Impr. (Top) % คืออะไร เรียกได้ว่า Google Ads ในส่วนของ Search นั้น มีการปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งมี Metric ใหม่เพิ่มเข้ามา เช่น
- Impr. (Top) % หรือเรียกเต็มๆ ว่า Search top impression rate
- Impr. (Abs. Top) % มีชื่อว่า Search absolute top impression rate
- Search top IS มีชื่อเต็มว่า Search top impression share (IS)
- Search abs. top IS มีชื่อยาวว่า Search absolute top impression share
จะเห็นได้ว่า Metric ใหม่ทั้งหมดนี้ มาเพื่อวัดตำแหน่งของการโชว์โฆษณาว่าเอาเข้าจริงแล้ว เมื่อโฆษณาโชว์ โฆษณาของเราอยู่ในตำแหน่งใดนั่นเอง โดยในบทความนี้เราจะกล่าวถึง Impr. (Top) % และ Impr. (Abs. Top) เท่านั้น
Impr. (Top) % คืออะไร ต่างจาก Impr. (Abs. Top) % ไหม และมาแทน Avg. Position จริงหรือ?
- Impr. (Top) % คืออะไร
- Impr. (Abs. Top) % คืออะไร
- Average Position หายไปไหน ใช้ไม่ได้แล้วหรือ?
- Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% อยู่ตรงไหน
- ส่องดูตัวอย่าง Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% จากเคสจริง
- เพิ่ม Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% ต้องปรับตรงไหนบ้าง
- สรุป Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% สำคัญแค่ไหน บอกอะไรกับเราได้บ้าง
Impr. (Top) % คืออะไร

Impr. (Top) % มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Search top impression rate คือเมื่อโฆษณาของเราโชว์ มีสักกี่เปอร์เซ็นต์ที่โฆษณาของเราอยู่เหนือผลลัพธ์การค้นหาแบบ Organic นั่นเอง ลองคิดถึงภาพความเป็นจริง เมื่อเราค้นหาแล้วมีส่วนที่เป็น Paid Search คือส่วนที่เป็นโฆษณา ใช่ว่าจะอยู่เหนือ Organic (SEO) ทั้งหมด บางทีหล่นไปอยู่ข้างล่างก็มี ตัวอย่างเช่นถ้าหากเรามี Impr. (Top) % อยู่ที่ 70% คือโฆษณาของเราโชว์ไป 100 ครั้ง เท่ากับ 70 ครั้งอยู่เหนือผลลัพธ์แบบ Organic นั่นเอง
Impr. (Abs. Top) % คืออะไร
Impr. (Abs. Top) % มีชื่อว่า Search absolute top impression rate ต่างจากข้างบนนิดหน่อยคือ คือโฆษณาโชว์เป็นลำดับที่ 1 เหนือ Organic มากแค่ไหน เช่นถ้าเป็น Impr. (Abs. Top) % อยู่ที่ 50% นั่นหมายความว่า โฆษณาโชว์ 100 ครั้ง โฆษณาของเราปรากฎเป็นลำดับที่ 1 เหนือ Organic อยู่ถึง 50 ครั้งนั่นเอง โดยปกติแล้วค่า Impr. (Top) % จะสูงกว่า Impr. (Abs. Top) %
Average Position หายไปไหน ใช้ไม่ได้แล้วหรือ?
เสียใจสำหรับคนที่มองหาว่า Average Position ที่บอกตำแหน่งเฉลี่ยโดยตรงว่าโฆษณาของเราอยู่ในลำดับที่เท่าไร หายไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง Google Ads ได้นำ Metric ส่วนนี้ออกไปเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2019 ที่ผ่านมานี้เอง ทำให้เราไม่สามารถเรียก Metric นี้มาดูได้อีกต่อไป
เรียกว่า Impr. (Top) % และ Impr. (Abs. Top) มาแทนที่ Average Position เป็นที่แน่นอนแล้ว ทำให้เหล่านักการตลาดย่อมต้องหันมาสนใจในด้านนี้ให้มากขึ้น อีกส่วนหนึ่งคือ Search Impression Share ที่ควรศึกษาเพิ่มเติม
Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% อยู่ตรงไหน
สามารถดูได้ที่ ไปที่หน้า Dashboard ของ Google Ads เลือกที่ Campaign แล้วตามด้วยคลิกที่ เมนู Columns ที่อยู่ด้านขวามือ > Modify Columns > Performance > เลือก Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)%
เท่านี้ในหน้า Dashboard ก็จะแสดงโชว์ Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% ได้แล้ว สามารถดูได้แบบรายแคมเปญได้เลย เพื่อให้รู้ว่าประสิทธิภาพแคมเปญไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร
ส่องดูตัวอย่าง Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% จากเคสจริง

อันนี้นำมาจากแคมเปญจริง เพื่อยกเป็นตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า
- Campaign A มี Impr. (Top)% = 87.22%, Impr. (Abs. Top)% = 45.55%
