Text Overlay คืออะไร Text overlay คือเครื่องมือชนิดหนึ่ง สำหรับตรวจสอบข้อความปิดทับบนรูปภาพ สำหรับการใช้โฆษณาบน Facebook นั่นเอง ซึ่งคุณสามารถใช้งานเครื่องมือ Text Overlay ได้ที่นี่
เลือกหัวข้อที่ต้องการ
Text Overlay คืออะไร ถ้าไม่ทำตามกฎนี้จะเกิดอะไรขึ้น
Text Overlay จะทำหน้าที่ตรวจสอบรูปภาพสำหรับการโฆษณาบน Facebook โดยระดับของข้อความที่อยู่บนรูปภาพจะสามารถแบ่งได้ออกเป็น 4 ระดับด้วยกันคือ
- ข้อความปิดทับระดับ OK
มีข้อความอยู่ในรูปน้อยมาก หรืออยู่ในระดับที่ Facebook รับได้ ทำให้โฆษณาได้ปกติ ไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด แนะนำว่าถ้าทำรูปภาพครั้งใดก็ตาม ควรให้อยู่ในระดับนี้จะดีที่สุด เพื่อการโฆษณาให้เกิดประสิทธิภาพ
- ข้อความปิดทับระดับ Low
ในระดับนี้ก็จะบอกเลยว่าประสิทธิภาพการโฆษณาจะลดลงเล็กน้อย เพราะมีข้อความในรูปภาพ แต่ก็ยังโฆษณาได้อยู่
- ข้อความปิดทับระดับ Medium
มีข้อความปิดทับในรูประดับปานกลาง จะทำให้ลดประสิทธิภาพของการโฆษณาลงไปอีกมากกว่าแบบ Low แต่ก็ยังคงโฆษณาได้อยู่
- ข้อความปิดทับระดับ High
มีข้อความปิดทับในระดับสูง ทำให้โฆษณารันน้อยมาก ประสิทธิภาพต่ำ มีโอกาสสูงมากที่โฆษณาจะไม่รันได้
บางคนอาจนึงภาพไม่ออกว่าจะมีผลแค่ไหน เช่นสมมติว่าเราจ่ายค่าโฆษณา 1,000 บาท โดยปกติเราควรจะได้ Reach, Engagement, Click, Conversion ในระดับที่สูงที่สุดที่เป็นไปได้ แต่ลดลงมาก ขึ้นอยู่กับระดับข้อความปิดทับ ดังนั้นควรเอาใจใส่ให้มากในจุดนี้
ในเมื่อมันใหญ่เกินไป ก็ปรับให้เล็กลงไงล่ะ หรือตัดคำให้สั้นลง
ช่างเป็นคำแนะนำที่เป็นแบบกำปั้นทุบดินมาก ๆ แต่ก็เป็นเรื่องจริง และเรื่องง่ายที่สุดในบางสถานการณ์ที่จะทำได้ เพียงแค่ปรับ Text บนรูปให้เล็กลง แต่ถ้าคำบนรูปภาพมีความยาวมากเกินไป การปรับให้ข้อความบนรูปเล็กลงก็เท่ากับว่าจะมองไม่เห็นเลยทีเดียว ดังนั้นจำเป็นมากที่จะต้องตัดคำให้สั้นลง แต่ยังอ่านแล้วได้ใจความที่รู้เรื่อง เน้นประหยัดคำ เท่านี้ก็จะได้ขนาดที่พอดี โดดเด่น และยังอ่านรู้เรื่อง แถมยังโฆษณาได้อีก
ปรับตำแหน่งของข้อความในรูปให้เหมาะสม ลองทุกตำแหน่งที่เป็นไปได้

ถึงแม้ว่าการตีตารางให้แบ่งช่อองมาเป็น 25 ช่องขนาดเท่า ๆ กันในรูปภาพจะเป็นเรื่องเก่าของกฎการโฆษณาใน Facebook ไปแล้ว แต่ก็สามารถนำมาใช้ได้อยู่ วิธีการก็ง่าย ๆ แค่ตีตารางให้ได้ 25 ช่องเท่า ๆ กัน จากนั้นก็สามารถปรับ Text ให้อยู่ในช่องสี่เหลี่ยมได้ไม่เกิน 5 ช่อง จาก 25 ช่อง ถ้าทำได้แล้วลองใช้ Text Overlay เพื่อเช็กอีกครั้งหนึ่ง โดยมากแล้วมักจะผ่าน ถ้าทำตามนี้แล้วยังไม่ผ่าน มาลองที่ข้อถัดไป
ปรับ Opacity ลดลง เพื่อหลบเลี่ยง Text 20%
ถ้าทำสองข้อด้านบนแล้วยังไม่สำเร็จ เราแนะนำให้ปรับความโปร่งแสงของข้อความที่เราต้องการ หรือที่เรียกว่า Opacity ลง ใช่ว่าปรับเสียจนโปร่งใสแทบอ่านไม่ได้ เอาแค่พอเหมาะพอควร แต่ยังอ่านได้ก็เพียงพอ เพื่อที่จะหลบเลี่ยงการตรวจจับ แต่วิธีนี้เมื่อโฆษณาเป็นระยะเวลานาน ก็มักจะถูกตรวจจับได้ภายหลัง (จากประสบการณ์จริง) แต่ถ้าโฆษณาเป็นระยะเวลาไม่นาน ก็ลองทดสอบทำกันดูได้
เปลี่ยน Layout ของรูปภาพใหม่ เพื่อขยายขนาดของรูปภาพมากขึ้น

ในเมื่อถ้าเราเปลี่ยนรูปแบบของ Text ไม่ได้ จะย่อก็ไม่ได้ ตัดคำก็ไม่ได้ ปรับ Opacity ก็ไม่ได้แล้ว เราขอแนะนำให้ท่านลองเปลี่ยน Layout ของรูปให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ปกติดใช้เป็นขนาด 1:1 สี่เหลี่ยมจัตุรัสธรรมดา ลองเปลี่ยนเป็นขนาดแนวตั้ง 4:5 ดู ก็จะทำให้ภาพยาวขึ้น ใหญ่ขึ้นอีก ก็จะช่วยให้มีอิสระในการปรับเปลี่ยนขนาดของ Text ตามไปด้วยเช่นกัน
มีข้อยกเว้นบ้างหรือไม่
มีบ้าง เช่นรูปที่เป็นลักษณะแบบหน้าปกหนังสือหรือหน้าปกอัลบั้มเพลง รูปสินค้าที่มีฉลากข้อความติดอยู่ในสินค้า (แต่ขนาดรูปต้องไม่ใหญ่เกินไป) รูปจากเกม โปสเตอร์อีเวนต์ และการโฆษณาลงบน Instagram Stories โดยลืมกฎข้างบนไปเสียทั้งหมด สำหรับ Instagram Stories เพราะ การโฆษณาใน IG Stories ไม่มีการนำมาคิด Text ใด ๆ ทั้งนั้น (แต่ในความเป็นจริงแล้วก็ย่อมมีน้อยมากที่จะลง Placement เฉพาะ Instagram Stories เพียงอย่างเดียว)
การที่ Facebook ตั้ง Policy เหล่านี้ เพื่อความคุมการโฆษณาโดยรวมให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน แน่นอนว่าเราเป็นผู้เช่า ก็ย่อมที่จะต้องทำตามกฎของ Facebook ที่ตั้งเอาไว้ เพื่อการโฆษณาให้เกิดประสิทธิภาพให้ได้มากที่สุดนั่นเอง
ที่มาบางส่วนจาก [1]
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time