กลุ่มเป้าหมาย Lookalike นับว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายของ Facebook ที่นิยมใช้กันค่อนข้างมาก โดยของ Google Ads ก็จะมีกลุ่มเป้าหมายแบบนี้เหมือนกัน แต่ทว่าจะเรียกว่า Similar Audience แทน
ซึ่งกลุ่มเป้าหมาย Lookalike บน Facebook นั้นมีหลักการง่าย ๆ คือการสร้างกลุ่มเป้าหมายที่ความความคล้ายคลึงกับกลุ่มเป้าหมายตั้งต้นของเรา ซึ่งกลุ่มเป้าหมายตั้งต้นต้องเป็นรูปแบบ Custom Audience นั่นหมายความว่า ถ้าเราปราศจากกลุ่มเป้าหมายตั้งต้น ก็ไม่สามารถสร้าง Lookalike ได้ โดยมีระดับให้เลือกตั้งแต่ 1-10% เป็นจำนวนของประชากรที่ใช้งานใน Facebook แต่ละประเทศ ในไทย Lookalike 1% จะมี Target Audience ราว ๆ 500,000 Reach นั่นเอง
โดยปกติแล้วเท่าที่เคยเจอ มักจะเป็นการสร้างกลุ่มเป้าหมาย Lookalike ที่ทำได้ไม่ยาก เช่น Lookalike คนที่เคย Engage กับเพจ Facebook หรืออย่างลึกก็เป็นกลุ่มคนที่เคยเข้าเว็บไซต์ แต่วันนี้ Digital Break Time จะมานำเสนอการสร้าง Lookalike ที่เคยใช้งานจริง และเอาไปใช้กับการทำแคมเปญแบบไหนบ้าง มาดูกัน
เทคนิคการทำกลุ่มเป้าหมาย Lookalike ที่หลายคนมองข้าม
สร้าง กลุ่มเป้าหมาย Lookalike จากคนที่ Purchase หรือ Add to Cart จากเว็บไซต์ของเรา
![กลุ่มเป้าหมาย Lookalike](https://digitalbreaktime.com/wp-content/uploads/2022/09/กลุ่มเป้าหมาย-Lookalike-002-1024x427.jpg)
สำหรับใครที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง และสามารถสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ได้ แน่นอนว่าก็มักจะมีระบบ Add to cart หรือการชำระเงินอยู่แล้ว เราสามารถใช้ Facebook Pixel (ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็น Meta Pixel ละ ไม่ชินสักที) ติดตั้งและสร้าง Conversion เป็น Add to cart และ Purchase ได้ เมื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายคนที่เคย Add to cart หรือ Purchase มาแล้ว จากนั้นก็สร้างกลุ่มเป้าหมายแบบ Lookalike ได้เลยจากคนที่เคย Add to cart หรือ Purchase
โดยกลุ่มเป้าหมาย Lookalike รูปแบบนี้ก็เหมาะกับการนำไปใช้กับสินค้าอื่น ๆ ที่เราอยากให้ลูกค้าซื้อเหมือนกัน ถ้าเป็นสินค้าที่ใกล้เคียงกับของเดิมเรียกได้ว่าจะดีมาก อันนี้เท่าที่เคยใช้ส่วนตัวก็จะได้ Purchase มากกว่ากลุ่ม Mass โดยทั่วไปที่เราสร้าง Detail Targeting มาเองด้วยนะ
Lookalike จากคนที่ลงทะเบียนสำเร็จ หรือคนที่เปิดและกรอก Form ใน Facebook
![กลุ่มเป้าหมาย Lookalike](https://digitalbreaktime.com/wp-content/uploads/2022/09/กลุ่มเป้าหมาย-Lookalike-003-1024x429.jpg)
ต่อมาเอาใจคนที่ชอบทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Lead บ้าง สำหรับใครที่เน้นใช้ Facebook Lead form เป็น Objective หลัก เพื่อให้ได้คนลงทะเบียนเข้ามา รู้ไหมว่า Lookalike ก็สามารถสร้างจากคนที่เคยเปิดแบบฟอร์มได้ หรือตะเป้นสร้างจากคนที่เคยลงทะเบียนก็ได้เช่นกัน เหมาะมากกับการนำไปใช้กับแคมเปญที่เป็น Lead Form เหมือนกัน หรือจะนำไปใช้กับ Conversion บนเว็บไซต์ที่เน้นคนลงทะเบียนได้เหมือนกัน จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น แน่นอนว่าถ้าได้ Lead จำนวนมากขึ้น CPL (Cost per Lead) ก็จะลดลงตามไปด้วย
กลุ่มเป้าหมาย Lookalike จาก Customer List ที่เราอัพโหลด
สำหรับใครที่มีลิสต์รายชื่อลูกค้าอยู่แล้ว ขอให้มีอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์ เราเพียงแค่อัพโหลดเข้าไปบน Ad Manager แล้วก็สร้าง Lookalike ของ Customer List ที่เราอัพโหลดไป เท่านี้เราก็จะได้กลุ่มเป้าหมายที่มีความคล้ายคลึงกับลูกค้าของเราแล้ว ซึ่ง Lookalike รูปแบบนี้นำไปใช้ได้หลากหลายมาก ตั้งแต่ Conversion, Lead Form หรือว่าจะเป็น Catalog Sales หรือ Objective แบบพื้นฐานอย่าง Engagement, Reach ก็สามารถดัดแปลงได้เช่นกัน เพราะเราอยากได้กลุ่มที่มีความเหมือนหรือคล้ายคลึงกลับลูกค้าของเรานั่นเอง แต่วิธีนี้ต้องระวังเรื่องกฎหมาย PDPA ด้วยนะ ว่าต้องเป็นข้อมูลที่ได้รับการยินยอมอย่างถูกต้องด้วย
กลุ่มเป้าหมาย Lookalike สรุปเอาไปใช้กับอะไรได้บ้าง
จริง ๆ แล้ว กลุ่มเป้าหมาย Lookalike สร้างสร้างได้จาก Custom Audience สามารถทำได้หลากหลายกว่านี้มาก ๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอากลุ่มเป้าหมายไหนมาพลิกแพลงและใช้อย่างไร และเมื่อนำไปใช้ก็อย่าลืมวัดผลด้วยว่ากลุ่มเป้าหมายที่เราสร้างมานั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน
ใครที่มีคำถามเกี่ยวกับ Digital Marketing หรือเกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ สามารถ Inbox สอบถามได้ที่ Facebook ของ Digital Break Time คำถามเด็ด ๆ ที่คิดว่ามีประโยชน์จะนำมาเขียนบอกเล่าให้กับคนอื่น ๆ ได้รู้ด้วย
ติดตามเรื่องราว Digital Marketing จาก Digital Break Time ได้ที่
Facebook, Twitter, Line Official Account, Instagram, Spotify, YouTube, Apple Podcast
ธนาคาร เลิศสุดวิชัย x Digital Break Time