ขายของบนเว็บไซต์ อยากขายของออนไลน์ เลือกอะไรดี ระหว่าง เปิดเว็บไซต์เอง หรือ ใช้ Shopee, Lazada, TikTok Shop ? ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่พ่อค้าตัวจริงตัวตึง แต่ในฐานะคนทำงาน Digital Marketing วันนี้ผมขอพาทุกคนไปทำความเข้าใจเรื่องที่ควรรู้ ก่อนจะตัดสินใจเลือกกันครับ
ขายของบนเว็บไซต์ ตัวเอง VS แพลตฟอร์ม E-Commerce เลือกอะไรดี
ขายของบนเว็บไซต์ ตัวเอง ดีกว่ายังไง?
ได้กำไรเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่มีค่า GP หรือค่าคอมมิชชั่น

- ขายของบน Shopee, Lazada, TikTok Shop ต้องเสียค่าธรรมเนียมจากยอดขาย (Commission/GP)
- เว็บไซต์ตัวเองไม่ต้องแบ่งรายได้ ทำให้ได้กำไรสุทธิสูงกว่า
- เหมาะกับการสร้างธุรกิจในระยะยาว กำไรสะสมได้จริง
แน่นอนว่าการขายสินค้าบนเว็บไซต์ตัวเอง เป็นเหมือนการที่คุณตั้งร้านค้าในที่ดินของตัวเอง เพราะฉะนัันเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลูกค้าจ่าย ก็จะเข้ากระเป๋าคุณโดยตรง ไม่ต้องมีใครมาหักส่วนแบ่ง ซึ่งแตกต่างจากการขายบนแพลตฟอร์มอื่นๆ ที่ต้องเสียค่า GP ทุกครั้งที่ขายได้
ลองคิดง่ายๆ ว่าถ้าเราขายเสื้อราคา 1,000 บาท บนแพลตฟอร์มอื่าน อาจจะโดนหักค่าธรรมเนียม สมมติว่า 10% เราก็ได้เงินเพียง 900 บาท/ ชิ้น แต่ถ้าขายบนเว็บตัวเองก็ได้ 1,000 บาทเต็มๆ (ไม่รวมเรื่องค่าธรรมเนียมธุรกรรม หากต้องการให้มีการรองรับการตัดผ่านบัตรเครดิตหรือเชื่อมต่อ API ตัวแทนชำระเงิน)
10 บาทที่ว่ามานี้อาจจะดูนิดหน่อย แต่อย่าลืมว่ายิ่งขายได้เยอะก็โดนหักเยอะขึ้นตามไปด้วย และ 10% ที่ว่ามานี้ก็เป็นแค่ตัวอย่างที่สมมติขึ้นมา บางแพลตฟอร์มอาจจะหักมากหรือน้อยกว่านั้นอีกด้วย
บริหารข้อมูลลูกค้าเองได้เต็มที่ ทำ CRM ง่ายกว่า
เมื่อขายบนเว็บไซต์ตัวเอง เราก็สามารถเก็บข้อมูลการซื้อ พฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์ ความสนใจในสินค้าต่างๆ และนำไปวิเคราะห์เพื่อทำการตลาดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
การทำ Retargeting กับกลุ่มลูกค้าเก่าก็ทำได้ง่ายเพราะมีข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของพวกเขา เช่น ส่งโค้ดส่วนลดให้ลูกค้าที่เคยซื้อแต่หายไปนาน หรือแจ้งสินค้าใหม่ให้ลูกค้าประจำรู้ก่อนใคร
อิสระในการบริหารและสร้างแบรนด์
พอเราเป็นเจ้าของเว็บไซต์เอง ก็สามารถออกแบบได้เองทุกระเบียบนิ้ว ไม่ว่าจะสีสัน องค์ประกอบ หน้าตา หรือรูปแบบการนำเสนอสินค้า รวมถึงยังมีอิสระในการทำแผนการตลาดเองทั้งหมด โดยไม่ต้องยึดโยงกับแคมเปญหลักของแพลตฟอร์ม เรียกได้ว่ามันเปิดกว้างกว่าในการมีไอเดียในการขายขแง
ความท้าทายของการ ขายของบนเว็บไซต์ ตัวเอง

