โฆษณา Facebook มือใหม่ ใครที่เคยโฆษณากับ Facebook สำหรับบทความนี้อาจจะดูธรรมดามาก ๆ แต่บอกเลยว่าสำหรับมือใหม่ เจ็บมาเยอะ โดนมาเยอะ เชื่อว่าหลายคนก็ต้องผ่านในจุดนี้มาเหมือนกัน ทั้งหมดนี้คือความผิดพลาดที่มือใหม่มักจะทำกันแบบไม่รู้ตัว เช่น
3 ความผิดพลาด การทำโฆษณา Facebook มือใหม่ ทำกันบ่อยแบบไม่รู้ตัว
โฆษณา Facebook มือใหม่ โดย กดโฆษณาจากหน้าเพจ
อันนี้เข้าใจเลยว่าการกดโฆษณาจากหน้าเพจเป็นเรื่องง่ายมาก (แน่นอนง่ายจริง ๆ แค่กดปุ่มไม่กี่ครั้งก็โฆษณาได้แล้ว) เพราะว่า Facebook ต้องการโน้มน้าวให้เกิดการโฆษณา จึงออกแบบให้โฆษณาได้ง่ายจากหน้าเพจเลย แต่ว่าการโฆษณาจากหน้าเพจมีข้อจำกัดเป็นอย่างมาก นั่นคือคุณจะสามารถทำได้แค่ 1 Target ต่อ 1 Ads เท่านั้น และยังไม่พอคุณก็จะต้องโพสต์ที่หน้าเพจก่อนถึงจะโฆษณาได้ สุดท้ายก็จะเลือก Objective ได้เพียงแค่ 2 อย่างเท่านั้นนั่นคือ Engagement และ Message (รวมไปถึงแบบ Auto ที่จะเลือกทั้ง 2 อย่างรวมกัน) ในความเป็นจริงแล้ว Facebook มี Objective ให้เลือกมากกว่านี้มาก โดยแต่ละอย่างอาจจะเหมาะกับธุรกิจของคุณไม่เหมือนกัน
คิดว่า Engagement และ Send Message คือที่สุดแล้ว

ข้อนี้เป็นผลพวงจากการกดโฆษณาแต่หน้าเพจเท่านั้น เนื่องจากว่า Facebook ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย คุณก็จะเลือกได้แค่ Objective ในรูปแบบ Engagement, Send Message, Get Call และแบบ Automated เท่านั้น ทำให้ความหลากหลายของการทำโฆษณาลดลงอย่างเห็นได้ชัด แนะนำว่าให้ทำโฆษณาจาก Ads Manager ของทาง Facebook เอง เพราะว่าคุณจะค้นพบ Objective ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- กลุ่ม Awareness
ทั้ง Reach และ Brand Awareness เน้นโชว์เยอะ ๆ ซึ่งเท่าที่ได้ลองใช้ Reach และ Impression เยอะมาก เยอะกว่า Engagement และ Message มาก - กลุ่ม Consideration
ทั้ง Traffic, App Installs, Lead Generation และ Video Views ทั้งหมดนี้เป็นกลุ่มที่จะช่วยทำให้เกิดการพิจารณาสินค้าและบริการให้ดีมากยิ่งขึ้น - กลุ่ม Conversion
กลุ่มนี้จะเน้นให้เกิดการซื้อขาย สินค้าและบริการ กลุ่มนี้เรียกได้ว่าเป็นขั้นสุดของการทำโฆษณาบน Facebook เลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็น Conversions, Catalog Sales, Store Traffic
ซึ่งถ้าเราได้ศึกษามากยิ่งขึ้น จะช่วยให้เราเข้าในระบบโฆษณาของ Facebook มากกว่าเดิม และเลือก Objective ที่เหมาะกับสินค้าและบริการของเราได้อย่างเหมาะสม
วัดผลโดยโฟกัสกับบางอย่างที่ไม่ได้เหมาะสม
เนื่องจากโฆษณาของ Facebook นั้นมีการวัดผลมากมาย แต่ละอย่างก็สามารถนำมาเพื่อพิจารณาได้ แต่บางอย่างก็ไม่ได้บอกว่าสินค้าเราจะขายได้ เช่นถ้าเราทำโฆษณา Engagement เป็นหลัก สิ่งที่เราควรจะดูนั่นคือ Cost per Engagement และต้องเข้าใจธรรมชาติของ Engagement ด้วยว่า ถึง Engagement จะสูง Cost per Engage จะต่ำ แต่ถ้ามาดู Cost per Click ในกลุ่ม Objective Engagement จะสูงมาก ถ้ามาโฟกัสตรงนี้ก็อาจจะไม่ใช่ แนะนำว่า ถ้าเราทำโฆษณา Objective อันไหน ให้ดู Results เป็นหลัก และดูอย่างอื่นเสริมประกอบ อย่าพยายามโฟกัสกับ Metric บางอย่างที่ไม่ได้เหมาะ เพราะจะทำให้เราไขว้เขวได้มาก
ทั้งหมดนี้คือความผิดพลาดที่หลายอาจเจอ หรือเคยทำมาก่อน แต่ไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไร เพราะผู้เขียนก็เคยผ่านมาก่อนเช่นกัน ทั้งหมดนี้เราสามารถแก้ไขได้โดยลองทำโฆษณา Objective อื่น ๆ ที่เหมาะกับธุรกิจของเราจะเป็นบทเรียนที่ดีที่สุด
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามข่าวสาร บทความดี ๆ จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time