได้อย่างเดียว และถ้ายิ่งจัดทำเป็นระบบ TikTok Business Manager แล้วต่อให้มีหลายร้านค้า ก็สามารถทำโฆษณา GMV Max ได้ทุกร้านค้า โดยที่บิลโฆษณาออกมารวมกันได้ง่าย ๆ ไม่ต้องปวดหัวแยกบิลกันไปมาได้อีก หรือว่าจะเชื่อมต่อกับ TikTok Account ที่ลงวิดีโอ ใช้วิดีโอได้ตามต้องการได้ด้วย เรียกว่าค่อนข้างยืดหยุ่นมากๆเลยทีเดียว
สรุป จุดเด่น GMV Max ใน TikTok
ทั้งหมดนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของโฆษณา GMV Max ใน TikTok เมื่อดูจากเทรนด์และแนวโน้มของ TikTok แล้วโฆษณาแบบ GMV Max น่าจะเข้ามาเป็นเทรนด์หลักในอนาคต ซึ่งมีความแตกต่างจากการทำโฆษณาแบบ VSA, PSA แบบเดิม และอย่าลืมว่าโฆษณา GMV Max นั้นมีแบบ Live ด้วย ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายของที่มารายได้เพิ่มขึ้นอีก ใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะทำโฆษณา GMV Max บน TikTok ดีไหม หรือกำลังทำอยู่ก็ตาม สามารถนำจุดเด่นของ GMV Max ไปปรับใช้กันได้ เพื่อให้ได้ ROI และรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าใน TikTok Shop
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time