- Campaign B มี Impr. (Top)% = 63.10%, Impr. (Abs. Top)% = 13.10%
- Campaign C มี Impr. (Top)% = 84.10%, Impr. (Abs. Top)% = 17.82%
- Campaign D มี Impr. (Top)% = 86.26%, Impr. (Abs. Top)% = 26.42%
ซึ่งแคมเปญที่ผลลัพธ์ดีที่สุด จะเป็นแคมเปญ A แสดงในลำดับที่ 1-4 กว่า 87 ครั้ง และโชว์ที่ 1 อยู่ที่ 45 ครั้ง เป็นแคมเปญที่ดีที่สุด จะไม่เปลี่ยนการตั้งค่าอะไร เพราะส่วนตัวแคมเปญ A รันดีมาก ๆ (ซึ่งก็จริง ลูกค้ามาจากแคมเปญนี้เยอะสุด ๆ)
แต่แคมเปญที่ควรจะต้องโฟกัสและแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้น นั่นคือ แคมเปญ B เพราะคิดว่า Impr. (Top)% = 63.10%, Impr. (Abs. Top)% = 13.10% ส่วน Campaign C อาจจะแก้ไขส่วนที่เป็น Impr. (Abs. Top)% ให้สูงขึ้น เนื่องจากตัวเลขต่ำกว่าเกณฑ์ส่วนตัวที่ตั้งไว้ ซึ่งวิธีแก้ไขอ่านได้ในหัวข้อถัดไป
เพิ่ม Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% ต้องปรับตรงไหนบ้าง
วิธีเพิ่ม Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% สามารถทำได้ ซึ่งทำได้หลายวิธีด้วย ซึ่งเป็นวิธีที่เกิดจากประสบการณ์ของตัวเอง เลยแนะนำวิธีดังนี้
1. ปรับราคา Bidding ให้สูงขึ้น
ซึ่งการที่โฆษณาของเราโชว์ในส่วนที่เป็นลำดับ 1-4 น้อย ส่วนมากมักจะเป็นเรื่องของ Bidding เป็นหลัก ถ้าเราใช้ Manual CPC ก็ปรับราคา CPC ให้สูงขึ้น ถ้าใครใช้ Target CPA ก็ปรับราคาให้สูงขึ้น เพราะราคา CPC กับราคา Target CPA นั้นถ้าสูงขึ้นนั่นหมายถึงเรายอมจ่ายเงินได้มากขึ้นในราคาปรับเพิ่ม Bidding ก็จะช่วยให้เราเพิ่ม Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% ได้
และถ้าเป็น Target ROAS ก็ควรจะปรับให้ลดลง เพราะนั่นหมายถึงเราต้องการ Value ลดลงเมื่อเทียบกับการใช้เงินในการทำโฆษณา เมื่อเราปรับลดลง Google Ads ก็จะเพิ่มราคา Bidding เพื่อทำโฆษณาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ปรับ Keywords คีย์เวิร์ด ให้ตรงมากขึ้น
จริง ๆ ในเรื่องของคีย์เวิร์ด เราค่อนข้างพูดบ่อย เพราะถือว่าเป็นส่วนสำคัญ ให้ตรงในที่นี้คือเป็นคีย์เวิร์ดที่มีความลักษณะเฉพาะเจาะจง คนใช้คีย์เวิร์ดนี้ เพื่อหาสินค้าและบริการนี้อยู่แล้วอย่างเช่น
- เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย
ควรจะเจอข้อความโฆษณาที่เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย และหน้า Landing Page ก็เป็นหน้าสินค้าที่เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายเช่นกัน ส่วนคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องบ้าง อย่างเช่น
- หุ่นยนต์ดูดฝุ่น
- เครื่องดูดฝุ่นมีสาย
ทำให้ความเกี่ยวข้องลดลง ลองคิดถึงถ้าเป็นเรา ค้นหาด้วยคำว่า “หุ่นยนต์ดูดฝุ่น” เจอโฆษณาที่ว่าด้วยเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ก็ไม่ตรงกัน ไม่ตอบโจทย์ Search Intent เจตนาการค้นหา หรือบางคนในคำโฆษณาแบบรวม ๆ คนเจอก็อาจจะกดคลิก แต่พอเข้าไปที่ Landing Page จริง กลับมีแต่เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ก็ทำให้คีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องลดลง Quality Score ต่ำลงในคีย์เวิร์ดที่ไม่เกี่ยวข้อง ก็จะทำให้ภาพรวมของแคมเปญนั้นมี Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% ที่ลดลง ถ้าเอาคีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องต่ำออกไป จะช่วยให้เพิ่มขึ้นได้ในภาพรวม
สรุป Impr. (Top)% และ Impr. (Abs. Top)% สำคัญแค่ไหน บอกอะไรกับเราได้บ้าง
ทำให้เราได้รู้ว่าโฆษณา Search ใน Google Ads ของเราแสดงมากน้อยแค่ไหน ในลำดับที่มีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งไว้ดูเป็นแนวทางได้ว่าต้องปรับอะไรเพิ่มอีก แต่ในความเป็นจริงเราควรดูหลาย ๆ อย่างร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น Search Impression Share, งบประมาณ, CPC, CPA, Conversion Value ไปด้วย เพื่อให้ Search Ads ของเรามีประโยชน์สูงสุด
ที่มาบางส่วนจาก [1]
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time