แต่ในข้อดีก็มีความท้าทายด้วยเช่นกัน มาดูกันว่าสิ่งที่คน ขายของบนเว็บไซต์ ตัวเอง ต้อง Work Hard กว่าการขายบนแพลตฟอร์ม E-Commerce คืออะไร
ต้องวางแผน Digital Marketing เอง
เว็บไซต์ส่วนตัวมักจะไม่มีระบบสนับสนุนการขาย เช่น Flash Sale, Mega Day, Mid Month, Pay Day เหมือนใน Shopee, Lazada รวมถึง ต้องทำโฆษณาและโปรโมตสินค้าอย่างสม่ำเสมอ
ด้วยเครื่องมือต่างๆ เช่น Google Ads, Facebook Ads, SEO เพื่อดึงลูกค้าเข้ามาเอง แต่ในแพลตฟอร์มอื่นๆ จะมีระบบที่ช่วยเพิ่มการเข้าถึงมาซัพพอร์ตตรงส่วนนี้ (ทั้งฟรีและเสียเงิน)
ต้องลงทุนสร้างเว็บไซต์และระบบหลังบ้าน
การมีเว็บไซต์ตัวเองมันก็มาพร้อมค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงกว่า เช่น ค่าโดเมน, ค่าโฮสติ้ง, ค่า Dev เว็บไซต์ และยิ่งถ้าต้องการระบบที่หลากหลายครอบคลุมการทำงานมากขึ้น เช่น ระบบชำระเงิน, ระบบ CRM หรือ Stock ก็เท่ากับต้องทุ่มเงินมากขึ้นไปอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่ต้องลงทุนเพิ่ม ไม่ใช่แค่เงิน แต่รวมถึงเวลาด้วย ต่างจากการขายบนแพลตฟอร์มที่อาจจะเรียกได้ว่าไม่ได้เริ่มจาก 0
เปรียบเทียบการขายบน Shopee, Lazada, TikTok Shop

ข้อดีของการขายบน Marketplace
- มีลูกค้าพร้อมซื้อจำนวนมากจาก Traffic ของแพลตฟอร์ม
- สามารถใช้เครื่องมือการตลาดที่แพลตฟอร์มมีให้ เช่น Flash Sale, Campaign ต่าง ๆ
- ไม่ต้องวางระบบหลังบ้านเอง เช่น ระบบจ่ายเงิน ระบบส่งสินค้า ฯลฯ
ข้อจำกัดของ Marketplace
- เสียค่าธรรมเนียมและค่า GP ทำให้กำไรลดลง
- มีการแข่งขันสูง ต้องแข่งราคาอย่างหนัก
- จำกัดการเก็บข้อมูลลูกค้า ไม่สามารถทำ CRM หรือ Retargeting ได้เต็มรูปแบบ
ตารางเปรียบเทียบ ขายของบนเว็บไซต์ ตัวเอง VS แพลตฟอร์ม E – Commerce
ด้านต่างๆ | เว็บไซต์ตัวเอง | แพลตฟอร์ม E-Commerce |
กำไร | ได้กำไรเต็ม ไม่มีหัก GP | ต้องเสียค่า GP ค่าคอมมิชชั่น |
ข้อมูลลูกค้า | เก็บข้อมูลลูกค้าได้เอง ทำ CRM ได้ | ไม่สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้เต็มที่ |
การทำการตลาด | ต้องวางแผนและทำโฆษณาเองทั้งหมด | ใช้เครื่องมือการตลาดของแพลตฟอร์มได้ |
ต้นทุนเริ่มต้น | ต้องลงทุนสร้างเว็บไซต์เอง | ไม่มีต้นทุนสร้างร้านค้า (แต่เสียค่าธรรมเนียมเมื่อขายได้) |
อิสระในการบริหาร | ปรับแต่งเว็บไซต์ได้ตามต้องการ | ต้องทำตามกฎของแพลตฟอร์ม |
การแข่งขัน | การแข่งขันสูง แต่มีความน่าเชื่อถือสูงจากการมีเว็บไซต์ของตัวเอง | แข่งขันสูง ต้องสู้เรื่องราคากับร้านค้าอื่น |
การเข้าถึงลูกค้า | ต้องทำการตลาดเพื่อดึงลูกค้า | มีลูกค้าจาก Traffic ของแพลตฟอร์มอยู่ แต่ก็ต้องทำการตลาดควบคู่ด้วยเช่นกัน |
อยาก ขายของบนเว็บไซต์ และ Marketplace พร้อมกัน Digital Break Time ช่วยคุณได้
ถ้าไม่รู้ว่าจะเลือก ขายของบนเว็บไซต์ ตัวเอง หรือจะขายบนแพลตฟอร์ม E- Commerce ดี? Digital Break Time ช่วยคุณได้
- รับทำเว็บไซต์ ให้คำปรึกษาพร้อมจัดทำเว็บไซต์ตามความต้องการ
- โฆษณา E-Commerce Ads : Shopee Ads, Lazada Ads, TikTok Ads เพื่อกระตุ้นยอดขายบนมาร์เก็ตเพลส โดยทีมงานที่เชี่ยวชาญการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ
วางแผนการตลาดออนไลน์ ทั้ง SEO, Google Ads, Facebook Ads เพื่อสร้างการรับรู้และดึงลูกค้าเข้าสู่เว็บไซต์โดยตรง
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, X, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast